บ.จีนเผยสเปคแท็บเล็ตไทยดี แต่ให้ราคาต่ำเกิน-ผลิตไม่ทันเปิดเทอม พ.ค.
“บ.หัวเว่ย” เต็มใจขายแท็บเล็ตให้ไทย แต่ชี้สเปคที่กำหนดราคา 4,000 ไม่ใช่ 1,800 บ. และผลิต 9 แสนเครื่องไม่ทัน พ.ค. รมว.ไอซีทีชี้ยังไม่ตัดสินใจ แต่ต้องให้เคลียร์ภายใน ก.พ.นี้เพื่อแจก ป.1 ทันเปิดเทอม
วันที่ 14 ก.พ.55 นายไมเคิล แมคโดนัลด์ หัวหน้าคณะผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยี ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท หัวเว่ย เปิดเผยถึงกระแสข่าวว่าหัวเว่ยได้ทำโครงการแท็บเล็ตเด็ก ป.1 ซึ่งรับผิดชอบโดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) และกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ว่าหัวเว่ยสนใจโครงการดังกล่าว เนื่องจากผลิตแท็บเล็ตเพื่อจำหน่ายอยู่แล้ว แต่คงขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลไทย ทั้งนี้หัวเว่ยมองว่าคุณสมบัติของแท็บเล็ตเด็กป.1ที่กำหนดขึ้นถือว่าดี โดยซีพียูรองรับการใช้งานได้ 1-2 ปี แต่ราคาที่ให้ถือว่าต่ำเกินไปคือ 60 เหรียญหรือประมาณ 1,800 บาท ด้วยคุณสมบัติขนาดนี้ควรอยู่ที่ราคาเครื่องละ 4,000 บาท ขณะที่กำหนดการส่งมอบ 9 แสนเครื่องในเดือน พ.ค.นี้เพื่อให้ทันกับเปิดเทอมเป็นเรื่องยาก เนื่องจากความสามารถในการผลิตแท็บเล็ตอยู่ที่ 5,000-10,000 เครื่องภายใน 50 วัน
สำหรับสเปกของเครื่องที่กำหนดไว้คือ ขนาดจอแสดงผลขั้นต่ำ 7 นิ้ว ความละเอียดขั้นต่ำ1024x768 Pixel หน่วยบันทึกข้อมูลไม่น้อยกว่า 16 GB หน่วยประมวลผลกลางไม่ต่ำกว่า 1 GHz และเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Dual Core และหน่วยความจำหลักไม่น้อยกว่า 512 MB ระบบปฏิบัติการนั้นต้องออกแบบมาเฉพาะแท็บเล็ต หรือเป็นระบบ Android 3.2 ZHoneycomb ) Linux Kernel 2.6.36 ขึ้นไป และรองรับ Android 4.0 (Ice Cream Sandwich) Linux Kernel 3.0.1 ได้
นายไมเคิล กล่าวอีกว่า ขณะนี้หัวเว่ยมีแท็บเล็ตจำหน่ายในตลาดประเทศไทยแล้วคือรุ่น Huawei MediaPad เป็นระบบปฎิบัติการณ์แอนดรอยซ์ 3.2 ฮันนี่คอมพ์ ขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 13,900 บาท ซึ่งขายในตลาดผู้ใช้งานทั่วไป คาดหวังที่จะครองอันดับ 3 ของตลาดแท็บเล็ตโดยรวมได้ภายใน 2-3 ปี ทั้งนี้ระหว่าง 14-17 ก.พ. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หัวเว่ยได้นำโซลูชั่นเทคโนโลยีโมบายบรอดแบนด์มาจัดแสดงในงาน “Welcome Broadband World : Huawei Solution 2012” ซึ่งเป็นการจัดนิทรรศการเทคโนโลยีสื่อสารในรถบรรทุกคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ให้กับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทยได้สัมผัส
วันเดียวกัน ที่กระทรวงศึกษาธิการ นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตต่อ1 นักเรียน โดยมี ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศธ. และ นายจุลพงษ์ โนนศรีชัย ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ว่าเป็นการประชุมคณะกรรมการฯครั้งแรก หลังจากมีคำสั่งแต่งตั้งขึ้นมาแทนกรรมการชุดเก่า ตั้งแต่ 13 ก.พ. โดยสาระสำคัญที่หารือคือการเตรียมรายละเอียดโครงการเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันที่ 21 ก.พ. โดยเฉพาะการจัดซื้อที่จะทำแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (G to G) รวมทั้งของบประมาณเพิ่มเติม เนื่องจากเดิมวางแผนจะจัดซื้อแค่ 560,000 เครื่อง แต่เพิ่มเป็น 900,000 เครื่องเพื่อให้แจกนักเรียนชั้น ป.1 ครบทุกคน
ส่วนรายละเอียด G to G อยู่ระหว่างเจรจากับสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งยังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอนว่าจะจ่ายเป็นสินค้าหรือเงินสด เพราะโครงการดังกล่าวมีการตั้งงบประมาณรองรับไว้แล้ว แต่ถ้าจ่ายเป็นสินค้าจริงก็ต้องเดินอยู่บนความยุติธรรมและได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ไม่ได้เป็นไปตามข่าวว่าจะใช้ข้าวแลกแท็บเล็ตในราคาที่เสียเปรียบกว่า นอกจากนี้ยังไม่สรุปแน่นอนว่าแท็บเล็ตของจีนอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ ฝ่ายไทยพยายามเจรจาให้ได้ราคาถูกสุด รวมถึงเรื่องระยะเวลาส่งมอบสินค้า ซึ่งการเจรจาทั้งหมดจะต้องสิ้นสุดภายในสิ้นเดือน ก.พ.นี้ เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการผลิต เพราะหากล่าช้าจะส่งมอบเครื่องไม่ทันเปิดเทอมปีการศึกษา 2555
ด้าน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการ กต.กล่าวว่าการจัดซื้อแท็บเล็ตแบบ G to G กับรัฐบาลจีนเป็นผลสืบเนื่องมาจากบันทึกความเข้าใจที่ไทยทำกับจีนในครั้งที่รองประธานาธิบดีจีนมาเยือนไทย ซึ่งกำหนดความร่วมมือด้านต่างๆ เช่น การสร้างทางรถไฟจากจีนตอนใต้สู่ประเทศไทย ซึ่งทางรัฐบาลจีนจะให้เงินกู้ รวมทั้งเรื่องการจัดซื้อแท็บเล็ตด้วย เพราะจีนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกและได้ราคาต่ำ อย่างไรก็ตามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้จ่ายค่าสินค้าส่วนหนึ่งเป็นเงินสด ส่วนหนึ่งเป็นสินค้าเกษตร เพราะรัฐบาลต้องการส่งเสริมเกษตรกร .
ที่มาภาพ : http://www.arip.co.th/news.php?id=412057