ประกอบที่จีน!โฆษกกรมศุลฯ งัดหลักฐานโชว์รูปเรือเทียบท่าที่มาเลย์ รถเมล์ NGV วิ่งลงมาทั้งคัน
ยินดีให้ตรวจสอบ โฆษกกรมศุลฯ งัดหลักฐานโชว์สื่อมวลชน ยันรถเมล์ NGV ผลิตในจีน ชี้ซุเปอร์ซาร่าใช้สิทธิ์ลดอากร เสรีอาเซียนไม่ได้
7 ก.พ. 2560 ที่อาคาร 1 กรมศุลกากร นายชัยยุทธ คำคุณ โฆษกกรมศุลกากร จัดแถลงข่าวกรณีบริษัทเบสท์ริน กรุ๊ป ยื่นหนังสือถึงประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อขอให้ตรวสอบการทำหน้าที่ของกรมศุลกากร และอ้างว่า กรมศุลกากรไม่เคยแสดงหลักฐานที่อ้างว่า บริษัทนำเข้ารถเมล์NGVจากจีน
นายชัยยุทธ กล่าวถึงหลักฐานที่กรมศุลกากรมี คือ รูปถ่ายที่ยืนยันว่า สินค้าหรือรถโดยสารที่บริษัทซุปเปอร์ซ่าร่า ยืนยันว่า นำเข้าจากมาเลเซียนั้น กรมศุลากรมีภาพช่วงเวลาเมื่อเรือ GLOVIS เทียบท่าที่มาเลเซีย รถโดยสารล็อตดังกล่าววิ่งลงมาทั้งคัน ไม่ได้เป็นรถเมล์ที่มาประกอบที่มาเลเซีย แต่มาจากจีนและประกอบเสร็จเเล้วทั้งคัน
"เราไม่ได้มั่ว เราไม่ได้มโน เรามีหลักฐาน แต่ยังไม่สามารถเผยแพร่ได้หมด"
สำหรับประเด็นที่กรมศุลกากรถูกกล่าวหาว่า ไม่มีอำนาจในการที่จะให้วางประกันในส่วนค่าปรับรถเมล์ 99 คัน ที่ปัจจุบันยังค้างอยู่ท่าเรือแหลมฉบัง นายชัยยุทธ กล่าวว่า หากดูตามประมวลระเบียบ ปฏิบัติของกรมศุลกากรที่ว่าด้วยการลดหรือยกเว้น อากรศุลกากร สำหรับสินค้าที่นำเข้ามา ภายใต้ถิ่นกำเนิดอาเซียน มีประมวลปฏิบัติแค่ส่วนเดียวที่พูดถึงเรื่องการยกเว้นการระวางค่าปรับได้ ซึ่งมีใจความว่า
“กรณีรายการข้อมูลในใบขนสินค้าขาเข้า เอกสารประกอบและหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าไม่ถูกต้องตรงกันและมีเหตุควรสงสัยหรือจำเป็นต้องสอบถามไปยังหน่วยงานที่ออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า และสินค้านั้นไม่ได้เป็นสินค้าต้องห้าม หรือต้องจำกัดการนำเข้า และไม่มีข้อสงสัยในการฉ้อฉล การปล่อยสินค้านั้นไปก่อน แล้วชักตัวอย่างไว้ โดยวางประกันให้คุ้มค่าภาษีอากร โดยไม่ต้องวางเงินค่าปรับ”
นายชัยยุทธ กล่าวอีกว่า การนำเข้ามาครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวในเรื่องรายละเอียดของใบขน หรือเอกสารประกอบอื่นๆ ไม่ใช่ความไม่สอดคล้องกันของเอกสาร แต่เป็นเรื่องความไม่สอดคล้องกับสินค้าที่นำเข้าจริงกับเอกสารที่สำแดง และขณะนี้กรมศุลกากรมีข้อสงสัย และมีหลักฐานเบื้องต้น ณ ขณะที่กล่าวหา ว่าสินค้าที่นำเข้ามา 489 คันนี้ เป็นสินค้า ที่นำเข้ามาจากจีน ผ่านมามาเลเซียแล้วเข้าไทย ดังนั้นตามประมวลข้อปฏิบัติตรงนี้จึงไม่สามารถเอาไปใช้ได้ ตามที่บริษัท เบสท์รินได้กล่าวอ้างเพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่า เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรไม่ทำตามประมวลปฏิบัติคือให้จ่ายเงินค่าภาษีและวางเงินค่าปรับด้วย ล็อตดังกล่าว ก็จะกลายเป็นว่า เจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามประมวลปฏิบัติเสียเอง อีกอย่างบริษัทที่เป็นเกี่ยวข้องกับกรมศุลกากร ไม่ใช่เบสท์ริน แต่คือบริษัทที่นำเข้า คือ ซุปเปอร์ซาร่า
