ขีดเส้นรายงาน17ก.พ.นี้! ผู้ว่าฯภูเก็ตสั่งสอบส่วยทั้งระบบ8เรื่อง-มีมูลเอาผิดเด็ดขาด
ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ทำบันทึกด่วน! แจ้งปลัดมหาดไทย หลังอิศราเผยแพร่เทวีทัศน์ "ภูเก็ต: ทำไมคอร์รัปชันเยอะจัง" ลั่นไม่เคยรับเงินส่วย พร้อมตรวจสอบ-นัดประชุมคณะกรรมการจังหวัดพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ เรียกผู้เกี่ยวข้องให้ข้อมูล แก้ไขปัญหาทั้งระบบ 8 เรื่อง ขีดเส้นส่งข้อมูล17ก.พ.นี้ -มีมูลเอาผิดเด็ดขาด
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอเวทีทัศน์ เรื่อง ภูเก็ต: ทำไมคอร์รัปชันเยอะจัง ที่เขียนโดยดร. มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เมื่อวันที่ 13 ก.พ.2560 ที่ผ่านมา ซึ่งมีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับปัญหาการเรียกรับส่วยระดับต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
ล่าสุด แหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2560 นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อแจ้งข้อเท็จจริงเรื่องนี้
โดยระบุว่า "ตามที่มีข่าวสารเกี่ยวกับการรับส่วยในจังหวัดภูเก็ต เผยแพร่ไปในสื่อออนไลน์นั้น
ผมขอยืนยันว่า ผู้ว่าฯไม่เคยรับเงินส่วย หรือมอบหมายผู้ใดไปรับเงินส่วย หรือเงินที่ไม่ถูกต้องตามกฏหมายจากสถานประกอบการใดๆทุกประเภท ไม่ว่าจะถูกต้องตาม กฏหมายหรือไม่ก็ตาม
อย่างไรก็ดี ต่อกรณีดังกล่าว ผมจะได้ตรวจสอบโดยละเอียดในทุกประเด็นที่ได้ปรากฏในข้อความทั้งหมด ทั้งนี้ผมได้นัดประชุมคณะกรรมการจังหวัดเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวเป็นกรณีพิเศษ พร้อมทั้งจักได้ติดต่อขอข้อมูลจากผู้เผยข้อมูลมาประกอบการพิจารณาด้วย
ผมจะพิจารณาเพื่อแก้ปัญหาทั้งระบบ ผลความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบเป็นระยะต่อไป
เพื่อโปรดกรุณาทราบเป็นการเบื้องต้น
โชคชัย เดชอมรธัญ
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ต่อมาในช่วงบ่ายวันที่ 14 ก.พ.2560 ที่ห้องประชุมอาคาร คอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายสนิท ศรีวิหค และนางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานประชุมกรมการจังหวัดภูเก็ต เพื่อสั่งการ/กำชับแนวทางการปฏิบัติราชการจังหวัดภูเก็ต วาระพิเศษ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วม
นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการจังหวัดถือเป็นการประชุมกรณีพิเศษเร่งด่วน เพื่อสื่อสารและกำชับให้หน่วยงานราชการ ปฏิบัติงานด้วยความโปร่งใส ต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น ร่วมสร้างภูเก็ตให้เป็นเมืองสีขาว ทั้งนี้ มีเรื่องที่จะต้องจัดการเร่งด่วนท 8 ประเด็นปัญหา คือ
1.เรื่องส่วยร้านอาหารร้านค้า ที่ มีการระบุว่ามีหน่วยงานเข้าไปเรียกรับผลประโยชน์จำนวน 12 หน่วยงาน โดยเป็นปัญหาเรื่องของแรงงานต่างด้าว
2. ส่วยนักธุรกิจต่างชาติที่มาประกอบธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตมีการถูกเอารัดเอาเปรียบ ในประเด็นที่ 1 และ 2 ขอให้สำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ตทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทางจังหวัด และต้นสังกัดได้รับทราบ
3. เรื่องของการจัดระบียบโรงแรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อเท็จจริงความถูกต้องของเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ตรวจสอบโรงแรมเก่าแก่ที่มีการ ออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่สัมปทานเหมืองแร่, ตรวจสอบการอนุญาตการก่อสร้าง ,ตรวจสอบการก่อสร้างอาคารที่มีความสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด ,ตรวจสอบการชำระค่าภาษีของโรงแรมมีการดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และตรวจสอบเรื่องการเรียกเงินเพื่อไม่ให้มีการตรวจสอบโรงแรมที่ทำผิดกฎหมาย
4. เรื่องการยื่นเอกสารจดทะเบียนประกอบธุรกิจ ที่มีการร้องเรียนว่า ยื่นเอกสารครบแต่การดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐมีความล่าช้า มีการเรียกรับผลประโยชน์ ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ตทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงให้จังหวัดทราบ
5. เรื่องการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ ขอให้สำนักงานชลประทานที่ 25 ชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน
6. การสร้างเส้นทางจักรยาน ในสวนหลวง ร.9 ดำเนินการโดยท่องเที่ยวและกีฬา
7.ร้านเหล้าในพื้นที่ ป่าตอง ขายเหล้าผสมยาบ้าทำให้นักท่องเที่ยวเมาและกระโดดตึกเสียชีวิตในเรื่องนี้ขอให้ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตเร่งสืบสวนข้อเท็จจริง
8.เรื่องส่วยเพื่อให้ยกเว้นการดำเนินคดีกับผู้ กระทำความผิดเช่น โรงแรมที่กระทำผิดกฎหมาย
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ยังกล่าวย้ำว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับประเด็นปัญหาต่างๆ ทำรายงานชี้แจงต้นสังกัดของตนเองและขอให้ส่งรายงานให้ทางจังหวัดเพื่อดำเนินการแก้ปัญหา ภายในวันที่ 17 ก.พ. 2560 ทั้งนี้ มอบหมาย ให้นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตรับผิดชอบและตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ปัญหา ทั้ง 8 เรื่อง พร้อมกันนี้ จังหวัดภูเก็ตจะเปิดตู้ปณ. เพื่อ เป็นช่องทางให้ประชาชนได้แจ้งข้อมูลข่าวสารการทุจริตคอร์รัปชั่นกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ต่อไป
"หากผลการสืบสวนสอบสวนมีมูล ขอให้มีการดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ จังหวัดภูเก็ตจะดำเนินการทุกอย่างโดยใช้หลักกฎหมาย และ หากผู้ใดมีเบาะแสหรือหลักฐานว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐมีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์จากสถานประกอบการ ต่าง ๆ ให้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตทราบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายโดยเฉียบขาดต่อไป"
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก openphuketmag