ฉบับเต็ม!ความเห็นอัยการคดี ‘บ.บางซื่อ-น้องชายบิ๊กการเมือง’ รุกแม่น้ำเจ้าพระยา
ดูชัด ๆ ความเห็น ‘อัยการ’ สั่งไม่ฟ้องทุกประเด็น คดี ‘บ.บางซื่อ’ เครือญาติ ‘สันติ พร้อมพัฒน์’ อดีต รมต.หลายกระทรวง รุกแม่น้ำเจ้าพระยา จ.สมุทรปราการ ก่อนหน้าถูกร้องทุกข์กล่าวโทษ ตั้งแต่ ก.พ. 57
กรณีอัยการจังหวัดสมุทรปราการ ได้ส่งสำนวนให้พนักงานสอบสวนโดยมีคำสั่งไม่ฟ้อง บริษัท บางซื่อ จำกัด (ของเครือญาติ นายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง) ถมที่ดินรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณซอยวัดมหาวงษ์ และวัดโยธินประดิษฐ์ ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามที่กรมเจ้าท่า ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน และสำนักข่าวอิศรารายงานไปก่อนหน้านี้ (อ่านประกอบ:อัยการ ‘ไม่ฟ้อง’ บ.เครือญาติ อดีต รมต. คดีถมที่ดินรุกแม่น้ำเจ้าพระยา)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำความรายละเอียดความเห็นของอัยการที่ส่งให้พนักงานสอบสวนมาเสนอ ดังนี้
พิจารณาแล้วเห็นว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 700 ,701 และ 702 เป็นที่ดินที่ออกโฉนดตังแต่ ร.ศ.123 โดยมีหลักฐานการซื้อขายเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และจดทะเบียนจำนองต่อเนื่องกันมานับสิบครั้ง จนเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2556 ผู้ต้องที่ 1 ซื้อที่ดินทั้งสามแปลงดังกล่าวมาจาก บริษัท บริหารสินทรัพย์ไทย จำกัด ตามเนื้อที่ที่ปรากฏในโฉนด
ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า เจ้าของกรรมสิทธิ์เดิม ตลอดจนผู้ต้องหาที่ 1 ได้แสดงเจตนาที่จะครอบครอง และถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินตามจำนวนเนื้อที่ในโฉนดที่ดินทั้งสามแปลง และแม้ที่ดินทั้งสามแปลงจะมีน้ำท่วมถึงบางส่วน แต่ไม่ได้ท่วมตลอดเวลา เมื่อน้ำลงจะเห็นที่ดินทั้งสามแปลง โดยมีต้นหินที่เจ้าของกรรมสิทธิ์เดิมทำไว้กั้นอยู่ตามแนวโฉนดที่ดินเพื่อป้องกันนำกัดเซาะตลิ่ง และไม่ปรากฏว่า อธิบดีกรมที่ดินได้เคยยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้เพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินส่วนที่น้ำท่วมถึงให้ตกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ที่ดินตามโฉนดดังกล่าวจึงไม่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และไม่ใช่ทางสัญจรของประชาชน หรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ตามพระราชบัญญัติกรเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 มาตรา 119 การเททิ้งหิน กรวด ดิน ทรายลงในแม่น้ำของผู้ต้องหาจึงไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าท่า
เมื่อที่ดินตามโฉนดทั้งสามฉบับดังกล่าวไม่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินและไม่ใช่ทางสัญจรของประชาชน หรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันดังกล่าวข้างต้นแล้ว ผู้ต้องหาที่ 1 จึงมีสิทธิเหนือที่ดินที่ตนมีกรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การที่ผู้ต้องหาที่ 1 ทำการถมที่ดินทั้งสามแปลง โดยแปลงโฉนดเลขที่ 700 และ 701 ได้ถมในภายคันหินแสดงเขตที่ดิน ส่วนแปลงหมายเลข 702 มีการถมล้ำเข้าในแม่น้ำมีเนื้อที่ 91.6 ตารางวา ซึ่งเป็นเนื้อที่เพียงเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับที่ดินโฉนดเลขที่ดังกล่าวที่มีเนื้อที่ถึง 5 ไร่เศษ ทั้งการถมดังกล่าว ผู้ต้องหาทั้งสามก็ไม่ได้ดำเนินการด้วยตนเอง แต่ได้ว่าจ้างผู้อื่นดำเนินการถม จึงอาจเป็นไปได้ที่ผู้รับจ้างถมล้ำเข้าไป เนื่องจากแนวหินที่เป็นต้นกั้นแนวเขตที่ดินบางส่วนชำรุด และมีเศษวัชพืชปกคลุม หรืออาจเกิดจากวัสดุที่ใช้ถมลงภายในเขตที่ดินไหลรุกล้ำออกไปนอกเขตเข้าไปในแม่น้ำ เนื่องจากไม่มีการทำเขื่อนกั้นไม่ให้วัสดุที่ใช้ถมไหลออกไป กรณีจึงฟังได้ว่า ผู้ต้องหาทั้งสามไม่มีเจตนาที่จะบุกรุกที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามข้อกล่าวหา
ส่วนกรณีที่กล่าวหาว่า ผู้ต้องหาทั้งสามได้ทำการถมดินที่มีพื้นที่เกินกว่าสองพันตารางเมตร โดยไม่จัดให้มีการระบายน้ำ และไม่แจ้งการถมดินต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น นั้น
