กอ.รมน.ส่งหนังสือแจงปมพลาดบันทึกข้อมูล 4 ศพปัตตานี
ผมเลือกใช้พื้นที่คอลัมน์นี้เพื่อถ่ายทอดเนื้อหาตามที่จั่วหัวเรื่องเอาไว้ เพราะต้องการจะแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกประกอบบ้าง ซึ่งโดยจรรยาบรรณแล้วไม่อาจกระทำได้ในพื้นที่ข่าว สกู๊ปข่าว หรือสารคดี
สืบเนื่องจาก ศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา ได้นำเสนอรายงานชื่อ "กอ.รมน.สรุปเหตุร้ายประจำเดือนมกราฯ..ฮือฮา '4 ศพปัตตานี' ไม่ใช่ประชาชน!" ในหมวดข่าว "สถิติย้อนหลัง" เมื่อวันพุธที่ 8 ก.พ.2555 โดยมีเนื้อหาตั้งข้อสังเกตถึงการบันทึกข้อมูลของ ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (ศจฉ.กอ.รมน.ภาค 4 สน.) เกี่ยวกับความสูญเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐกลุ่มต่างๆ ประจำเดือน ม.ค.2555 ซึ่งปรากฏว่าในวันอาทิตย์ที่ 29 ม.ค.ซึ่งเกิดเหตุทหารพรานยิงรถกระบะต้องสงสัยขณะติดตามไล่ล่าคนร้ายที่ยิงถล่มฐานทหารพรานกองร้อย 4302 จนมีประชาชนเสียชีวิต 4 รายและได้รับบาดเจ็บ 4 รายนั้น ปรากฏว่าได้มีการบันทึกข้อมูลผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าวไว้ในหมวด "ผู้ก่อเหตุรุนแรง"
หลังจากรายงานชิ้นนี้เผยแพร่ออกไป ได้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ก.พ.ทาง ศจฉ.กอ.รมน.ภาค 4 สน.จึงได้ส่งหนังสือชี้แจงเรื่องดังกล่าวมา ซึ่งผมขอนำมาลงแบบไม่ตัดทอด แต่มีแก้ไขคำผิดเล็กๆ น้อยๆ ดังนี้ครับ
เรียน ศูนย์ข่าวอิศรา
ศจฉ.กอ.รมน.ภาค 4 สน. จะสรุปเหตุการณ์ตามที่ได้รับรายงานจากหน่วยปฏิบัติ โดยการยืดถือเอกสารเป็นหลักฐานที่หน่วยรายงานเข้ามา เหตุการณ์เมื่อ 29 ม.ค.55 ที่ อ.หนองจิกฯ นั้น ศจฉ.ฯ ก็ดำเนินการตามนั้น การทำงานของเจ้าหน้าที่ ศจฉ.ฯ จะดำเนินการดังนี้
1.ข้อมูลรายงานเหตุการณ์เบื้องต้น เกิดเหตุ หาข้อมูล จากหน่วยเกี่ยวข้อง ทหาร ตำรวจ พลเรือน ผู้นำท้องถิ่น มูลนิธิสาธารณกุศลที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลนี้จะรู้ว่า เหตุเกิดที่ไหน ผลเป็นอย่างไร ใครได้รับผลกระทบ ใครเป็นผู้กระทำจำนวนกี่คน ฯลฯ ข้อมูลนี้จะยังไม่สมบูรณ์ สาเหตุของเหตุการณ์ถ้าไม่มีหลักฐานแน่ชัดจะไม่บอกว่ามาจากสาเหตุอะไร
2.ข้อมูลสรุปเหตุการณ์ประจำวัน ศจฉ.ฯ จะขอจากหน่วยที่เกี่ยวข้องแล้วนำมาสรุปความถูกต้องอีกครั้งในวันต่อมา (รอบ 24 ชั่วโมง) โดยขอจาก
2.1 หน่วยทหารที่รับผิดชอบในพื้นที่
2.2 ตำรวจ จาก สภ.ต่าง ๆ
2.3 อำเภอ จากฝ่ายป้องกันอำเภอ
ข้อมูลนี้ หน่วยทุกหน่วยจะสรุปว่าสาเหตุมาจากอะไร หรือน่าจะมาจากเหตุอะไร ศจฉ.ฯ ก็สรุปตามนั้นหรืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนเรื่องผลการปฏิบัติจะเป็นอย่างไรในเหตุการณ์นั้นอยู่ที่คณะกรรมการทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่และฝ่ายเอกชนที่ตั้งขึ้นมาจะสรุปผลออกมาก็เป็นอย่างนั้น
ส่วนการกระจายข้อมูลจำนวนเหตุการณ์ ยอดการสูญเสีย ศจฉ.ฯ ก็เก็บรวบรวมไว้เป็นสถิติของหน่วย เมื่อสื่อมวลชนขอมาเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องไม่บิดเบือน เปิดเผย เพราะไม่ได้เป็นความลับอะไร ผู้บังคับบัญชาก็ให้ส่งให้สื่อได้ ศจฉ.ฯ ก็กระทำมาตลอด หรือมีเหตุการณ์สำคัญเร่งด่วน ผู้สื่อข่าวก็โทรศัพท์มาถาม ศจฉฯ ก็ไม่เคยปิดบังอะไร แม้แต่ขอมาเยี่ยมชมการทำงาน
ขอแสดงความนับถือ
ศจฉ.กอ.รมน.ภาค 4 สน.