ในประเด็นต่อมาที่ทางประธานบริษัท เบสท์ริน ระบุว่า หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า(Form D) สำคัญที่สุดไม่มีใครยกเลิกได้ นายชัยยุทธ กล่าวว่า ใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า เป็นเอกสารซึ่งประเทศสมาชิกได้ ตกลงกันว่า ให้ใช้เป็นเอกสารในการผ่านกระบวนการศุลกากร เป็นเอกสารหนึ่งเพื่อขอรับสิทธิลดหรือยกเว้นภาษีอากร ไม่ใช่เป็นเอกสารพิสูจน์ว่าสินค้านั้นจะได้รับลดอากรหรือไม่ ถึงแม้ว่าบริษัทใดบริษัทหนึ่งขอหนังสือมา แต่ถ้าบริษัทนั้นไม่ได้นำเข้าสินค้าจากประเทศที่ได้รับสิทธิ์ ก็ไม่สามารถยกเว้นได้ ความสำคัญในการได้รับยกเว้น ขึ้นอยู่กับสินค้าที่นำเข้าว่ามีถิ่นกำเนิดจากประเทศสมาชิกหรือไม่ ดังนั้นตัวหนังสือ Form D เป็นเพียงตัวช่วยที่จะสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว หากว่าไม่มีข้อมูลอื่นในการประกอบทำความเข้าใจในการปล่อยของนั้น แต่ถึงแม้ว่าท่านมีฟอร์ม แต่ไม่ได้เอาสินค้ามาจากถิ่นนั้น ก็ไม่ได้รับสิทธิ ความสำคัญของการได้รับสิทธิ์ ไม่ได้อยู่ที่ฟอร์ม แต่อยู่ที่ตัวสินค้าว่ามาจากประเทศที่ได้รับสิทธิ์หรือไม่
นายชัยยุทธ กล่าวด้วยว่า กรณีที่สามารถปฏิเสธสิทธิ์ ได้หรือไม่นั้น ไม่ใช่เป็นอำนาจของประเทศผู้ส่งออก แต่เป็นอำนาจของประเทศที่นำเข้า เพราะ ประเทศที่นำเข้าเป็นคนกำหนดว่า จะได้รับลดหรือยกเว้น อัตราอากรหรือไม่ ในความตกลงที่ได้ทำไว้ คือ ประเทศที่นำเข้ามีอำนาจในการที่จะตัดสิทธิ์หากเห็นว่าสินค้าที่นำเข้าไม่ได้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่จะได้รับสิทธิ์ จากประเทศที่ได้ข้อตกลง เมื่อเราปฏิเสธแล้ว เราต้องแจ้งให้ประเทศที่ออกหนังสือเท่านั้นเอง
ส่วนเรื่องรกเมล์ที่ยังจอดค้างที่ท่าเรือ นายชัยยุทธ กล่าวชี้แจงว่า ทางกรมศุลกากรกักไม่ได้รถเมล์ ดังนั้นผู้ประกอบการสามารถนำรถเมล์ออกได้ เพียงแต่ ณ ขณะนี้ บริษัทซุปเปอร์ซ่าร่า ได้ยื่นใบนำเข้าทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว และได้ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว แต่บริษัทยังไม่ได้มาติดต่อเจ้าหน้าที่ ในขั้นตอนการตรวจปล่อยสินค้า กรมศุลกากรก็รออยู่ว่าเมื่อไรจะมาดำเนินการ เราพยายามามเร่งกระบวนการ ในการนำรถเมล์ออกไป ทางกรมศุลฯ ได้ทำหนังสือไปยังที่อยู่ของบริษัท แต่ปรากฏว่าไม่มีผู้ตอบรับ ไปรษณีย์ถูกตีกลับ
“ขอยืนยันว่ากรมศุลกากรไม่ได้นิ่งนอนใจในการให้บริษัทนำรถเมล์ออกไป แต่การนำรถออก ต้องทำตามระเบียบ ที่คนอื่นทำ”
ประเด็นที่ทางเบสท์รินได้พูดเรื่องหลักฐาน นายชัยยุทธ ชี้แจงว่า เรามีหลักฐานและรวบรวมเป็นระยะ ตั้งแต่กล่าวหาผู้นำเข้า จนกระทั่งอยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ก่อนสั่งคดีกับผู้นำเข้า มีทั้งพยานหลักฐานที่ได้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เป็นข้อมูลรายละเอียด ภาพถ่าย
“พยายามที่จะเร่งรัดในการสรุปสำนวนคดีให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เราไม่สามารถนำหลักฐานออกมาโชว์ทั้งหมด เพื่อรักษารูปคดี และเมื่อเราสรุปสำนวนคดีเสร็จ หากผู้ประกอบการไม่เห็นด้วย เราจำเป็นต้องส่งคดีในระดับศาลเพื่อให้ศาลสั่งคดีต่อไป” นายชัยยุทธ กล่าวและว่า ส่วนเรื่องการตรวจสอบการดำเนินงานกรมศุลกากรยินดีที่จะให้หน่วยงานต่างๆ เข้ามาตรวจสอบการดำเนินงานของเรา เพื่อความโปร่งใส
ด้าน พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่าในเมื่อกรมศุลกากร สรุปแล้ว ก็ต้องเคารพ หากมีการสำแดงเท็จ ก็ต้องไปสอบสวนกระบวนความ เป็นเรื่องกระบวนการสอบ หาใหม่ และให้ไปว่ากันมาอีกที เป็นปัญหาบ้านเรา ถ้าทุกคนบอกว่า กระบวนการมีการเรียกรับผลประโยชน์ ทำแล้วจ่ายเงินให้ใครบ้างต้องหาคนฟ้องและมีหลักฐานจับหรือไม่ ซึ่งหากผิดที่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ก็ปรับแก้ วันนี้เรายังไม่ได้แก้ 100% ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ หลายอย่างพอกมานาน ซับซ้อน"