เห็นว่ากรณีเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 มาตรา 26 ,35 ซึ่งจะต้องได้ความว่าเป็นการถมดิน โดยมีความสูงของเนินดินเกินกว่าระดับที่ดินต่างเจ้าของที่อยู่ข้างเคียงจงบัญญัติให้ต้องจัดการให้มีการระบายน้ำให้เพียงพอ ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันมิให้น้ำไหลเข้าไปในที่ดินข้างเคียงที่อยู่ต่ำกว่า แต่ปรากฏว่าในการถมดินของผู้ต้องหาทั้งสามในคดีนี้ มิได้มีการถมดินให้มีระดับสูงกว่าระดับที่ดินต่างเจ้าของที่อยู่ข้างเคียง แต่อย่างใด ดังนั้น ผู้ต้องหาทั้งสามจึงไม่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าว
คดีจึงมีพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง
จึงมีคำสั่งไม่ฟ้อง บริษัท บางซื่อ จำกัด ผู้ต้องหาที่ 1 นายวิทยา พร้อมทวีสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 2 และ น.ส.พรีดา พร้อมทวีสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 3 ข้อหาร่วมกันบุกรุกที่ดิน ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยการเททิ้งหิน กรวด ดิน ทราย เศษวัสดุ ถมล่วงล้ำเขาไปในแม่น้ำเจ้าพระยาอันเป็นทางสัญจรของประชาชน หรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน และขุดดิน หรือถมดินโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 9 ,108 ทวิ ของประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 117 ,119 ,119 ทวิ ของพระราชบัญญัติเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 มาตรา 6 ,26 ,27 ,35 ,36 ของพระราชบัญญัติขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 มาตรา 83 ของประมวลกฎหมายอาญา
ความเป็นมาคดีนี้ สืบเนื่องจาก ชาวบ้านบริเวณซอยวัดมหาวงษ์ และวัดโยธินประดิษฐ์ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้ร้องเรียนว่า มีเอกชนได้ใช้เครื่องจักรเข้าไปถมที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และเกรงว่าเอกชนรายดังกล่าวอาจลงทุนสร้างโครงการขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบต่อวิถีชีวิตชุมชนบริเวณนั้น
ต่อมา วันที่ 20 ก.พ. 2557 สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรปราการ สังกัดกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม โดย นายสุรัฐ ศิริไสยาสน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรปราการ มอบอำนาจให้ นายโอฬาร เต็งรัง และ นายพงษ์ธร สุขก่ำ ผู้รับมอบอำนาจจากเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงใต้ ให้ดำเนินคดีกับ บริษัท บางซื่อ จำกัด ในข้อหาถมดินและเศษวัสดุก่อสร้างเข้าในไปในพื้นที่แม่น้ำเจ้าพระยาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า
23 มิ.ย. 2557 พ.ต.อ.อรรถพล อนุสิงห์ ผู้กำกับการ สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญา ที่ 102/2557 ลงวันที่ 20 ก.พ. 2557 ให้อัยการจังหวัดสมุทรปราการ โดยพนักงานสอบสวนได้มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 3 ราย คือ บริษัท บางซื่อ จำกัด ผู้ต้องหาที่ 1 นายวิทยา พร้อมทวีสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 2 และ น.ส.พีรดา พร้อมทวีสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 3 ในความผิดร่วมกันบุกรุกที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยการเททิ้ง หิน กรวด ดินทราย เศษวัสดุ ถมล่วงล้ำเข้าไปในแม่น้ำเจ้าพระยาอันเป็นทางสัญจรของประชาชน หรือเป็นที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน
กระทั่งอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในที่สุด
หากนับเวลาตั้งแต่ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน จนถึงอัยการมีความเห็นในคดี เป็นเวลากว่า 2 ปี
อ่านประกอบ:
พบ“เปรมชัย กรรณสูต”ถือหุ้นปริศนา! บ.เครือข่าย“สันติ”11 ล้าน
สาวลึก!บริษัทคดีรุกแม่น้ำเจ้าพระยาโผล่ถือหุ้นใหญ่ ร.ร.ดังย่านประตูน้ำ
ภาพชัดๆ บริษัทแห่งที่สอง เครือข่ายอดีตบิ๊ก รมต.คดีรุกคลอง-คล้ายโรงงานเก่า
โผล่อีกแห่ง!บ.เครือข่ายอดีตบิ๊ก รมต.รุกคลองสาธารณะ-ผู้ถือหุ้นกลุ่มเดียวกัน
เปิดตัวหญิงสาววัย 25 ปี หุ้นใหญ่ บ.น้องชายอดีต รมต.รุกเจ้าพระยา
บ้าน"น้องชาย"อดีต รมต.คดีรุกเจ้าพระยา เป็นร้านอะไหล่รถยนต์
ไขความลับ!“พร้อมทวีสิทธิ์” นามสกุลเดิม“สันติ พร้อมพัฒน์”
"เจ้าของ"ที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา อดีตหุ้นใหญ่ บ.ลูกหนี้"คุณหญิงอ้อ"
เปิดตัวบริษัท"น้องชาย”อดีตบิ๊ก รมต.รุกเจ้าพระยา-คล้ายโกดังเก็บของ
ชัดๆ“หลังโฉนด-ภาพชุด”ที่ดินริมน้ำคนใกล้ชิด“สันติ” รุก-ไม่รุก“เจ้าพระยา”
"สันติ"เดือด"อิศรา"ขุดข้อมูลเมียถือหุ้นใหญ่บ.ก่อนโดนฟ้องรุกเจ้าพระยา
ลูก-เมีย“สันติ พร้อมพัฒน์”ถือหุ้นใหญ่ก่อนซื้อที่ดินแม่น้ำเจ้าพระยา
อธิบดีฯเจ้าท่าลั่นไม่กลัว-ลุยฟ้อง "บริษัท-น้องชาย”อดีตรมต.รุกเจ้าพระยา