วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ :"ผมกำลังรอคำตอบให้ดีลนี้ยุติ"
“การไปร่วมกับบริษัท หรือขายหุ้นให้เขา ไม่มีอะไรมากไปกว่า เราอยากอยู่ให้ได้ อยากทำสื่อของเราไปนานๆ อยู่ได้อย่างสง่างาม และถูกต้อง”
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ นายวงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ บรรณาธิการ ผู้ก่อตั้ง a day ชี้แจงกรณีขายหุ้น a day ผ่านทาง Facebook Live แฟนเพจ The Momentum
ช่วงแรกนายวงศ์ทนง ชี้แจงถึงการทำธุรกิจ ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นทำนิตยสาร a day ชวนคนอ่านที่ชอบหนังสือมาระดมทุนcrowdfunding เมื่อปี 2543 หรือ 17 ปีมาแล้ว โดยช่วงต้นสามารถระดมกว่า 1 ล้านบาท จนเป็นนิตยสาร a day ลงขันหุ้นละ 1 พันบาท จากนั้นได้เปิดระดมทุนเพิ่มอีก 2.5 ล้านบาท มีผู้ร่วมลงขัน 459 คน
"เงินก้อนนั้น ทำให้ผมมีวันนี้ ผมจดจำไม่ลืม จดจำไม่ลืมไปตลอดชีวิต ผู้ร่วมลงทุนกับa day เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ทำให้ผมมีวันนี้ ผมไม่ลืม และซาบซึ้งอยู่เสมอมา”
นายวงศ์ทนง กล่าวอีกว่าตลอดระยะเวลาที่ทำa day มีการติดต่อสื่อสารกับผู้ลงขันเสมอ ช่วงเริ่มต้น 2 ปีแรกเรายังไม่มีกำไร โฆษณาไม่มี แต่โชคดียอดขายเราดี ปีที่ 3 ถึงมีกำไร เราทำ นิตยสารแฮมเบอร์เกอร์ พอปีที่ 4 อยากทำนิตยสารข่าวรายสัปดาห์ a day weekly ผมตัดสินใจ คุยกับนายทุนหลายบริษัท สุดท้ายผมตัดสินใจเลือก joint venture กับบริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
“เขาบอกผมตอนนั้น หากเราร่วมกันได้ให้คุณเป็นตัวของตัวเอง จึงเป็นที่มาของการ joint venture กับบริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์โฮลดิ้งส์”
นายวงศ์ทนง กล่าวถึงประเด็นการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ร่วมลงขัน ว่า มีปัญหาทั้งการไม่สามารถติดต่อผู้ร่วมลงขันได้ บางปีการทำธุรกิจมีกำไร บางปีก็ขาดทุน ติดลบ ทำ a day weekly
“ผมเขียนจดหมายไปอธิบายทุกครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อหลายๆ คนได้ ทั้งนี้เรายังแสดงให้เห็นถึงความขยันของความพยายามติดต่อ ประกาศการตามหาผู้ร่วมลงขันเสมอมา” บรรณาธิการ ผู้ก่อตั้ง a day กล่าวถึงปัญหาการติดต่อผู้ร่วมลงขัน และว่า การปันผลมีมากกว่า 1 ครั้งแน่นอน แม้บริษัทฯ ขาดทุน ก็มีการส่งของ (กระเป๋า) อย่างอื่นไปให้ผู้ร่วมลงขัน แม้ไม่มีเงินก็เพื่อให้เขาเห็นว่าเราไม่ละเลย หรือทอดทิ้งเขา เงินที่ท่านไม่ได้ติดต่อมา เราโอนไว้ a day Foundation
