เทียบทรัพย์สิน-รายได้‘เฮียเพ้ง-เต้น-นิวัฒน์ธำรง-สุชาติ’ช่วงนั่ง รมต.ก่อน สตง.บี้เก็บภาษี
เทียบบัญชีทรัพย์สิน-รายได้ 4 อดีตรัฐมนตรี ‘พงษ์ศักดิ์-ณัฐวุฒิ-นิวัฒน์ธำรง-สุชาติ’ ก่อนถูก สตง. บี้สรรพากรเก็บภาษีย้อนหลัง พบบางรายมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นหลักล้าน หนี้สินลดเพียบ
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานก่อนหน้านี้ว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทำเรื่องแจ้งให้กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ตรวจสอบข้อมูลภาษีย้อนหลังนักการเมืองรวม 60 ราย ภายหลังพ้นตำแหน่งและมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น เนื่องจากทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นของนักการเมืองกลุ่มนี้ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39 ของประมวลรัษฎากร อยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษี สตง. ตรวจสอบใบแสดงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.) แล้ว พบว่า นักการเมืองส่วนใหญ่แจ้งรายการเสียภาษีเฉพาะเงินเดือนเท่านั้น ไม่ได้นำทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นมาเสียภาษีด้วย จึงเป็นการเสียภาษีที่อาจไม่ถูกต้องครบถ้วน และอาจเข้าข่ายหลีกเลี่ยงภาษีได้
เบื้องต้นสำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่า มีนักการเมืองอย่างน้อย 4 ราย ที่ถูกระบุชื่ออยู่ในข่ายการตรวจสอบของ สตง. ที่ทำเรื่องถึงกรมสรรพากร ก่อนที่กรมสรรพากรจะทำหนังสือแจ้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำเรื่องแจ้งกลับไปยังกรมสรรพากร ได้แก่
1.นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล ไม่แนบสำเนา ภ.ง.ด. เมื่อปี 2554 โดยแจ้งว่า มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี
2.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไม่แนบสำเนา ภ.ง.ด. เมื่อปี 2553 โดยแจ้งว่า ไม่มีรายได้
3.นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ไม่แนบสำเนา ภ.ง.ด. เมื่อปี 2553 โดยแจ้งว่า รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี
4.นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ไม่แนบสำเนา ภ.ง.ด. เมื่อปี 2550 โดยแจ้งว่า รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี
(อ่านประกอบ : 'เสี่ยเพ้ง-ณัฐวุฒิ-นิวัฒน์ธำรง-สุชาติ' 4 ชื่อแรกนักการเมือง60ราย!ถูกสอบภาษีปมทรัพย์สินเพิ่ม)
จากการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนักการเมืองทั้ง 4 รายดังกล่าวที่แจ้งต่อ ป.ป.ช. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี พบรายละเอียด ดังนี้ (ดูตารางประกอบได้ท้ายรายงาน)
นายพงษ์ศักดิ์ แจ้งบัญชีทรัพย์สินช่วงเข้ารับตำแหน่ง รมว.พลังงาน (รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2555 ระบุสถานะว่า โสด มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ) 868,626,993 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 25,977,486 บาท มีรายได้รวม 2,388,580 บาท มีรายจ่ายรวม 2,081,735 บาท
แจ้งช่วงพ้นตำแหน่ง รมว.พลังงาน เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ระบุว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ) 869,382,975 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 27,760,041 บาท มีรายได้รวม 2,165,468 บาท มีรายจ่ายรวม 2,081,735 บาท
แจ้งช่วงพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี รมว.พลังงาน เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2558 ระบุว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ) 8,74,403,079 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 29,120,041 บาท มีรายได้รวม 4.2 ล้านบาท (เป็นค่าที่ปรึกษาทั้งหมด) มีรายจ่ายรวม 2,081,735 บาท
เมื่อเปรียบเทียบทรัพย์สินช่วงเข้ารับตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่ง มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 1,055,981 บาท หนี้สินเพิ่มขึ้น 1,782,555 บาท
เมื่อเปรียบเทียบทรัพย์สินช่วงพ้นจากตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 4,720,105 บาท หนี้สินเพิ่มขึ้น 1,360,000 บาท
นายณัฐวุฒิ แจ้งบัญชีทรัพย์สินช่วงเข้ารับตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ (รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์) เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2555 แจ้งสถานะว่าสมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของคู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ) 23,890,309 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 7,626,356 บาท มีรายได้รวม 2,725,440 บาท มีรายจ่ายรวม 1,697,808 บาท
พ้นจากตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2555 และเข้ารับตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ ในวันเดียวกัน ระบุว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ) 24,575,760 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 6,679,319 บาท มีรายได้รวม 2,725,440 บาท มีรายจ่ายรวม 1,637,808 บาท
พ้นจากตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ระบุว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ) 31,356,584 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 15,091,993 บาท มีรายได้รวม 1,362,720 บาท มีรายจ่ายรวม 173,544 บาท
พ้นจากตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2558 ระบุว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ) 32,000,015 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 14,972,133 บาท ไม่มีรายได้ มีรายจ่ายรวม 87,518 บาท
เมื่อเปรียบเทียบทรัพย์สินช่วงเข้ารับตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ และพ้นจากตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ-รับตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 667,796 บาท หนี้สินลดลง 947,037 บาท
