เปิดตัวบริษัท"น้องชาย”อดีตบิ๊ก รมต.รุกเจ้าพระยา-คล้ายโกดังเก็บของ

"อิศรา"ลุยพิสูจน์ “บริษัท-น้องชาย”อดีตบิ๊ก รมต.ถมที่ดินรุกแม่น้ำเจ้าพระยา พบสภาพออฟฟิศคล้ายโกงดังเก็บของ ใช้ที่อยู่เดียว บ.หุ้นส่วนใหญ่ 

จากกรณีพ.ต.อ.อรรถพล อนุสิงห์ ผู้กำกับการ สภ.สำโรงใต้ จังหวัดสมุทรปราการ ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญา ที่ 102/2557 ลงวันที่ 20 ก.พ.2557 ให้อัยการจังหวัดสมุทรปราการ โดยพนักงานสอบสวนได้มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 3 รายคือ บริษัท บางซื่อ จำกัด ผู้ต้องหาที่ 1 นายวิทยา พร้อมทวีสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 2 และนางสาวพีรดา พร้อมทวีสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 3 ในความผิดร่วมกันบุกรุกที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันโดยการเททิ้ง หิน กรวด ดินทราย เศษวัสดุ ถมล่วงล้ำเข้าไปในแม่น้ำเจ้าพระยาอันเป็นทางสัญจรของประชาชน หรือ เป็นที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน

โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรปราการ สังกัด กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง

ขณะที่ นายวิทยา พร้อมทวีสิทธิ์ เป็นน้องชายอดีตรัฐมนตรีคนหนึ่งในรัฐบาลก่อนหน้านี้ซึ่งรัฐมนตรีรายดังกล่าวเป็นแกนนำคนสำคัญของพรรคการเมืองใหญ่ ตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข้อเท็จจริงไปก่อนหน้านี้ 

(อ่านประกอบ : ฟ้อง“บริษัท-น้องชาย”อดีตบิ๊ก รมต.กับพวก รุกแม่น้ำเจ้าพระยา)

เมื่อวันที่ 5 ก.ย.57 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้เดินทางไปตรวจสอบข้อมูลบริษัท บางซื่อ จำกัด และขอสัมภาษณ์ผู้บริหารเกี่ยวกับการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีดังกล่าว ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการคือ เลขที่ 107 ถนนนักกีฬาแหลมทอง แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร  

เมื่อเดินทางไปถึงพบว่าสภาพสำนักงานบริษัท บางซื่อฯ มีลักษณะคล้ายโกดังเก็บของ มีกำแพงล้อมรอบสูงกว่า 2 เมตร  ด้านหน้าทางเข้าบริษัทติดป้ายชื่อว่า  บริษัท พี แอนด์ เอส พัฒนา จำกัด ซึ่งปรากฎรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท บางซื่อฯ 

(ดูรูปประกอบ)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อพนักงานบริษัท เพื่อขอพบผู้บริหารบริษัท ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้พบ โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ผู้บริหารไม่มีใครอยู่ที่บริษัท และไม่ได้เข้าบริษัทมาสักพักหนึ่งแล้ว พร้อมให้ผู้สื่อข่าวทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้แล้วจะติดต่อกลับมาเอง 

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท พี แอนด์ เอส พัฒนา จำกัด ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท บางซื่อฯ จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2552 ทุนปัจจุบัน 100,000,000 บาท แจ้งที่อยู่เลขที่ 107 ถนนนักกีฬาแหลมทอง แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร (เลขที่ 107 เดิมเลขที่ 99/2494 หมู่ที่ 16 สำนักงานเขตสะพานสูงเปลี่ยนให้เมื่อ 29 ธ.ค.54) ประกอบธุรกิจซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ให้เช่า ขายฝาก จำนอง อสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งจำนำสังหาริมทรัพย์ เข้าเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำกัดและบริษัทมหาชนจำกัด

ในช่วงก่อตั้ง มีผู้ถือหุ้น 3 คนคือ

1.นางสาวพีรดา ศรีเครือดง อายุ 25 ปี   อยู่บ้านเลขที่  107/33 หมู่ 16 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ 999,800 หุ้น

2.นางสาวกัญญารัตน์ ทองแถม อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93/25 ซอยลาดพร้าว 37 (จันทราสุข) แขวงวังทองหลาง กรุงเทพฯ   100 หุ้น 

และ 3. นายชำนาญ กุฎสำโรง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114/64 หมู่ที่ 16 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 100 หุ้น  (ต่อมา แจ้งที่อยู่เลขที่ 2 หมู่ 6 ต.ดอน อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา)

นางสาว พีรดา ศรีเครือดง เป็นผู้เริ่มก่อการ กรรมการผู้ขอจดทะเบียน   

ต้อมา บริษัท พี แอนด์ เอส พัฒนา มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น 3 ครั้ง 

วันที่ 30 เม.ย.56 นางสาวกัญญารัตน์ ทองแถม ได้โอนหุ้น จำนวน 100 หุ้น ให้ นางสาวศรัญญา เจริญสุข อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ที่ 1 ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ 

วันที่ 8 ม.ค.57 น.ส.ศรัญญา เจริญสุข ได้โอนหุ้นต่อจำนวน 100 หุ้นให้ น.ส.สรัญญา พร้อมทวีสิทธิ์ อยู่บ้านเลขที่ 21 ซอยรามคำแหง 139 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ

วันที่ 30 เม.ย.57 น.ส.สรัญญา พร้อมทวีสิทธิ์ ได้โอนหุ้นกลับไปให้ นางสาวศรัญญา อีกครั้ง มีนางสาวพีรดา ถือหุ้นใหญ่ ไม่เปลี่ยนแปลง 

บริษัทฯ นำส่งงบดุลแสดงผลประกอบกิจการล่าสุดปี 56 แจ้งว่ามีรายได้จากการขายและบริการ 420,000 บาท ขาดทุนสุทธิ 5,792,009.52 บาท 

จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.พีรดา ถือหุ้นและเป็นกรรมการบริษัทร่วมกับนายวิทยา พร้อมทวีสิทธิ์ น้องชายอดีตรัฐมนตรีคนหนึ่งหลายแห่ง