นายวงศ์ทนง กล่าวว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ใครอ่านหนังสือเรา เราเป็นสื่อทำสิ่งที่ดีเสมอมา ให้ความรู้ ให้ความคิด ทัศนคติ ให้พลังกับผู้คน สิ่งที่เราทำตลอดมา ส่วนในด้านธุรกิจคนที่ทำสื่อสิ่งพิมพ์ ก็รู้จะทราบว่า เป็นสื่อที่ยากมากที่จะดำรงอยู่ในเชิงธุรกิจได้ พูดง่ายๆ ใครอยากรวยไม่ต้องมาทำหนังสือ เพราะเป็นธุรกิจที่ต้องออกเงินไปก่อนเยอะมากกว่าจะได้กลับมา ต้องอาศัยเงินหมุนมหาศาล
“การไปร่วมกับบริษัท หรือขายหุ้นให้เขา ไม่มีอะไรมากไปกว่า เราอยากอยู่ให้ได้ อยากทำสื่อของเราไปนานๆ ไม่ได้อยากรวย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่คนอาจไม่รู้อีกจำนวนมาก บางปีกำไร บางปีขาดทุน นี่คืออุดมการณ์ เราอยากเป็นคนทำสื่อดีๆ อยู่ได้นานๆ อยู่ได้อย่างสง่างาม และถูกต้อง”
เมื่อถามถึงการที่บริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัทเดย์ โพเอทส์ จำกัด นั้น นายวงศ์ทนง ชี้แจงประเด็นนี้ว่า การที่กลุ่มทุนเข้ามาซื้อหุ้น ได้รับข่าวนี้วันที่ 27- 28 ธันวาคม 2559 ก่อนปีใหม่ และมาเห็นบริษัทกลายเป็นข่าว และชื่อ โพลาริส เป็นชื่อที่ได้ยินครั้งแรกในชีวิต แม้หลายคนตั้งคำถาม ไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร
“ท่านมีสิทธิสงสัย เรื่องธุรกิจผมยอมรับอ่อน ตัวเลข คิดเลขไม่เป็นผมให้จึงให้เพื่อนดูแล นายนิติพัฒน์ สุขสวย แบ่งงานกันทำ เขาเก่งเรื่องตัวเลข เก่งธุรกิจ ผมว่าเขาทำได้ดี มิเช่นนั้นบริษัทผมแย่ท่ามกลางที่ธุรกิจพากันปิดตัว ผมมีหุ้นบริษัทเดย์ โพเอทส์ 1 หุ้น รู้จากสำนักข่าวอิศรา ผมไม่รู้ดีลนี้มาก่อนจนมารู้พร้อมๆ กับทุกคน และผมโทรถึงผู้ถือหุ้นใหญ่ เขาบอกไม่มีอะไรเป็นเรื่องทางธุรกิจ เดี๋ยวเราก็ได้เงินมาทำโน้นทำนี่ พอทำดีลนี้เสร็จเราก็จะได้เงินมาทำ มีสภาพคล่องมากขึ้น คนทำงานก็ยังเหมือนดี เขาคิดว่าเป็นเรื่องดี ผมฟังทีแรกก็โอเค
สุดท้ายผมรู้สึกว่า ไม่ใช่แล้วจากที่คุยกับที่แรก มันไม่น่าเป็นวิธีทางที่เราร่วมด้วย บริษัทผมเป็นบริษัททำสื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อบางตัว เป็นสื่อเชิงข่าว สำนักข่าว หากเราเป็นบริษัททำสื่อที่ต้องอาศัยทำสื่อแล้วไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่สังคมตั้งคำถาม ไม่น่าจะดี”
นายวงศ์ทนง กล่าวอีกว่า หลังจากชี้แจงทางทวิตเตอร์แสดงจุดยืนไป ข้อดีด้านหนึ่งก็ทำให้หลายคนจากที่เข้าใจผิด ทราบว่า “ผมไม่ได้อยากได้ดีลนี้ ซึ่งเป็นเรื่องจริง”
สำหรับความคืบหน้า นายวงศ์ทนง กล่าวว่า ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้คุยกับผู้ถือหุ้นใหญ่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ยืนยัน “ผม และบริษัทเดย์ โพเอทส์ จำกัด ไม่ต้องการดีลนี้ ขอให้ล้มดีลนี้ ซึ่งทางผู้ถือหุ้นใหญ่ รับฟังด้วยดี เห็นอกเห็นใจเราเข้าใจคนทำงานอึดอัด จะรับไว้พิจารณา"
