ชุมชนป้อมมหากาฬ แถลงขอให้ทหารเป็นคนกลางเจรจารื้อย้าย
กทม.รื้อถอนบ้านในชุมชนป้อมหากาฬเพิ่มเติม 10 หลัง ด้านกทม.ยันไม่ขัดขวางการอนุรักษ์และจะไม่รื้อบ้านที่ไม้ยินยอมให้รื้อ ตัวแทนชุมชนออกแถลงการณ์เรียกร้องต่อกทม. ยันไม่ขัดขวางการรื้อถอน ขอทหารเป็นตัวกลางเจรจา
เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 60 กรุงเทพมหานครประกาศรื้อถอนบ้านในชุมชนป้อมมหากาฬจำนวน 10 หลัง ซึ่งมีการรื้อถอนบ้านตามข้อตกลง ทันทีจำนวน 4 หลัง โดยในช่วงเช้ามีการตั้งวงเจรจาระหว่างตัวแทนชุมชน กับกทม. และทหาร ได้ข้อสรุปออกมาว่า ทาง กทม.ไม่ขัดขวางเรื่องการอนุรักษ์และยืนยันจะยังไม่รื้อบ้านที่ยังไม่มีข้อยุติ โดยนัดหมายกันอีกครั้งในวันพุธที่ 8 มีนาคม เวลา 09.00 น. ที่ชุมชนป้อมมหากาฬ
ด้านชุมชนป้อมมหากาฬได้ออกแถลงการณ์มีมติจากการประชุมให้ทหารเข้ามาดูแล ทางชุมชนพร้อมให้ความร่วมมือและพร้อมที่จะพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ และเสนอข้อเรียกร้องดังนี้
1. การดำเนินการใดๆ ทุกกรณี ระหว่างกรุงเทพมหานครกับชุมชนป้อมมหากาฬ ขอให้กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์(ป.พัน 1 รอ.) เข้ามาทำหน้าที่เป็นคนกลาง
2. ขอให้ทางกรุงเทพมหานครเข้ามาดำเนินการจัดเก็บขยะจากการรื้อถอนเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2559 ให้เรียบร้อย เพราะขยะเหล่านี้กองทับถมกันมานานจนกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงและสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ อาจมีอันตรายถึงชีวิตต่อคนในชุมชน
3. ขอให้กรุงเทพมหานครพิจารณาถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ทางชุมชนป้อมมหากาฬเชื่อว่ามีทางออกหลายแนวทาง เพียงแต่กระบวนการวิธีการเครื่องมือที่จะดำเนินการนั้นจำเป็นต้องเริ่มขึ้นจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนร่วมของชุมชนในย่านเกาะรัตนโกสินทร์ ที่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาและประโยชน์พื้นที่ย่านเมืองนี้ร่วมกัน ด้วยความสำคัญเช่นนี้ ชุมชนป้อมมหากาฬ จึงขอให้กรุงเทพมหานครดำเนินการตามข้อตกลงเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2559 คือหยุดการดำเนินการใดๆ และร่วมกันจัดตั้งคณะกรรมการพหุภาคีอย่างเร่งด่วน
4. การรื้อย้ายใดๆ ที่เกิดขึ้น ขอให้ยึดหลักว่าจะดำเนินการได้ในกรณีที่ชุมชนยินยอมให้รื้อถอนเท่านั้น โดยบ้านที่พร้อมให้รื้อถอนนั้น จำต้องพิจารณาอย่างรอบด้านทั้งเรื่องความยินยอมของเจ้าของบ้านและความยินยอมของผู้อาศัยควบคู่กัน ขอให้นำกรณีเหล่านี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการพหุภาคี ในการรื้อถอนบ้านนั้น และทางชุมชนขอมีส่วนร่วมในการรื้อถอนตลอดกระบวนการ
ท้ายที่สุดนี้ ชุมชนป้อมมหากาฬ ขอยืนยัน ว่าไม่มีแกนนำคนใด ชาวบ้านคนไหนขัดขวางการดำเนินการของกรุงเทพมหานคร โดยได้ยึดมั่นในหลักการและเคารพต่อสิทธิพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ สิทธิความเป็นชุมชน และสิทธิทางสัคมและวัฒธรรมของชุมชนในย่านเมืองเก่า