ผบ.ทบ.ลงใต้กำชับเข้มรปภ. - นายกฯหวั่นตอกลิ่มสองศาสนา
ผู้บัญชาการทหารบกล่องใต้ ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำชับเพิ่มความเข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัย ขณะที่โฆษกรัฐบาลแจงเหตุรุนแรงถี่ยิบช่วงนี้ไม่เกี่ยวกับการพูดคุยเพื่อสันติสุข ปรามเครือข่ายไทยพุทธเสนอใช้มาตรา 44 จัดการกลุ่มป่วนใต้ ย้ำนายกฯให้ระวังนำประเด็นศาสนาไปสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันเสาร์ที่ 4 มี.ค.60 เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามผลการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) โดยมี พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส, ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจระดับจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมที่ห้องประชุมกองพลทหารราบที่ 15 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
ภายหลังการประชุม พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยกำลังพล และได้สั่งการให้มาดูแล โดยเฉพาะเรื่องการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำให้มีการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น แต่ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือมากขึ้น โดยเฉพาะงานด้านการข่าวที่มีการแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ ทำให้สถานการณ์โดยรวมในพื้นที่ดีขึ้น ประชาชนมีความเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ
โดยขณะนี้ได้มีการจัดชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน (ทหารผ้าพันคอสีฟ้า) ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนตามความต้องการ พร้อมกับการเสริมสร้างความเข้าใจ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสมรรถนะให้กับอาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) และกองกำลังภาคประชาชน เพื่อช่วยกันดูแลพื้นที่ เพราะหากทุกฝ่ายช่วยกันจะสามารถแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้โดยเร็ว
การเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของ ผบ.ทบ.ในครั้งนี้ อยู่ในช่วงที่สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ค่อนข้างหนักหน่วงรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงก่อนและหลังการพูดคุยเพื่อสันติสุขฯระหว่างตัวแทนรัฐบาลกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ "มารา ปาตานี"
เมื่อวันศุกร์ที่ 3 มี.ค. ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์ว่า ได้กำชับแม่ทัพภาคที่ 4 ดูแลและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบอย่างเต็มที่ และเคร่งครัดเรื่องการรักษาความปลอดภัย แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับการพูดคุยเพื่อสันติสุขหรือไม่ ยอมรับว่าการควบคุมเหตุยิงรายวันทำได้ยาก เพราะผู้ก่อเหตุเตรียมการล่วงหน้าเสมอ
ทั้งนี้ในช่วงเช้าก่อนการลงพื้นที่ของ ผบ.ทบ.ในวันเสาร์ที่ 4 มี.ค. เกิดเหตุคนร้ายลอบยิง นายมะดอเลาะ สาและ อายุ 56 ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เปาะเส้ง อ.เมือง จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บสาหัส และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เหตุเกิดขณะที่นายมะดอเลาะเพิ่งจอดรถที่หน้าบ้านใน ต.สะเตง อำเภอเมือง จ.ยะลา และกำลังเปิดประตูลงจากรถ จังหวะนั้นคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่จนเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิงครั้งนี้
ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเรียกร้องของเครือข่ายชาวพุทธจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ต้องการให้รัฐบาลใช้อำนาจตามมาตรา 44 แก้ไขปัญหาหรือปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบอย่างเด็ดขาดว่า สาเหตุของปัญหาในพื้นที่มีหลายมิติ จึงจำเป็นต้องมองอย่างรอบด้าน ขณะนี้รัฐบาลใช้กฎหมายปกติและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาผ่านหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ คปต. และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ซึ่งทุกหน่วยทำงานอย่างเต็มที่ ทำให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับ ดังนั้นการแก้ปัญหาโดยใช้กำลังหรือความรุนแรงเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบ
นอกจากนั้น เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย เช่น ความขัดแย้งส่วนตัว ยาเสพติด การเมืองท้องถิ่น และผลประโยชน์ ซึ่งมักเกิดขึ้นก่อน ระหว่าง และหลังการพูดคุยเพื่อสันติสุขกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ จึงอาจทำให้สังคมหลงเข้าใจผิดว่าเหตุการณ์นั้นเป็นผลมาจากการพูดคุยฯ ทั้งๆ ที่กระบวนการพูดคุยฯเป็นแนวทางสันติวิธีที่รัฐบาลต้องการลดความรุนแรงและความสูญเสียทั้งปวง
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงอยากให้พี่น้องประชาชนใช้วิจารณญานในการรับข่าวสาร และขอความร่วมมือสื่อมวลชนพิจารณานำเสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์ เพื่อป้องกันการบิดเบือนหรือบั่นทอนกำลังใจของเจ้าหน้าที่ เพราะมิฉะนั้นอาจเป็นการส่งเสริมให้เกิดความรุนแรง สร้างความหวาดระแวง หรือทำลายกระบวนการพูดคุยซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเกิดความไว้วางใจมาเป็นลำดับ
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังได้แสดงความห่วงใยสวัสดิภาพของประชาชน และแสดงความเชื่อมั่นว่าทั้งคนพุทธและมุสลิมไม่มีใครอยากให้ความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะทุกศาสนาสอนให้คนคิดดี ทำดี ละบาป โดยประชาชนทั้งสองศาสนาพึ่งพาอาศัยและอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขมานาน จึงไม่อยากให้นำเรื่องศาสนาไปสร้างเงื่อนไขของความขัดแย้ง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พล.อ.เฉลิมชัย ตรวจแถวกำลังพลชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน ขณะเดินทางลงพื้นที่ชายแดนใต้