เมื่อเปรียบเทียบทรัพย์สินช่วงพ้นจากตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ และพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 7,441,911 บาท หนี้สินเพิ่มขึ้น 8,292,814 บาท
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2554 นายณัฐวุฒิ แจ้งบัญชีทรัพย์สินช่วงเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. ระบุว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ) 21,864,458 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 6,738,043 บาท มีรายได้รวม 1,362,720 บาท มีรายจ่ายรวม 6,069,256 บาท
นายนิวัฒน์ธำรง เคยเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ 3 ตำแหน่ง ดังนี้
แจ้งบัญชีทรัพย์สินช่วงเข้ารับตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2555 แจ้งสถานะว่าสมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของคู่สมรส) 137,629,030 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 65,597 บาท มีรายได้รวม 3,954,630 บาท มีรายจ่ายรวม 2,794,400 บาท
พ้นจากตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 30 มิ.ย. 2556 ระบุว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของคู่สมรส) 137,597,365 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 65,009 บาท มีรายได้รวม 4,157,450 บาท มีรายจ่ายรวม 2,718,000 บาท
พ้นจากตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2557 มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของคู่สมรส) 122,213,825 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 87,592 บาท มีรายได้รวม 4,800,141 บาท มีรายจ่ายรวม 3,315,000 บาท
แจ้งเข้ารับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ และรองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2556 มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของคู่สมรส) 137,597,365 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 65,009 บาท มีรายได้รวม 4,157,450 บาท มีรายจ่ายรวม 2,718,000 บาท
พ้นจากตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ และรองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของคู่สมรส) 122,655,323 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 147,872 บาท มีรายได้รวม 4,650,241 บาท มีรายจ่ายรวม 3,225,000 บาท
พ้นจากตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ และรองนายกรัฐมนตรี ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2558 มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของคู่สมรส) 111,084,400 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 55,187 บาท มีรายได้รวม 3,290,280 บาท มีรายจ่ายรวม 2,980,000 บาท
เมื่อเปรียบเทียบช่วงเข้ารับตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และพ้นตำแหน่ง มีทรัพย์สินลดลง 31,665 บาท มีหนี้สินลดลง 588 บาท
เมื่อเปรียบเทียบช่วงพ้นตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี มีทรัพย์สินลดลง 15,383,540 บาท มีหนี้สินเพิ่มขึ้น 22,583 บาท
เมื่อเปรียบเทียบช่วงเข้ารับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ และรองนายกรัฐมนตรี และพ้นตำแหน่ง มีทรัพย์สินลดลง 14,942,042 บาท มีหนี้สินเพิ่มขึ้น 82,863 บาท
เมื่อเปรียบเทียบช่วงพ้นตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ และรองนายกรัฐมนตรี และพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี มีทรัพย์สินลดลง 11,570,923 บาท มีหนี้สินลดลง 92,685 บาท
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2554 นายนิวัฒน์ธำรง ยื่นบัญชีทรัพย์สินช่วงเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของคู่สมรส) 138,417,963 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 40,471 บาท มีรายได้รวม 4,386,750 บาท มีรายจ่ายรวม 2,794,400 บาท
นายสุชาติ แจ้งบัญชีทรัพย์สินช่วงเข้ารับตำแหน่ง รมช.คมนาคม (รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2553 ระบุสถานะว่าสมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของคู่สมรส) 74,850,011 บาท ไม่มีหนี้สิน และไม่มีรายได้
พ้นตำแหน่ง รมช.คมนาคม เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2554 มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของคู่สมรส) 75,167,976 บาท ไม่มีหนี้สิน มีรายได้รวม 2,614,680 บาท มีรายจ่ายรวม 2,520,000 บาท
พ้นตำแหน่ง รมช.คมนาคม ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2555 มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของคู่สมรส) 74,206,379 บาท ไม่มีหนี้สิน ไม่มีรายได้ มีรายจ่ายรวม 3 หมื่นบาท
เมื่อเปรียบเทียบช่วงเข้ารับตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่ง มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 317,965 บาท
เมื่อเปรียบเทียบช่วงพ้นจากตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี มีทรัพย์สินลดลง 961,597 บาท
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2551 นายสุชาติ ยื่นบัญชีทรัพย์สินช่วงเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของคู่สมรส) 79,919,267 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 5,779,162 บาท และไม่มีรายได้
น่าสังเกตว่า ในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินปกติต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรม (ภ.ง.ด.) ย้อนหลังประกอบ เช่น หากเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2554 (นายณัฐวุฒิ, นายนิวัฒน์ธำรง) จะต้องแนบสำเนา ภ.ง.ด. ย้อนหลังปี 2553 มาด้วย โดยในช่วงเวลาดังกล่าว นายณัฐวุฒิ แจ้งว่า มีรายได้รวม 1,362,720 บาท ส่วนนายนิวัฒน์ธำรง มีรายได้รวม 4,386,750 บาท แต่กลับแจ้งต่อ ป.ป.ช. ว่า ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี เป็นต้น
อ่านประกอบ :
เผย113 ชื่อนักการเมือง ก่อนถูกคัดเหลือ60! สตง.ไล่บี้เก็บภาษีปมทรัพย์สินรอบ2
จับตา'สตง.'เปิดเกมไล่บี้ภาษีนักการเมือง 60 คน&ทักษิณ กับความไม่ลงรอย'สรรพากร'