นายกฯ สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี'ชัยภูมิ' นักกิจกรรมชาวลาหู่ ถูกวิสามัญ
นายกรัฐมนตรีสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี ชัยภูมิ นักกิจกรรมชาวลาหู่ ถูกวิสามัญ เน้นย้ำให้ตรวจสอบตามหลักฐาน พยานที่ปรากฎ ด้านแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงเรียกร้องทางการไทยให้ดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นอิสระ ไม่ลำเอียง และเห็นผลต่อการสังหารครั้งนี้
วันที่ 21 ส.ค. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงกรณีเจ้าหน้าที่ทหารทำการวิสามัญ นายชัยภูมิ ป่าแส อายุ 21 ปี นักกิจกรรมชาวลาหู่ เสียชีวิตบริเวณด่านตรวจบ้านรินหลวง ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า ได้มีการตตรวจสอบขั้นต้นไปแล้วว่าเหตุเกิดเพราะอะไร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รายงานว่า ได้ทำการเรียกตรวจค้นรถยนต์ที่นายชัยภูมิโดยสารมา พบยาบ้าจำนวนหนึ่ง และนายชัยภูมิได้วิ่งหนีออกไปจากรถ ก่อนจะพยายามปาระเบิดขว้างใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ จนทำให้นายชัยภูมิ ป่าแส เสียชีวิต ทั้งนี้ ได้มีการสั่งการให้ตรวจสอบความชัดเจนตามพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริงที่ปรากฏอีกครั้งหนึ่งแล้ว
ส่วนประเด็นที่สังคมมองว่านายชัยภูมิ ป่าแส ถูกวิสามัญ เพราะเป็นนักกิจกรรมชาติพันธ์นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะรัฐบาลไม่ได้คิดแบบนี้
ขณะที่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการร์ เรียกร้องทางการไทยให้ดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นอิสระและเห็นผลต่อกรณีการสังหารนายชัยภูมิ ป่าแส อายุ 17 ปี นักกิจกรรมเยาวชนกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และทางการไทยต้องรับประกันว่าผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบจะต้องถูกนำตัวเข้ารับการไต่สวน หากพบว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนใดๆ อันเป็นเหตุให้เขาเสียชีวิต โดยผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดจะต้องถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในศาลพลเรือน ซึ่งได้มาตรฐานระหว่างประเทศและเป็นธรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
บันทึกปากคำจากพื้นที่ เกิดอะไรขึ้นกับ 'ชัยภูมิ ป่าแส'