จับเข่าคุย 'พนม ศรศิลป์' อดีตผอ.สำนักพุทธฯ ถูกปลดกลางศึกวัดพระธรรมกาย
"...บางคนมาหาว่าผมเข้าข้าง แต่อย่าลืมว่าผมไม่มีหน้าที่ไปจับกุมพระธัมมชโย หวังว่าจะเข้าใจประเด็นนี้ตรงกัน ตอนนี้เป็นหน้าที่ของดีเอสไอ ตำรวจ และผมก็ไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับทางวัดพระธรรมกาย เคยไปร่วมตักบาตรที่เยาวราชแค่ครั้งเดียว ซึ่งผู้ใหญ่ก็มอบหมายไป ผมก็ทำแค่นั้น..."
ศึก 'รัฐบาล' vs 'วัดพระธรรมกาย' ยืดเยื้อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 หลัง 'บิ๊กตู่' พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ตัดสินใจออกคำสั่งมาตรา 44 ควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกาย เพื่อดำเนินการจับกุม 'พระธัมมชโย'
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ถือเป็นตัวกลางคอยประสานงานระหว่างหน่วยงานรัฐทั้ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาโดยตลอด
บทบาทของสำนักพระพุทธฯ จึงมีความสำคัญอย่างมาก ทว่าล่าสุด 'บิ๊กตู่' กลับมีคำสั่งมาตรา 44 ให้ 'พนม ศรศิลป์' พ้นจากตำแหน่งผอ.สำนักพระพุทธฯ กลางศึกวัดพระธรรมกายที่ยังร้อนระอุอยู่ พร้อมแต่งตั้ง 'พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์' ผู้บัญชาการสำนักคดีภาษีอากร ดีเอสไอ ไปดำรงตำแหน่งแทน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org จึงต่อสายถึง 'พนม' เพื่อชี้แจงถึงสาเหตุของการปลดฟ้าผ่าครั้งนี้
@ สาเหตุที่ถูกย้ายออกจากสำนักพระพุทธฯมาจากอะไร
"มันคงมาจากหลายสาเหตุ ผมอาจจะทำงานมาแล้ว 2 ปีครึ่ง ผมก็ยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจน และยังไม่ได้ไปรายงานตัว ซึ่งน่าจะไปรายงานตัววัน 27 ก.พ."
@ ถูกสันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องกับการดำเนินการกับวัดพระธรรมกาย
"ผมไม่แน่ใจนะครับ เพราะทางผู้ใหญ่ท่านไม่ได้แจ้งอะไรกับผม ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะผมทำงานในตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2557"
@ ที่ผ่านมาทำงานเต็มที่หรือไม่
"อาจจะนะ ผมประเมินตัวเองไม่ได้ ต้องให้ผู้ใหญ่เขาประเมิน ผมอาจจะมีจุดอ่อน มีจุดอะไรบ้างอย่าง ท่านก็ปรับได้ แต่เรื่องนี้ไม่น่าเป็นห่วง"
@ มีข่าวออกมาตลอดว่าเข้าข้างวัดพระธรรมกายจริงหรือไม่
"อันนี้ผมต้องขอปฏิเสธ บางคนมาหาว่าผมเข้าข้าง แต่อย่าลืมว่าผมไม่มีหน้าที่ไปจับกุมพระธัมมชโย หวังว่าจะเข้าใจประเด็นนี้ตรงกัน ตอนนี้เป็นหน้าที่ของดีเอสไอ ตำรวจ และผมก็ไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับทางวัดพระธรรมกาย เคยไปร่วมตักบาตรที่เยาวราชแค่ครั้งเดียว ซึ่งผู้ใหญ่ก็มอบหมายไป ผมก็ทำแค่นั้น"
