ทีมศก.ไร้ฝีมือใช่ไหม! ปธ.คตง.ค้านแนวคิดขึ้นvat8%-ชงใช้ม.44คลอดภาษีที่ดิน
ประธานคตง. ออกโรงค้านรัฐบาลค้านขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม7% เป็น8% หวั่นผู้ประกอบการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าบริการ ส่งผลกระทบปชช. ถามทีมเศรษฐกิจไร้ฝีมือใช่ไหม แนะใช้ ม.44 ทำคลอดภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้าง ลดเหลื่อมล้ำคนในสังคม ป้องกันการกว้านซื้อที่ดินนายทุน ย้ำปัญหาจัดเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ป หากปล่อยคดีขาดอายุความ ต้องดำเนินคดี รมต.คลัง-อธิบดีกรมสรรพากร อดีต-ปัจจุบัน ตามประมวลกม.อาญา ม.154-157
เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2560 นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ให้ความเห็นกรณีรัฐบาลจะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น8% ว่า การขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจะทำให้คนจนต้องจ่ายเงินซื้อสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น และผู้ประกอบการจะฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและบริการต่างๆ ค่าครองชีพของประชาชนจะเพิ่มขึ้น ประชาชนจะได้รับความเดือดร้อน อยู่อย่างยากลำบาก
"การขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มนี้แสดงว่ากรมสรรพากรหย่อนสมรรถภาพในการเก็บภาษีเงินได้(Income Tax)ซึ่งเป็นภาษีที่ดีและเป็นธรรมหรือไม่ หากกรมสรรพากรและกรมจัดเก็บภาษีอื่นมีประสิทธิภาพ ไม่หย่อนสมรรถภาพและรัฐบาลหารายได้อื่นโดยใช้รัฐวิสาหกิจ เช่น ปตท. อย่างเต็มที่ ก็ไม่จำเป็นต้องขึ้นภาษี การขึ้นภาษีครั้งนี้แสดงว่าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลไร้ฝีมือใช่ไหม หลังจากที่ได้ลองใช้มาตราลดหย่อนภาษีมาแล้วแต่ไม่ได้ผลจึงมาใช้วิธีขึ้นภาษีใช่ไหม"
นายชัยสิทธิ์ ยังกล่าวด้วยว่า กลุ่มคนที่เสียภาษีเงินได้ (Income Tax)มากที่สุด และหลีกเลี่ยงภาษีน้อยที่สุด คือ ลูกจ้างพนักงานและข้าราชการหรือมนุษย์เงินเดือน แต่เศรษฐีซึ่งเป็นผู้ประกอบการหรือนายทุนเสียภาษีไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เสียภาษีน้อยกว่าที่ควรเสียและมีเป็นจำนวนมากที่หลีกเลี่ยงไม่เสียภาษี เพราะมีผู้เชี่ยวชาญวางแผนเลี่ยงภาษีให้(Tax Evasion/Abusive Tax Avoidance) และกรมสรรพากรไม่ได้บริหารจัดเก็บจากคนกลุ่มนายทุนนี้อย่างมีประสิทธิภาพ แตกต่างจากมนุษย์เงินเดือนที่ทุกครั้งได้รับเงินเดือนค่าจ้างต้องเสียภาษีทันทีโดยถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย (Withholding Tax)และทุกครั้งที่คนจนซื้อสินค้าหรือบริการ เช่น ซื้อของที่7Eleven คนจนต้องเสียภาษีทันที เพราะสินค้าหรือบริการนั้นจะมีภาษีบวกอยู่ด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ความเป็นธรรมในการเสียภาษีมีหรือไม่หรือมีแต่ความเหลื่อมล้ำของบุคคลในสังคมภาษีการหุ้นให้แก้เป็นภาษีการขายหุ้น
นายชัยสิทธิ์ ยังระบุด้วย นอกจากนี้รัฐบาลควรบังคับจัดเก็บภาษีมรดกและภาษีการให้ให้มีประสิทธิภาพสามารถเก็บได้จริง เพราะแม้ภาษีสองตัวนี้ใช้มาเป็นปีแล้ว แต่ก็ยังเก็บไม่ได้เนื่องจากมีการหลีกเลี่ยงและการบริหารจัดเก็บของกรมสรรพากรไม่ดี ที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ รัฐบาลควรคลอดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้แล้ว เพราะเป็นภาษีที่ดี สามารถลดความเหลื่อมล้ำของบุคลในสังคมได้ทำให้คนรวยมีบ้านราคาเป็นร้อยล้านมีที่ดินจำนวนมหาศาลต้องเสียภาษี เป็นกฎหมายที่สามารถลดการกว้านซื้อที่ดินและกักตุนที่ดินของนายทุนได้ ทำให้ลดการบุกรุกทำลายป่าของชาวบ้านเพื่อนำที่ดินมาขายให้นายทุนได้ ทำให้ที่ดินถูกใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ เพราะถ้าไม่ใช้ประโยชน์ต้องเสียภาษีมาก
"การใช้มาตรา44เพื่อทำคลอดภาษีตัวนี้จะเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติมากกว่าที่คสช.ได้ใช้มาตรา44ให้ใช้ราคาที่ดินของปี 2521-2524 ในการเสียภาษีบำรุงท้องที่ในปัจจุบันเพราะการใช้ราคาที่ดินเกือบ40ปีมาแล้วมาใช้ในการเก็บภาษีปัจจุบันซึ่งราคาเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่าย่อมเป็นการเอื้อประโยชน์แก่นายทุนที่ถือครองที่ดิน ไม่เป็นธรรมกับประเทศชาติและประชาชน ขอเสนอแนะอีกครั้งว่าควรคลอดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างซึ่งที่ถูกเตะล้มมาทุกรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หากมาถูกเตะล่มโดยรัฐบาลนี้ รัฐบาลนี้จะได้ชื่อว่าทำเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินของประชาชนจริงหรือ"
ประธานคตง. ยังระบุด้วยว่า เรื่องสุดท้ายที่ขอเสนอแนะ ก็คือ รัฐบาลควรดำเนินการให้มีการจัดเก็บภาษีการหุ้นชินคอร์ปจากบุคคลที่ต้องเสียภาษี12,000 ล้านบาท ไม่ควรปล่อยให้คดีขาดอายุความ หากคดีขาดอายุความก็ควรดำเนินคดีกับรมต.คลังและอธิบดีกรมสรรพากรทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 154 และ 157
(อ่านประกอบ : คดีใกล้หมดอายุ!สตง.จี้รมว.คลัง-สรรพากร เก็บภาษีหุ้นทักษิณหมื่นล.-นิ่งเฉยเจอม.157)
หมายเหตุ : ภาพประกอบข่าวจาก ThaiPublica