ไม่สัญญาทหารทำรัฐประหารอีก! ‘บิ๊กตู่’ ยันปรองดองไม่เกี๊ยะเซียะ-นิรโทษ
‘บิ๊กตู่’ ใช้หลักคิดจากนักวิชาการหลายแห่งเขียนกรอบแนวทางปรองดอง ยันทหารไม่จำเป็นต้องทำสัญญา ไม่รู้อนาคตเกิดรัฐประหารอีกหรือไม่ เฉ่งนักการเมืองต้องให้คำมั่นอย่าทำประเทศเสียหายอีก ไม่งั้นวนเวียนอย่างเดิม ลั่นไม่เกี๊ยะเซียะ-นิรโทษ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการทำงานของคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ว่า อย่ากังวลมากนัก ผลงานทั้งหมดออกสู่รัฐบาล คณะรัฐมนตรี และ คสช. อยู่แล้ว เพราะหัวของ ป.ย.ป. คือ คณะรัฐมนตรี ที่รับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน ตอนนี้หลายประเด็นเพิ่มเติมที่พูดกันในคณะกรรมการฯ 4 ฝ่าย ของ ป.ย.ป. และมีปัญหาซ้ำซ้อนหลายอย่าง ทั้งเรื่องความขัดแย้ง กฎหมายไม่ทันสมัย ซึ่งต้องแก้ทั้งชุด และใช้โอกาสนี้รับฟังข้อสรุปของคณะกรรมการฯ 4 ชุดว่า มีความเห็นอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องปรองดอง มีนักการเมืองบางฝ่าย ระบุว่า จะเกิดความขัดแย้งถ้ามีการนิรโทษกรรม ตนไม่เคยพูดเรื่องนี้สักคำ อย่าหวาดระแวง การตกลงกันเกี๊ยะเซียะกันทำได้หรือไม่ ใครยอม แต่สื่อก็ขอให้วิพากษ์วิจารณ์ไปเรื่อย ยืนยันไม่มีการพูดเรื่องนิรโทษกรรม
“ฝ่ายการเมืองบอก ถ้าไม่พูดเรื่องนิรโทษกรรมปรองดองไม่ได้ แล้วจะช่วยใคร ท่านจะอยู่ข้างใคร ถ้าพูดแบบนั้น ผมก็จนใจ ประเทศไทยก็อยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะไม่มีประเทศอยู่ เหตุผลผมมีอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ต้องเข้าใจว่าปัญหามีอะไรบ้าง ถ้าประชาธิปไตยไร้กรอบ ไร้วินัย ถามว่าใช้ประชาธิปไตยหรือไม่ เมืองนอกมีหรือไม่ ประเทศมหาอำนาจเดินขบวนที่กฎหมายไม่อนุญาต ถูกจับหรือไม่ ของเราจับอีก 300-500 ราย ไม่ว่ากันหรอกทั้งที่เป็นประชาธิปไตย แต่พอไม่เป็นจับ 1-2 ราย ด่าตนทุกวัน คิดสิคิด ข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้ 1-2 รายที่ว่า ทำให้คนอื่นแห่ตามมาหรือไม่ ถ้าไม่ไปปลุกระดมก็ปล่อย แต่นี่ไปยุคนอื่นด้วย ทำให้เกิดความไม่มั่นคงหรือไม่ สิ่งที่พูดเกิดประโยชน์หรือไม่ คิดตรงนี้ อย่าเป็นปากเสียงให้คนไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง ถ้าทำได้ ไม่ต้องคิด มีกฎหมายออกมา คุมได้หรือไม่ หาวิธีการกันมา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า คุมกันเองแล้วคุมไม่ได้ พอมีปัญหาขึ้นมา รัฐบาลต้องรับผิดชอบ มีการขับไล่รัฐบาล ทหารมาคุมอำนาจอีก วนอยู่แค่นี้ประเทศไทย เมื่อใดก็ตามมีปัญหา ประชาชนเดือดร้อน เป็นกลุ่มนู้นกลุ่มนี้ทีละกลุ่ม แล้วแต่จังหวะไหน