1.2 หมื่นคดี มากสุดเป็นประวัติศาสตร์ ศาลปค.โชว์ผลพิจารณาคดีแล้วเสร็จปี'59
16 ปีศาลปกครอง พิจารณาคดีแล้วเสร็จมากสุดเป็นประวัติศาสตร์ กว่า 1.2 หมื่นคดี ขณะที่ยอดคดีค้างสะสมศาลปกครองชั้นต้นก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2560 ที่อาคารรับรอง อาคารศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ นายปิยะ ปะตังทา ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานในงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเนื่องในโอกาสครบรอบ 16 ปีศาลปกครอง พร้อมเปิดเผยเป้าหมายในการดำเนินงานของศาลปกครอง ปี 2560 และผลการดำเนินงานด้านการพิจารณาพิพากษาคดีและการดำเนินงานด้านอื่นๆ ของปี 2559 ที่ผ่านมา
นายปิยะ กล่าวถึงเป้าหมายของศาลปกครองในปี 2560 ว่า จะมีการพิจารณาคดีค้างนานให้หมดไป ส่วนคดีเข้าใหม่ให้เสร็จภายในกรอบเวลา โดยศาลปกครองจะพิจารณาคดีค้างนานเกิน 2 ปี ในศาลปกครองชั้นต้นให้แล้วเสร็จภายในปี 2560 และในศาลปกครองสูงสุดให้แล้วเสร็จในปี 2561 และพิจารณาคดีที่เข้าใหม่ให้แล้วเสร็จภายในกรอบเวลา โดยคดีวิธีการชั่วคราวไม่เกิน 1 - 7 วัน คดีพิจารณาสั่งรับหรือไม่รับฟ้องไม่เกิน 1 เดือน คดีของแผนกต่างๆไม่เกิน 1 ปี และคดีทั่วไปไม่เกิน 2 ปี
ประธานศาลปกครองสูงสุด กล่าวถึงการพัฒนาศาลปกครองให้เป็นองค์กรสมรรถนะสูง ซึ่งต้องประกอบด้วย มุ่งเน้นให้ผู้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นคู่กรณีหรือประชาชนได้รับความยุติธรรมที่สุดและบริการให้ดีที่สุด พร้อมทั้งมุ่งเน้นผลผลิตอันได้แก่ คำพิพากษาและคำสั่งให้พิจารณาโดยเร็วและมีคุณภาพ ซึ่งจะยึดหลักนิติธรรม นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นหลักความรับผิดชอบและสามารถชี้แจงแถลงแก่สาธารณชนได้ รวมถึงการร่วมมือกับองค์กรอื่นๆทั้งภายในและภายนอกประเทศ
ด้านนายสมชาย งามวงศ์ชน ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลปกครองสูงสุด และโฆษกศาลปกครอง กล่าวว่า ในปี 2559 ศาลปกครองได้พิจารณาคดีแล้วเสร็จ จำนวน 12,842 คดี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่เปิดดำเนินการในปี 2544 ถึงปัจจุบันมีค่าเฉลี่ย 8,735 คดีต่อปี
ในปี 2559 ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาคดีได้แล้วเสร็จจำนวน 4,102 คดี ซึ่งค่าเฉลี่ยคดี แล้วเสร็จตั้งแต่เปิดศาลเป็นต้นมาเฉลี่ย 2,122 คดีต่อปี
ถือได้ว่า เป็นปีแรกที่ศาลปกครองสูงสุด พิจารณาคดีแล้วเสร็จ มากกว่าคดีเข้า โดยคดีเข้าสู่การพิจารณา 3,353 คดี คดีแล้วเสร็จจำนวน 4,170 คดี มีคดีค้างภายใน 2 ปีร้อยละ 60 จำนวน 5,690 คดีเกิน 2 ปีร้อยละ 40 จำนวน 3,813 คดี ซึ่งในปี 2559 มีคดีเข้าจำนวน 6,601 คดีศาลปกครองชั้นต้นพิจารณาคดีได้แล้วเสร็จถึง 8,746 คดี
เปรียบเทียบคดีแล้วเสร็จ ของศาลปกครองตั้งแต่เปิดศาล ในปี 2544 - 2559 แนวโน้มค่าเฉลี่ยแล้วเสร็จเพิ่มขึ้น ทั้งนี้การเปรียบเทียบคดีค้างสะสมของศาลปกครอง โดยภาพรวมในปี 2559 มีคดีค้างสะสมเริ่มลดลงอย่างมาก และลดลงอย่างต่อเนื่อง
ส่วนผลการดำเนินงานที่สำคัญของศาลปกครองในปี 2559 ได้เพิ่มช่องทางการอำนวยความยุติธรรมของศาลปกครองโดยมีการเปิดศาลปกครองเพิ่มขึ้นอีก 3 แห่งจากเดิม 12 แห่ง โดยทำการเปิดศาลปกครองนครสวรรค์ ที่มีเขตอำนาจครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ เพชรบูรณ์ อุทัยธานี และชัยนาท ซึ่งจะทำให้ประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดดังกล่าว ได้รับความสะดวกในการเดินทางมาติดต่อราชการหรือยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองมากยิ่งขึ้นทำให้ในปัจจุบันมีศาลปกครองชั้นต้นเปิดทำการแล้ว 12 แห่งและยังมีศาลปกครองในภูมิภาคที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเพื่อเตรียมเปิดทำการเพิ่มอีก 3 แห่งได้แก่ ศาลปกครองสุพรรณบุรี ศาลปกครองภูเก็ต และศาลปกครองยะลา
นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งและเปิดทำแผนกคดีละเมิดและความรับผิดชอบอย่างอื่น และแผนกคดีบริหารราชการแผ่นดิน ในศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2560 เนื่องจากมีจำนวนคดีเข้าสู่การพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดเป็นจำนวนมาก จึงเห็นสมควรเปิดทำการแผนกคดีดังกล่าวโดยกำหนดมีองค์คณะตุลาการ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเฉพาะพิจารณาพิพากษาคดีให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งสรรหาตุลาการศาลปกครองเพิ่มเติม เพื่อรองรับปริมาณคดีที่สูงขึ้น โดยศาลปกครองได้ดำเนินการสรรหาตุลาการศาลปกครองเพื่อให้ได้ผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ในการพิพากษาคดีปกครอง และมีผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเป็นตุลาการศาลปกครองสูงสุดจำนวน 73 ราย และตุลาการศาลปกครองชั้นต้นจำนวน 29 ราย
ขณะที่รองศาสตราจารย์ ดร.สายทิพย์ สุคติพันธ์ ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองชั้นต้นประจำศาลปกครองสูงสุด กล่าวว่า ทางศาลปกครองยังมีการปรับปรุง/แก้ไขพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยได้ดำเนินการปรับปรุง/แก้ไขพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการจัดการคดี โดยเฉพาะพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองฉบับที่ 8 พ. ศ. 2559 ซึ่งกำหนดรายละเอียดในการดำเนินงานการบังคับคดี
ด้านนายเอกณัฐ จิณเสน ตุลาการศาลปกครองชั้นกลาง กล่าวถึงการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อก้าวสู่การเป็นศาลปกครองอิเล็กทรอนิกส์ว่า ศาลปกครองได้มีการพัฒนาคุณภาพการให้บริการโดยใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการก้าวเป็นศาลปกครองอิเล็กทรอนิกส์ และ smart court รวมทั้งการก้าวเข้าสู่ยุคศาลปกครอง 4.0 เพื่อสอดรับนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล ปัจจุบันศาลปกครองได้พัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการพิจารณาพิพากษาคดีการปกครองและการบริการประชาชนโดยในส่วนของสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการพิจารณาพิพากษาคดีปกครองปัจจุบันมี 14 ระบบ ใช้งานระบบควบคุมการเข้า-ออกศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ และใช้กับระบบการเข้าออกที่จอดรถภายในบริเวณศาลปกครอง ในเดือนเมษายน 2560 พร้อมทั้งเปิดให้บริการ application บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ทั้งระบบปฏิบัติการ android และ ios เพื่อให้บริการข้อมูลสารสนเทศ เกี่ยวกับคดีปกครองการที่บัญชีนัดและคำพิพากษา/คำสั่งศาลปกครอง เป็นต้น พร้อมทั้งนำเข้าและเก็บรักษาเอกสารบางประเภทในสำนวนคดีรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้งานคู่ขนานไปกับเอกสารสำเนาที่เป็นกระดาษ
"ปี 2560 ศาลปกครองจะดำเนินการพัฒนาระบบสารสนเทศในระยะถัดไป ได้แก่ การนำเทคโนโลยีลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์มาใช้สำหรับระบบรองรับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ด้วยใบรับรองดิจิตอล พร้อมทั้งให้บริการแอพพลิเคชั่นบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เวอร์ชั่น 2 ซึ่งเป็นการให้บริการแบบเฉพาะตัวพร้อมทั้งจัดทำห้องพิจารณาคดีอิเล็กทรอนิกส์เพื่อพัฒนาระบบการรับฟ้องคดีในช่องอิเล็กทรอนิกส์"
ส่วนนายเทอดพงศ์ คงจันทร์ ตุลาการศาลปกครองกลาง เปิดเผยถึงจำนวนคดีรับเข้า คดีแล้วเสร็จ และคดีของศาลปกครอง โดยจำแนกตามชั้นศาลว่า ศาลปกครองสูงสุดมีคดีรับเข้า 34,887 คดีคดีแล้วเสร็จ 25,603 คดีคดีค้าง จำนวน 9,284 คดี ศาลปกครองชั้นต้นมีคดีรับเข้า 90,873 คดี คดีแล้วเสร็จ 79,577 คดี คดีค้างจำนวน 11,296 คดี โดยรวมทั้ง 2 ชั้นศาลจะมีคดีเข้า 125,760 คดีคดีแล้วเสร็จ 105,180 คดีคดีค้างจำนวน 20,580 คดี