‘สนธิรัตน์’แจ้ง ปธ.ป.ป.ช.ปมถือหุ้นเกิน 5% แล้ว-ลงทุนที่ดินเขาใหญ่เหตุทำเลดี
‘สนธิรัตน์’ รมช.พาณิชย์ เผยแจ้งประธาน ป.ป.ช. ปมถือหุ้นเอกชน 2 แห่งเกิน 5% อยู่ระหว่างรอ ก.ล.ต. อนุญาต บ.หลักทรัพย์ฯเข้ามาจัดการ ส่วนธุรกิจที่ดินเขาใหญ่ เห็นทำเลดี จึงชวนเพื่อนมาลงทุน
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข่าวนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ ในคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชุดที่ 4 แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินระบุว่า ร่วมลงทุนในธุรกิจที่ดินเขาใหญ่ วงเงิน 20 ล้านบาท จากทุนรวมทั้งหมด 100 ล้านบาท (มีนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ร่วมลงทุนด้วย 5 ล้านบาท) โดยนายสนธิรัตน์ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดการโครงการ ทำหน้าที่ดูแลเงินและกิจการหรืองานที่เกี่ยวกับกิจการตามสัญญา นอกจากนี้ยังถือหุ้นใน บริษัท เดอะ ซิกเนเจอร์ แบรนด์ จำกัด มูลค่า 23.5 ล้านบาท หรือประมาณ 19.5% จากทุนจดทะเบียนทั้งหมด 120 ล้านบาท และบริษัท เดอะไรท์พาวเวอร์ จำกัด มูลค่า 4,229,500 บาท หรือประมาณ 7.8% จากทุนจดทะเบียนทั้งหมด 54 ล้านบาท
ขณะที่ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 ในมาตรา 4 และมาตรา 5 บัญญัติไว้สรุปได้ว่า รัฐมนตรีจะถือหุ้นในบริษัทจำกัด หรือคงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนเกิน 5% มิได้ แต่หากต้องการได้รับประโยชน์จากหุ้นเกินกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ ต้องทำหนังสือแจ้งประธาน ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน และโอนหุ้นดังกล่าวให้นิติบุคคลเป็นผู้ดำเนินการภายใน 90 วัน ก่อนที่จะแจ้งกลับไปยังประธาน ป.ป.ช. ภายใน 10 วันนั้น
(อ่านประกอบ : พบ ‘สนธิรัตน์’รมช.พาณิชย์ ถือหุ้นบริษัท2แห่งเกิน 5% -รอแจงประธาน ป.ป.ช., ทรัพย์สิน 113 ล.‘สนธิรัตน์’รมต.ไร้บ้าน? -ร่วมหุ้น‘อุตตม’ทำธุรกิจเขาใหญ่ 20 ล.)
ล่าสุด นายสนธิรัตน์ ชี้แจงสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่างแล้ว โดยทำหนังสือแจ้งประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา 4 และมาตรา 5 ของ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 เพื่อรับประโยชน์จากหุ้นที่เกินกว่ากำหนดไว้ และให้นิติบุคคลเข้ามาดูแล โดยบริษัทจัดการหลักทรัพย์ ซึ่งอยู่ในการกำกับของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) โดยขั้นตอนใกล้เสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าดำเนินการทันภายใน 90 วันแน่นอน
ส่วนกรณีร่วมลงทุนธุรกิจที่ดินเข้าใหญ่นั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวแปลงงาม ดูดี เลยอยากลงทุน แต่ว่าที่ดินมีจำนวนเยอะ ต้องใช้เงินจำนวนมาก จึงชวนพรรคพวกมาร่วมลงทุนซื้อเก็บไว้ เพราะในอนาคตคาดว่า ราคาที่ดินแถบนั้นจะมีราคาสูงขึ้น และสามารถทำประโยชน์ได้ จึงทำเป็นบันทึกข้อตกลงในการทำธุรกิจร่วมกัน ในเมื่อทำข้อตกลงร่วมกันจึงต้องแจ้งในส่วนเงินลงทุน ไม่ได้แจ้งเป็นอสังหาริมทรัพย์ เพราะไม่ได้มีชื่อตนครอบครองอยู่รายเดียว แต่ยังมีชื่อพรรคพวกร่วมกันถือกรรมสิทธิ์ด้วย
“อยากชี้แจงให้รับทราบข้อเท็จจริง ทั้งหมดทำตามขั้นตอนกระบวนการกฎหมายทุกอย่างเรียบร้อย เรื่องการถือหุ้นเกิน 5% ได้แจ้งให้ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบแล้ว ให้บริษัทหลักทรัพย์เข้ามาจัดการแล้ว ใช้เวลาไม่ถึงเดือน เสร็จสิ้นแน่นอน” นายสนธิรัตน์ กล่าว