ถ้ามีคนรวมกลุ่มขนาดนี้ขึ้นมาขนาดใหญ่ มีคนคล้อยตามอีก เดินขบวนกันเกร่อ รัฐบาลแก้ปัญหาไม่ได้ ก็กลายเป็นแหกกฎหมายทุกฉบับ แล้วปล่อยได้หรือไม่ ถ้ารัฐบาลทำไม่ได้ แล้วใครจะทำ รัฐบาลทำได้ก็จบตรงนั้น เดินหน้าสู่ประชาธิปไตย มีนายกฯ มีสภา คณะรัฐมนตรี แล้วก็ไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ ทำได้หรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ก็จบตรงนั้น ก็กลับมาสู่ทหารอีก ไม่ต้องจับทหารทำสัญญา ให้นักการเมืองทำสัญญากับประชาชนแล้วกันว่า จะไม่ทำให้บ้านเมืองเสียหายอีก”
“จะไม่บอกว่าต่อไปมีหรือไม่มี พูดถึงทหารหลายครั้ง ยืนยันไม่มีใครอยากทำ เสี่ยงอันตรายทุกอย่าง ไม่สำเร็จเดือดร้อนหมด ให้นึกว่าทำเพื่ออะไร ไม่ไปพูดถึงครั้งอื่น พูดถึงครั้งนี้ หลังวันที่ 22 (พ.ค. 2557 คสช.ยึดอำนาจ) ไปแล้ว เกิดอะไรหลังจากนั้น ไปคิดเอาเอง มีอาวุธสงครามเยอะแยะ รัฐบาลทำอะไรไม่ได้ งบประมาณเบิกจ่ายไม่ได้ คิดตรงนั้นหรือไม่ สับสนอลหม่าน บ้านเมืองไร้ขื่อแป นั่นเรียกว่าอนาธิปไตย อะไรก็ประชาชน มันเป็นอนาธิปไตยหรือไม่ แยกให้ออกว่า จะอยู่อย่างไรกันต่อไป นั่นแหละประเด็น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การปรองดองไม่ใช่เรื่องนิรโทษกรรม แต่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง ต้องดูว่าสาเหตุมาจากตรงไหน ต้องแก้ตรงนั้น ไม่ใช่แก้ที่ปลายเหตุ ทุกมองปลายเหตุหมด ปลายเหตุที่ทำให้ทหารปฏิวัติ เกิดจากอะไร แก้ตรงนู้นเขาเรียกว่า การปฏิรูป ยุทธศาสตร์ชาติ การปรองดองในทุกมิติ เป็นการปรองดองที่ต้นเหตุ เนื่องจากประชาธิปไตยมีปัญหา
ทั้งนี้ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พล.อ.ประยุทธ์ ได้โชว์เอกสารเกี่ยวกับแนวคิดการปรองดอง โดยประมวลมาจากการอ่านหนังสือวิชาการเกี่ยวกับการปรองดองหลายเล่ม โดยมีทั้งหมด 17 หน้า ด้วย
@ยันปม‘บิ๊กติ๊ก’ถ้าขาดงาน สนช.เกินจริง พ้นหน้าที่-ว่ากันตามกติกา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีเว็บไซต์ i-law เผยแพร่รายงานว่า มีทหารระดับนายพลหลายราย รวมถึง พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ในฐานะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มาประชุมไม่ครบตามระเบียบ สนช. โดยอ้างว่า ติดราชการลับ ว่า ประเด็นเรื่องนี้คือมีชื่อของน้องชายตน ถึงเวลาก็ไปสอบมา ถ้าผิดจริงก็ตัดชื่อ พ้นหน้าที่เท่านั้น แต่วันนี้ไม่ใช่ไม่มาเลย ก็มาอยู่ แต่ครบไม่ครบเป็นเรื่องการตรวจสอบ อย่ามาพันกัน อีกประเด็นเขามีเงินเดือนอยู่แล้ว เป็นข้าราชการเกษียณ มีบำเหน็จบำนาญอยู่ ถ้าไม่ได้เป็น สนช. ก็รับเงินบำนาญตามกฎหมาย ว่ากันไป ทุกคนอยู่ในกติกานี้หมด