"และถ้าเข้าข้างมันแล้วแต่มุมมอง แต่ผมไม่ได้มีอำนาจที่จะไปเข้าข้างหรือไม่เข้าข้าง จะเห็นว่าอย่างการประชุมร่วมกับดีเอสไอจะมีทีมผม รองผู้อำนวยการสำนักพระพุทธฯ ทีมผู้ตรวจ ไปประชุมร่วมกันตลอด และเข้าไปอยู่ในพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพระ"
"บังเอิญภารกิจของเรามันมีหน้าที่สนองงานทางด้านสงฆ์ พวกผมก็พยายามหลีกเลี่ยงระมัดระวังเกรงว่าอาจจะถูกมองได้หลายมุม ผมขอปฏิเสธข้อกล่าวหาได้ไหม ผมยืนยันว่าไม่ได้เข้าข้างใดๆ เพียงแต่ผมอาจจะเป็นคนประณีประนอม และค่อนข้างที่จะระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นกับพระสงฆ์ ผมอาจจะไม่ได้แสดงท่าทีกับพระสงฆ์มากมาย ทั้งชีวิตราชการผมสนองงานคณะสงฆ์ โดยที่เราไม่ได้เลือกว่าเป็นคณะสงฆ์นิกายไหน หรือวัดไหน อาจจะเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ผมต้องพิจารณาตัวเอง แล้วเข้าใจกับข้อเสียของผม"
@ มีข่าวในโซเชี่ยลมีเดียโจมตีถึงขั้นว่าคนในสำนักงานพระพุทธศาสนารับเงินจากวัดพระธรรมกาย
"โอ้ว...ไม่มีครับ รับเงินจากวัดพระธรรมกายรับประเด็นไหน เราก็น้อมรับคำติชม แต่ตัวผมเองไม่เคยรับ และที่รู้จักกันก็ไม่มีใครไปรับ และไม่รู้ว่าจะไปรับจากประเด็นไหน วันขึ้นปีใหม่ วันอะไรต่างๆก็ไม่มีความสำคัญ ไม่ได้จัดกิจกรรมอะไร"
"ถ้าจะบอกว่ากล้าสาบานไหม ผมก็กล้าสาบานนะ ถามว่ามันจะมีหรือไม่ ผมก็คงไม่กล้าไปรับขนานนั้น แต่ยืนยันว่าพวกเราไม่น่าจะมีช่องทางที่จะไปรับเงิน และจะไปรับเนื่องในงานอะไร และผมก็ไม่เคยไปร่วมอะไรที่จะทำให้ตัวผมเองต้องลำบากใจ"
@ การทำงานของผอ.สำนักพุทธฯภายใต้การนำของพ.ต.ท.พงศ์พร จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่
"ต้องกราบเรียนว่าที่สำนักงานพระพุทธฯ ทุกคนเป็นมืออาชีพ ทำงานร่วมกันได้กับทุกคน ผมเคยทำงานร่วมกับพ.ต.ท.พงศ์พรมาปีกว่า ท่านก็ประสานงานทำงานร่วมกันได้ และไม่เกินความคาดหมาย มีความรู้ความสามารถเหมาะกับที่รัฐบาลจะเลือกใช้งาน และที่ผ่านมาก็มีคุณหมอจักรธรรม ธรรมศักดิ์ ย้ายจากกระทรวงสาธารณสุข ก็สามารถทำงานได้"
@ ตอนนี้รับได้หรือไม่ที่ถูกย้ายออกมา
"ผมรับได้ เพราะถือว่าได้ทำงานแล้ว ผู้ใหญ่เขาตัดสินอย่างไรก็ต้องปฏิบัติ เราประสานงานตามกรอบ ตามอำนาจที่จะทำได้มาตลอด"
ทั้งหมดนี่ คือ คำชี้แจงของ 'พนม ศรศิลป์' ที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่งผอ.สำนักพระพุทธฯ กลางศึกวัดพระธรรมกายที่ยังร้อนระอุอยู่ในขณะนี้
(อ่านประกอบ : เด้ง"พนม ศรศิลป์" พ้นตําแหน่ง ผอ.สํานักงานพระพุทธศาสนา คนดีเอสไอนั่งแทน)
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก tbcnews.org