เรื่องทุจริตค้าง2ปีไม่คืบหน้า แถมมีคดีใหม่!'ธีรยุทธ' ออกโรงวิพากษ์ รบ.บิ๊กตู่-คสช.
'ธีรยุทธ บุญมี' ออกโรงวิพากษ์ คสช.เผยแม่น้ำ 5 สายดัน 'บิ๊กตู่' อยู่ต่อ เรืออาจเกยหาด หากฝืนโรดแมป ระบุปัญหาใหญ่ความเหลื่อมล้ำซ้ำซ้อน ปชช. จนซ้ำซาก แนะปฏิรูปประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย อาจไม่มีใครทำได้ จี้ปราบคดีคอร์รัปชันค้างคา ประกาศว่าจะจัดการให้เสร็จสิ้น 2 ปีที่แล้ว ยังไม่คืบหน้า แถมมีคดีใหม่
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2560 ที่ห้องสื่อมวลชน กกต. ชั้น 2 อาคาร B ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ศ.ธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการ นักวิจารณ์การเมือง และนักเขียนรางวัลศรีบูรพา อดีตเลขาธิการ ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ผู้นำนักศึกษาในเหตุการณ์ 14 ตุลา เปิดแถลงข่าวหัวข้อ "วิเคราะห์อนาคตการเมืองและการปฏิรูปประเทศไทย วิพากษ์ แนะนำ วิธีคิด คสช. และรัฐบาลพลเอกประยุทธ์"
ศ.ธีรยุทธ บุญมี ระบุว่า การเมืองไทยทุกยุคสมัยเป็นการแย่งชิงอำนาจครอบนำอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ โดยประเทศไทยในอนาคตกำลังจะวิ่งเข้าสู่วิถีอนุรักษ์และจารีตนิยมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความหวังในการปฏิรูประดับโครงสร้างอำนาจมีน้อยมาก เพราะผู้อยู่ในอำนาจทั้งหมดเป็นข้าราชการ ซึ่งจะสูญเสียอำนาจ เมื่อมีการปฏิรูป เพราะถ้าไม่พิจารณาวาทกรรมของ คสช. ความเป็นจริงที่เกิดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คือ การดำเนินงานของ คสช. อาศัยข้าราชการ มหาดไทย ได้แก่ ทหาร ตำรวจ ทุกเหล่าเป็นหลัก และนโยบายต่าง ๆ เป็นการเพิ่มอำนาจแก่ข้าราชการและศูนย์กลางมากกว่ากระจายอำนาจ รวมถึงบุคลากรที่ถูกแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการรัฐวิสาหกิจ ล้วนเป็นนายทหารเหล่าทัพต่าง ๆ ไม่มีผลงานปฏิรูปใด ๆ ทั้งที่ตั้งซูเปอร์บอร์ดศึกษาแต่ต้น ตลอดจนบุคลากรในแม่น้ำ 5 สายเกือบทั้งหมดก็มีความคิดแบบอนุรักษ์และจารีตนิยม
"ผลงานของแม่น้ำ 5 สาย ยังไม่ให้ความหวังเรื่องการปฏิรูป แสดงออกชัดเจนที่จะผลักดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในอำนาจต่อไป จากเรือแป๊ะกับแม่น้ำ 5 สาย จึงเริ่มกลายเป็นยุทธ์เรือโยง ป้อมเรือพ่วง ลากจูงกันไป และทุลักทุเลมากขึ้น จนอาจจะเกยหาดหรือติดเกาะแก่งได้ หากฝืนอยู่ในอำนาจเกินโรดแมป อย่างไรก็ตาม การเร่งรัดการดำเนินงานในโครงการต่างๆ เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้รัฐบาลนี้ได้รับคะแนนนิยม"