“ถ้าดีลนี้เกิดขึ้น ผมลาออก ย้ำลาออกแน่นอน มันเป็นจุดยืนของผม ถ้าใครติดตามข่าวนี้ เห็นข้อมูลที่สำนักข่าวอิศราทยอยเปิดเผยออกมา คงรู้สึกเหมือนผมว่า ไม่สบายใจ เพราะมีหลายจุดอธิบายยาก ลำบาก ในเรื่องความถูกต้อง ผมยืนยันว่า เราเป็นบริษัททำสื่อ ถ้าเราเกี่ยวข้องกับเรื่องตอบคำถามสังคมไม่ได้ แล้วต่อไปให้ใครจะเชื่อถือเรา ถ้ามีดีลนี้ ผมไม่สามารถอยู่ได้จริง ๆ ความน่าเชื่อถือสำคัญที่สุดสำหรับบริษัทสื่อ”
นายวงศ์ทนง กล่าวว่า ที่ผ่านมาโดนด่าเยอะมาก ด่วนตัดสินเรา โดยเฉพาะข่าวจากเว็บไซด์ผู้จัดการที่คนแชร์กันเยอะมาก พูดเรื่องอุดมการณ์ และจริยธรรม “ผมว่าตลก เป็นข่าวตัดแต่งใส่ทัศนะความเห็นตัวเองลงไป”
“ผมยืนยันผมไม่รู้เรื่องการขายหุ้นให้บริษัทโพลาริส ผมมีหุ้นแค่ 1 หุ้น ไม่รู้เรื่องนี้ เมื่อรู้ผมไม่นิ่งนอนใจ ผมรู้สึกไม่สบายใจ ยืนยันกับผู้ถือหุ้นใหญ่ ผมขอไม่เอาดีลนี้ กำลังรอคำตอบดีลนี้จะยุติหรือไม่ ซึ่งหากดีลนี้ไม่ยุติ ผมจะลาออกจากบริษัทเดย์ โพเอทส์ ผมดีใจที่ได้แสดงให้น้องๆ พนักงานเห็นว่า หนักแน่นในจุดยืน”
ช่วงท้าย มีการตอบคำถาม ถึงการนำหุ้นของผู้ร่วมลงขัน ไปใส่ไว้ในมูลนิธิ นายวงศ์ทนง กล่าวว่า เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร และนำเงินไปทำงานเพื่อสังคม
นายวงศ์ทนง กล่าวย้ำเรื่องการขายหุ้นที่สังคมไม่เชื่อนั้น ยืนยันว่า ไม่รู้มาก่อน เชื่อว่า นายสุรพงษ์ (ผู้ถือหุ้นใหญ่)ก็ไม่ได้มีเจตนาร้าย
“ผมมีอยู่หุ้นเดียว ไม่มีพาวเวอร์ล้มดีลนี้ได้ ผมไม่สบายใจ คนทำงานไม่สบายใจ ผมไม่สามารถตอบคำถามน้องๆ ได้ ว่า ทำไมต้องเลือกดีลนี้ จึงขอร้องให้เห็นใจคนทำงานที่อยากทำอาชีพนี้ไปนาน ๆ ไม่มีดีลนี้ได้ไหม คิดว่าเป็นวิธีตรงไปตรงมา ซื่อ ๆ ซึ่งท่าทีของนายสุรพงษ์ (ผู้ถือหุ้นใหญ่) ดีมาก เข้าใจเรา รับฟัง ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา นายสุรพงษ์ดูแลเราดีใช้ได้ เพราะไม่ใช่บริษัทจะทำเงินได้ทุกปี บางปีหนักหนามาก นายสุรพงษ์ช่วยประคับประคองคนทำงานโดยไม่ให้ลำบากเกินไป แต่ว่าสำหรับเรื่องนี้ เป็นเรื่องของหลักการ ของจุดยืน ซึ่งอาจเห็นต่างกัน แต่เชื่อลึก ๆ ว่า คุยกันได้”
สุดท้าย นายวงศ์ทนง ระบุทิ้งท้ายด้วยว่า “ผมกับคุณนิติพัฒน์ (สุขสวย) มีความเห็นตรงกันว่า เราอาจตัดสินใจซื้อบริษัทของเรา (เดย์ โพเอทส์) กลับคืนมาทำกันเอง เล็ก ๆ อย่างนี้ และจัดระบบโครงสร้างของผู้ถือหุ้นใหม่ให้ชัดเจน ที่อยากทำคือ 30/30/30/10 ผมกับคุณนิติพัฒน์ ถือคนละ 30% ผู้ถือหุ้นนายทุนรายใหม่อีก 30% และคนที่ร่วมลงขันทั้งหมด 495 คน ถือ 10% มันจะชัดเจน และโปร่งใสมาก นี่เป็นสิ่งที่คิดไว้ และจะทำให้มันเกิดขึ้นให้ได้ หากดีลระหว่าง POLAR กับบริษัท เดย์ โพเอทส์ฯ เกิดขึ้น”
อ่านประกอบ :
พลิกปูม POLAR ตัวละครเอกซื้อหุ้น a-day 308 ล.-ก่อน‘วงศ์ทนง’หาทางล้มดีล
ขมวดปม! โพลาริส ซื้อหุ้น 'a-day' 308 ล. ปริศนาส่วนต่างกำไร-นอมินีโผล่?
