เครือข่ายผู้ป่วยค้านร่าง พ.ร.ฎ.สถาบันความปลอดภัยแรงงาน “ไม่อิสระ”
กสร.เผย 15 ก.ค.คลอดสถาบันความปลอดภัยแรงงาน เตรียมของบ 1 พันล้านตั้งกองทุนส่งเสริมความปลอดภัย “เครือข่ายผู้ป่วยจากการทำงาน” ร้องแก้ร่าง พรฎ.ให้ปลอดระบบราชการ-ตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์
นางสมบุญ สีคำดอกแค ประธานสภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยจากการทำงานและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย กล่าวในการสัมนาไตรภาคีรับฟังความเห็นร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.)จัดตั้งสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ....ที่โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ว่าโครงสร้างสถาบันฯ ที่กำหนดไว้ในร่าง พ.ร.ฎ.นี้ยังยึดติดกับระบบราชการ ไม่ได้เป็นองค์กรอิสระตามที่ผู้ใช้แรงงานเรียกร้อง เช่น ไม่มีหน่วยงานรับเรื่องราวร้องทุกข์จากแรงงานโดยตรง ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบระบบความปลอดภัยในโรงงาน ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลและปัญหาในเชิงลึก และสัดส่วนคณะกรรมการ 11 คนก็มาจากราชการมากเกินไป
นางสมบุญ กล่าวอีกว่า อยากให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ปรับร่าง พ.ร.ฎ.โดยตั้งคณะกรรมการสรรหาประธานกรรมการบริหารสถาบันฯ ซึ่งไม่ใช่มาจาการฝ่ายราชการ รวมถึงกรรมการบริหารสถาบันในส่วนผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน ส่วนกรรมการฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างฝ่ายละ 2 คนก็ให้มีการเลือกตั้ง รวมถึงจัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากแรงงานเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบระบบความปลอดภัยในโรงงาน ส่วนการดำเนินการกับสถานประกอบการที่กระทำผิดกฎหมายความปลอดภัย ก็ให้สำนักความปลอดภัย กสร.ดูแลและช่วยเหลือแรงงานที่บาดเจ็บ ป่วยและทุพพลภาพจากการทำงาน ทั้งนี้อนาคตอยากให้สถาบันฯทำหน้าที่ประเมินและรับรองมาตรฐานระบบความปลอดภัยสถานประกอบการต่างๆ ไม่ใช่แค่ทำหน้าที่เชิงวิชาการและวิจัยเท่านั้น
ด้าน นายอาทิตย์ อิสโม อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า พ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2554 กำหนดให้ออก พ.ร.ฎ.และจัดตั้งสถาบันฯให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 15 ก.ค.นี้ ดังนั้น กสร.จะเร่งจัดตั้งสถาบันฯให้เสร็จตามกำหนด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประชาพิจารณ์ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และจะเปิดประชาพิจารณ์ผ่านเว็บไซต์ กสร.ไปจนถึงสิ้น มี.ค.นี้ จากนั้นจะนำผลประชาพิจารณ์มาปรับปรุงร่าง พ.ร.ฎ.และเสนอคณะกรรมการกฤษฎีกาช่วยตรวจสอบเนื้อหา จึงจะเสนอคณะ รัฐมนตรี (ครม.) เพื่อประกาศใช้ต่อไป
อธิบดี กสร.กล่าวอีกว่า กำลังวางโครงสร้างอัตรากำลังและงบประมาณสถาบันฯ ซึ่งจะเป็นองค์กรมหาชนภายใต้การกำกับของกระทรวงแรงงาน มีหน้าที่ด้านวิชาการและวิจัย รวมถึงทำมาตรฐานความปลอดภัยฯ โดยทำงานคู่ขนานกับสำนักความปลอดภัย กสร.ด้านปฏิบัติรับเรื่องร้องทุกข์ และมีอำนาจดำเนินการตามกฎหมายกับสถานประกอบการที่กระทำผิดด้านความปลอดภัยฯ หลังจากจัดตั้งสถาบันฯขึ้นมาแล้วจะมีการโอนบุคลากรจาก กสร.มาทำงาน และจะเสนอของบประมาณจากรัฐบาล 1 พันล้านบาทจัดตั้งกองทุนส่งเสริมความปลอดภัยฯ รวมทั้งกฎหมายกำหนดให้มีการจัดสรรงบประมาณจากกองทุนเงินทดแทนเข้ามาใส่ในกองทุนนี้ทุกปี
ส่วนข้อเสนอเให้จัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากแรงงานโดยตรงนั้น กสร.เคยหารือกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) แต่ ก.พ.ร.ไม่เห็นด้วยเพราะซ้ำซ้อนกับสำนักความปลอดภัยแรงงานของ กสร.อีกทั้งแม้ตั้งศูนย์ดังกล่าวก็ต้องส่งเรื่องมาที่สำนักความปลอดภัย กสร.ให้ช่วยเหลือแรงงานและดำเนินการตามกฎหมายกับสถานประกอบการที่กระทำผิด เนื่องจากสถาบันฯไม่มีอำนาจดำเนินการเองได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชาพิจารณ์ครั้งนี้ สภาเครือข่ายผู้ป่วยฯ ได้ชูป้ายคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าวที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานแห่งชาติ และจะยื่นหนังสือคัดค้านต่อนายกรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ จ.อุดรธานี 21 ก.พ.นี้ .
ที่มาภาพ : http://www.tca.or.th/html/news_detail.asp?id=4757&category_id=1