ครับ...ก็ต้องขอขอบคุณในคำชี้แจง สรุปก็คือข้อมูลที่ ศจฉ.กอ.รมน.ภาค 4 สน.รายงานเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นที่ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ ซึ่งจะมีการตรวจสอบความถูกต้องซ้ำในภายหลัง และผลการปฏิบัติสำหรับกรณี 4 ศพที่ อ.หนองจิก ก็ต้องรอการสรุปของคณะกรรมการอิสระที่ตั้งขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง
ผมสรุปอย่างนี้คิดว่าคงไม่มีอะไรผิดพลาดอีกนะครับ
ส่วนในตอนท้ายที่เอกสารชี้แจงได้ระบุถึงการให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชนนั้น ผมในฐานะบรรณาธิการศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา ขอกราบขอบพระคุณด้วยความจริงใจ และอยากบอกท่านผู้อ่านว่าทางศูนย์ข่าวฯ ได้รับความร่วมมือและเอื้อเฟื้อในแง่ข้อมูลข่าวสารจาก ศจฉ.กอ.รมน.ภาค 4 สน.ด้วยดีมาโดยตลอดจริงๆ ถือเป็นการทำงานแบบ "ทหารยุคใหม่" ที่ไม่ปกปิดข้อมูลต่อสาธารณชน
สำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ก็ต้องขอชื่นชมในความกล้าหาญที่ยอมรับและชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างรวดเร็วครับ และหวังว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จะเป็นสัญญาณที่ดีต่อการช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลซึ่งกันและกันต่อไป เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนทุกภาคส่วน
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมยังคิดค้างอยู่ ก็คือความเดิมจากคอลัมน์คุยกับบรรณาธิการ เมื่อวันที่ 1 ม.ค.2555 ใช้ชื่อว่า "สวัสดีปีใหม่...กับ 8 ปีไฟใต้ที่ยังไม่มอดดับ" ซึ่งผมเขียนวิพากษ์ถึงการ "ด่วนสรุป" กรณีอ่อนไหวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยเฉพาะคดีความต่างๆ ที่ยังมีความเคลือบคลุม ไม่ได้ข้อสรุป โดยเอ่ยพาดพิงไปถึงองค์กรภาคประชาสังคมบางองค์กรที่ชอบ "ด่วนสรุป" ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ต่อว่าฝ่ายความมั่นคงว่า "ด่วนสรุป" ในลักษณะให้ร้ายชาวบ้านเหมือนกัน
ตัวอย่างที่ผมยกก็คือคดี สุไลมาน แนซา ที่เสียชีวิตในลักษณะมีผ้าผูกคอติดกับลูกกรงห้องควบคุมตัว ภายในศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งองค์กรภาคประชาสังคมบางองค์กรที่ชอบออก "แถลงการณ์" หรือ "จดหมายข่าว" มักใช้คำว่า "นายสุไลมาน แนซา ซึ่งถูกซ้อมทรมานจนเสียชีวิตในค่ายทหาร" อันถือเป็นการ "ด่วนสรุป" รูปแบบหนึ่งในประเด็นอ่อนไหวอย่างมากประเด็นนี้เช่นเดียวกับฝ่ายความมั่นคงที่มักใช้คำว่า "นายสุไลมานผูกคอตายเอง"
ข้อเขียนของผมในส่วนนี้สร้างความไม่สบายใจให้กับ "มูลนิธิผสานวัฒนธรรม" องค์กรภาคประชาสังคมที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนและให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนในพื้นที่ โดย คุณพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิฯ ได้ส่งอีเมล์ถึงผมว่า องค์กรของเธอใช้การออก "แถลงการณ์" และ "จดหมายข่าว" ในการสื่อสารต่อสังคมและแสดงจุดยืนต่อเหตุการณ์ต่างๆ ในพื้นที่บ่อยครั้ง จึงเกรงว่าจะทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดว่าสิ่งที่ผมเขียนติติงไปหมายถึงมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ทั้งๆ ที่ทางมูลนิธิไม่เคย "ด่วนสรุป" ในลักษณะที่ผมบอก
ก็ขอนำข้อห่วงใยของคุณพรเพ็ญมาบันทึกไว้ในที่นี้นะครับ...