แกะสัมพันธ์เครือข่ายธุรกิจ'โพลาริสฯ-เจ้าของ 'a-day' กก.-ผู้ถือหุ้นโยงใยยุบยับ!
แกะพอร์ตธุรกิจ 19 บริษัท ‘เสี่ยป๊อป-สุรพงษ์’ จิ๊กซอว์ตัวจริง ซื้อ a day 308 ล.?
ลั่นล้มดีลขายหุ้นa-day! 'วงศ์ทนง' ประกาศจุดยืนไม่เห็นด้วย -ชม 'อิศรา' เจาะข่าว
เจาะถุงเงิน'โพลาริส'ขาดทุนล่าสุด726ล.แต่ซื้อหุ้น a day-Momentum 308ล.!
เปิดหมดคำชี้แจง 'โพลาริส' ไขปริศนาซื้อหุ้นอะเดย์สูงกว่าราคาประเมิน 261ล.!
แกะรอย บไทยฟู้ดฯ โผล่ถือหุ้น a-day 2 เดือนเศษ ก่อนขายต่อฟันกำไร 124ล.
ที่แท้!เจ้าของใหม่ร้านA&W ผู้ถือหุ้น'a-day' 2 เดือนเศษ ก่อนขายต่อฟันกำไร 124 ล.
เผยโฉม 3 สุภาพสตรี กก.ไทยฟู้ดฯ ถือหุ้น'a-day' 2เดือนเศษ ขายต่อฟันกำไร 124 ล.
ใช้ที่อยู่เดียวบ.น้าเน็ก! ตามไปดู 'ไทยฟู้ดฯ' ผู้ขายหุ้น'a-day' ฟันกำไร 124 ล.
ยอมรับเจ้าของ a-day ถือหุ้นในบ.ด้วย! 'โพลาริส' แจง ตลท. เพิ่ม- ยันไม่ปลด'วงศ์ทนง'
ตึกแถว 2 ชั้น!เปิดที่อยู่หุ้นใหญ่ ‘บ.ไทยฟู้ดฯ’ ผู้ขายหุ้น'a-day' ฟันกำไร 124 ล.
เป็นแม่บ้าน-อยู่ตึกแถว!เปิดตัวกก.รายสอง 'ไทยฟู้ดฯ' ขายหุ้น'a-day' ฟันกำไร 124 ล.
ชื่อโผล่สัมมนา!หลักฐานมัดหุ้นใหญ่'ไทยฟู้ดฯ'คนบ.เครือ'ธนวรินทร์'เจ้าของ'a-day'
เปิดตัว บ.เจ้าของ KPN ให้ 'โพลาริส' กู้100ล. ซื้อหุ้นa-day!ผู้ถือหุ้นอยู่บริติชเวอร์จิ้น
ข้อมูลหุ้นใหญ่อันดับ2'ไทยฟู้ดฯ' ขายหุ้น a-day ฟันกำไร 124ล.-เสียชีวิตแล้วปี 51
ขมวดปม! โพลาริส ซื้อหุ้น 'a-day' 308 ล. ปริศนาส่วนต่างกำไร-นอมินีโผล่?
แกะสัมพันธ์เครือข่ายธุรกิจ'โพลาริสฯ-เจ้าของ 'a-day' กก.-ผู้ถือหุ้นโยงใยยุบยับ!
แกะพอร์ตธุรกิจ 19 บริษัท ‘เสี่ยป๊อป-สุรพงษ์’ จิ๊กซอว์ตัวจริง ซื้อ a day 308 ล.?