ศ.ธีรยุทธ ยังระบด้วยว่า ประเทศจำเป็นต้องปฏิรูปเพราะมีปัญหาในระดับโครงสร้างลึกและโครงสร้างรากฐาน
"เราพบว่าสิ่งที่สะท้อนปัญหานี้ส่งผลต่อหลายปัญหาใหญ่ด้วยกัน ประชาชนส่วนใหญ่จนซ้ำซาก หมายถึงความเหลื่อมล้ำซ้ำซ้อนคือความจนหรือความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจถูกซ้ำด้วยความเหลื่อมล้ำและอำนาจทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม รวมถึงวัฒนธรรมจนทำให้ชีวิตตกอยู่ภายใต้ความเหลื่อมล้ำทางกายภาพสูงขึ้นเรื่อย ๆ ชาวบ้านตกเป็นเบี้ยการเมืองผ่านการซื้อเสียง ตลอดจนกลุ่มอุปถัมภ์ระบาดไปทั่ว คนจนตกอยู่ภายใต้ร่มเงาของข้าราชการ นักการเมือง ทุนท้องถิ่น จนไม่มีปากเสียง ทำให้รัฐตกลงกับผู้อุปถัมภ์บิดเบี้ยวนโยบายทุก ๆ ด้านเอื้อประโยชน์คนมีอำนาจ"
ศ.ธีรยุทธ ยังกล่าวด้วยว่า คอร์รัปชั่นไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ทางทรัพย์อย่างเดียว แต่มีแรงจูงใจจากความต้องการยกระดับวิถีชีวิตให้ทัดเทียมกันของกลุ่มอภิสิทธ์ เพื่อให้กลไกสังคมชนชั้นนำดำเนินไปได้ การปฏิรูปประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย และอาจไม่มีใครทำได้ ซึ่งตรงนี้ลึก ๆ ก็เห็นใจทหารอยู่เหมือนกัน อย่างไรก็ดี การจัดระเบียบเชิงเร่งรัดนโยบายจะไม่ทำให้รัฐบาลได้รับความนิยมเพิ่มมากนัก แต่งานระดับโครงสร้างอำนาจ เช่น การปราบคอร์รัปชั่น เร่งรีดคดีที่ค้างคาอยู่จะดึงศรัทธาประชาชนกลับมาได้ ตามที่เคยประกาศว่าจะจัดการให้เสร็จสิ้นตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว ทว่า ยังไม่มีความคืบหน้า แถมมีคดีใหม่อีก
"งานในระดับจัดระเบียบ ปัญหาพื้นผิว หรืองานเชิงเร่งรัดนโยบาย เช่น เรื่องรถไฟฟ้ารางคู่ รถไฟฟ้า จะไม่ทำให้รัฐบาลได้รับความนิยมเพิ่มมากนัก แต่งานในระดับโครงสร้างอำนาจหรือโครงสร้างรากฐาน เช่น การปราบคอร์รัปชัน การเร่งรัดคดีคอร์รัปชันที่ค้างคา ที่รัฐเคยประกาศว่าจะจัดการให้เสร็จสิ้นตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วก็ยังไม่คืบหน้า แถมมีคดีใหม่ เช่น เชฟร่อน รถยนต์ญี่ปุ่น เลี่ยงภาษี ปตท. ไม่ยอมคืนท่อแก๊ส การปราบปรามอิทธิพลนอกระบบที่รัฐประกาศจริงจังมานานแล้วก็ไม่คืบหน้า งานในระดับนี้จึงจะดึงศรัทธาประชาชนกลับมาได้ ไม่เช่นนั้นประชาชนอาจจะนึกถึงภาพรัฐบาล “ตู่ต้นเตี้ย” หรือ “ตู่เตี้ยลง” ก็มีโอกาสเป็นไปได้ก่อนจะจบตามโรดแมปของ คสช."
(อ่านคำแถลงของ ศ.ธีรยุทธ ฉบับเต็มใน อนาคตการเมือง การปฏิรูปประเทศไทย คสช.และ รัฐบาลประยุทธ์)