ปิดท้ายด้วยเรื่องที่ค้างเติ่งมาเนิ่นนานแล้ว แต่ยังเป็นประเด็นติดค้างอยู่ในใจผมมาตลอด ก็คือกรณีที่ ศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา ได้นำเสนอ "สกู๊ปข่าว" ว่าด้วยการแถลงรายชื่อ 4 ผู้ต้องหาคดีกราดยิงในมัสยิดอัลฟุรกอน บ้านไอร์ปาแย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส จนมีผู้เสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 12 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2552 โดย พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.ในขณะนั้น นำชื่อผู้ต้องหาคดีอื่น 4 คนมาแถลงเป็นผู้ต้องหาคดีกราดยิงในมัสยิดบ้านไอร์ปาแย ซึ่งเป็นการแถลงที่ผิดพลาดและสร้างความเข้าใจผิดในวงกว้าง
โดยการแถลงดังกล่าวมีขึ้นในราวเดือน ต.ค.ถึง พ.ย.2552 ซึ่งช่วงแรกไม่มีใครทราบว่าเป็นการแถลงผิด โดยนำผู้ต้องหาคดีก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันซึ่งมีการออกหมายจับผู้ต้องหา 4 รายมาแถลงเป็นผู้ต้องหาคดีไอร์ปาแย แต่ต่อมาทางศูนย์ข่าวฯตรวจสอบพบว่าเป็นการแถลงผิดพลาด จึงนำเสนอสกู๊ปข่าวชื่อ "ไขปริศนา 4 หมายจับผู้ต้องหาไอร์ปาแย ที่แท้เป็นคดี 'ป่วนโก-ลก' ทหารยอมรับ 'ข้อมูลพลาด'"
สิ่งที่ผมอยากบอกก็คือ หลังจากที่ได้นำเสนอสกู๊ปข่าวชิ้นนั้น ผมคาดว่าฝ่ายทหารจะต้องโกรธและกดดันผมหรือน้องๆ นักข่าวในศูนย์ข่าวฯด้วยวิธีการต่างๆ นานาแน่ แต่การณ์กลับไม่เป็นอย่างที่คิด ท่าน พ.อ.บรรพต โทรศัพท์หาผมจริง แต่เป็นการโทร.มาเพื่อยอมรับความผิดพลาด และบอกว่าได้แถลงแก้ไขไปแล้ว พร้อมกับย้ำว่าได้พยายามทำงานตามหน้าที่เพื่อสื่อสารให้ประชาชนได้ทราบความคืบหน้าของคดีโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นคดีที่สาธารณชนให้ความสนใจ
แม้เหตุการณ์จะผ่านมานานแล้ว และ พ.อ.บรรพต ก็พ้นจากหน้าที่โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.ไปนานแล้ว โดยผมก็ไม่เคยเจอท่านอีกเลย แต่ผมก็อยากบันทึกไว้ ณ ที่นี้เพื่อขอบคุณท่านที่ "แอ่นอกรับ" สมกับเป็นชายชาติทหาร และไม่ได้ต่อว่าต่อขานหรือด่าทอผมเลยแม้แต่คำเดียว ซึ่งหากท่าน พ.อ.บรรพต มองอย่างเอาตัวเองเป็นที่ตั้งก็ต้องบอกว่า สกู๊ปข่าวชิ้นนั้นทำให้ท่านเสียหายและเสียหน้าอย่างแรง
ทั้งกรณีของท่าน พ.อ.บรรพต และกรณีของ ศจฉ.กอ.รมน.ภาค 4 สน.ผมถือว่าเป็นท่าทีของ "ทหารยุคใหม่" ที่ได้แสดงบทบาท "ทหารประชาธิปไตย" ยอมรับฟังความเห็นที่แตกต่างและเสียงท้วงติงอย่างมืออาชีพ โดยไม่ได้แสดงท่าทีในลักษณะ "อำนาจนิยม" เหมือนกับที่เคยคุ้นชินกันในอดีต ผมขอขอบคุณและนับถือน้ำใจของทุกท่านที่เกี่ยวข้องด้วยความจริงใจ
เช่นเดียวกับมูลนิธิผสานวัฒนธรรมซึ่งเป็นเอ็นจีโอ ก็ได้พูดคุยโต้แย้งบางประเด็นที่เห็นต่างกันด้วยเหตุและผล ผมถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี และเป็นเรื่องดีๆ จากชายแดนใต้ที่อยากเล่าให้ท่านผู้อ่านฟังครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ผู้เสียชี่วิต 4 รายจากเหตุการณ์ร้ายที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี (ภาพโดย อับดุลเลาะ หวังหนิ)
อ่านประกอบ :
1 กอ.รมน.สรุปเหตุร้ายประจำเดือนมกราฯ..ฮือฮา '4 ศพปัตตานี' ไม่ใช่ประชาชน!
2 สวัสดีปีใหม่...กับ 8 ปีไฟใต้ที่ยังไม่มอดดับ
3 ไขปริศนา 4 หมายจับผู้ต้องหาไอร์ปาแย ที่แท้เป็นคดี "ป่วนโก-ลก" ทหารยอมรับ "ข้อมูลพลาด"
http://www.isranews.org/south-news/scoop/item/1602-4.html