นายกฯบอกยาเสพติดโยงป่วนใต้มีมานาน นักวิชาการท้วงอย่าด่วนสรุป!
นายกรัฐมนตรี ระบุทลายเครือข่ายค้ายาเสพติด "ไซซะนะ" เป็นผลงานของรัฐบาล ส่วนข้อมูลโยงการก่อความไม่สงบชายแดนใต้มีมานานแล้ว สั่ง ปปง.เร่งตรวจสอบเส้นทางเงิน ขณะที่นักวิชาการด้านความมั่นคงเตือนรัฐบาลไม่ควรด่วนสรุป
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ 14 ก.พ.60 โดยตอบคำถามของผู้สื่อข่าวเรื่องการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดของ นายไซซะนะ แก้วพิมพา ไฮโซสัญชาติลาว ที่มีข้อมูลโยงไปถึงการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจับกุมเครือข่ายของนายไซซะนะ เป็นผลงานของรัฐบาล คสช.และตำรวจที่มีการจับกุมดำเนินคดีมากมาย ถามว่าถ้าไม่ใช่รัฐบาลชุดนี้จะมีการจับหรือไม่ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความร่วมมือระหว่างประเทศด้วย ซึ่งตนได้ให้แนวทางในการประสานกับประเทศรอบบ้านในการแก้ปัญหายาเสพติดทั้งในภูมิภาคและประเทศจีน รวมไปถึงรัสเซีย และประเทศอื่นๆ จึงได้ข้อมูลต่างๆ มาเพื่อดำเนินการ เพราะเป็นเรื่องน่ากลัวและอันตราย
ส่วนความเชื่อมโยงกับจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นมีมานานแล้ว แต่ครั้งนี้มีการจับกุมขนาดใหญ่ได้ ก็ต้องตรวจสอบต่อไปว่ามีความเชื่อมโยงกับบุคคลในภาคใต้หรือไม่ ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ติดตามเรื่องต่อไป โดยสามารถตรวจสอบได้หลายทาง โดยเฉพาะสืบสวนเส้นทางการเงิน
“รัฐบาลเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ แต่ขออย่าดูถูกเจ้าหน้าที่ว่าทำงานไม่ได้ เพราะรัฐบาลจะไม่ทำให้เป็นเหมือนเดิม เว้นแต่จะทำไม่ได้ และทำทุกเรื่อง ไม่เคยดึงเรื่องใดไว้ทั้งสิ้น แต่ที่ผ่านๆ มาไม่มีการให้ความสำคัญ” นายกรัฐมนตรี ระบุ
ประเด็นที่รัฐบาล โดยเฉพาะสำนักงาน ป.ป.ส.สรุปฟันธงว่า เม็ดเงินจากการค้ายาเสพติดเครือข่ายไซซะนะ ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายภาคใต้ตอนล่าง มีความเชื่อมโยงสนับสนุนการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ถูกทักท้วงจาก ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการด้านความมั่นคงจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่า เป็นการด่วนสรุปเกินไปหรือไม่
“มองแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ผมไม่เข้าใจว่ารัฐบาลจะรีบเปิดเรื่องนี้ทำไม เพราะถ้าจริง ก็เท่ากับเป็นการเขย่าต้นไม้ให้นกบินหนีหรือเปล่า สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือทำอย่างเงียบๆ เพื่อสืบสวนข้อมูลให้ได้ทั้งหมดก่อน และมีหลักฐานอย่างเป็นรูปธรรม”
นักวิชาการด้านความมั่นคงชื่อดัง บอกว่า ที่ผ่านเคยมีการพูดกันมาหลายครั้งว่า เม็ดเงินจากการค้ายาเสพติดหรือธุรกิจผิดกฎหมาย บางส่วนไหลไปสนับสนุนกิจกรรมการก่อความไม่สงบ แต่คำถามที่ต้องตอบให้ได้ก็คือ มีหลักฐานที่ชัดเจนแน่นอนขนาดไหน
“เรื่องนี้พูดกันมาหลายครั้ง พูดกันมานาน แต่ถามว่ามีหลักฐานชัดเจนจริงๆ หรือไม่ หรือยังเป็นข้อมูลในชั้นของการวิเคราะห์ความเชื่อมโยง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็ยังไม่ควรด่วนสรุป เพราะจะยิ่งสร้างความสับสนให้เกิดขึ้น”
“ผมคิดว่าเรื่องของการค้ายาเสพติด เป็นคนละเรื่องกับการแบ่งแยกดินแดน หรือการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ สมมติง่ายๆ คนที่นับถือศาสนาพุทธค้ายา กับคนมุสลิมค้ายา แตกต่างกันอย่างไร ถ้าทั้งคู่ต้องการเงิน เมื่อมีเงินแล้วนำไปก่อเหตุรุนแรงเพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่ในการจับกุม ก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่แตกต่างกัน แต่ถ้าค้ายาแล้วนำไปเป็นทุนในการก่อการร้าย อย่างนี้ก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งการสรุปแบบใดแบบหนึ่งถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และต้องมีหลักฐานชัดเจนพอสมควร” ศ.ดร.สุรชาติ ระบุ
ขณะที่ พล.อ.สำเร็จ ศรีหร่าย อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้ที่ศึกษาวิจัยโครงสร้างของกลุ่มบีอาร์เอ็นในฐานะเป็นกลุ่มติดอาวุธหลักที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐไทยในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้โพสต์ข้อความแสดงความเห็นในเฟซบุ๊คเกี่ยวกับประเด็นเม็ดเงินจากการค้ายาเสพติดสนับสนุนการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า “ระวังเป็นกระทงหลงทาง”
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข (ภาพจากแฟ้มภาพอิศรา)
อ่านประกอบ :