พ.ต.อ. วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร “ผมไม่ตื่นเต้นการโกงสอบนายสิบเลย เพราะนายพลยังโกง”
การจะปฏิรูปตำรวจ อันดันแรก จะต้องก้าวให้พ้นจากกับดักหรือคำเท็จ ในเรื่องของความขาดแคลน คนน้อย เงินเดือนต่ำ และอำนาจที่จำกัดก่อน
เมื่อเร็วๆ นี้ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) จัดเวทีเสวนาวิชาการ "ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร " กรณีศึกษา ขนาดตำแหน่งนายสิบยังโกง ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ
ในเวทีตอนหนึ่ง พ.ต.อ. วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตผู้กำกับสถานีหลายสถานี และรองผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชัยนาท กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจ กระเทาะเปลือกสะท้อนให้เห็นปัญหาตำรวจได้อย่างชัดเจน
พ.ต.อ. วิรุตม์ มองว่า การที่สังคมมีคำถาม "ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร " ทำให้ผู้รับผิดชอบทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือว่าตำรวจ ต้องทบทวนว่า เหตุใดประชาชน ถึงต้องตั้งคำถามนี้ ซึ่งสะท้อนสิ่งที่มองไปยังตำรวจเหมือนที่ต่างประเทศมองเรื่องอันดับคอรัปชั่นของประเทศไทย เราต้องยอมรับว่า องค์กรตำรวจปัจจุบัน ถ้ามองในแง่ประชาชนอยู่ในสภาพที่เลวร้ายมาก
ทั้งเลวร้ายและชั่วร้าย ต้องใช้คำนี้เลย
"เมื่อก่อนตำรวจไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดนี้ เพราะว่ายังมีการตรวจสอบ ถ่วงดุลอยู่หลายฝ่าย แต่เมื่อตำรวจได้แยกออกจากกระทรวงมหาดไทย ก็ไม่มีหน่วยงานหรือองค์กรใดตรวจสอบควบคุมอีกครั้งหนึ่งเลย ตำรวจแห่งชาติจึงกลายเป็นองค์กรเป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี จะไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือประมวลเรื่อง เสนอเรื่องอะไรได้เลย ซึ่งกลายเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกับนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี หากคุยกับนายกรัฐมนตรีได้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอันจบ ไม่ว่าเรื่องบวก เรื่องลบ หรืออะไรทั้งสิ้น นี่คือปัญหา"
พ.ต.อ. วิรุตม์ ชี้ว่า ปัจจุบัน “ตำรวจไทยเดินสวนทางกับกระแสโลก” ตำรวจทั่วโลกไม่ได้เป็นแบบไทย เพราะตำรวจเป็นงานพลเรือน แต่ตำรวจไทยกลับมีฐานะเป็นเหล่าทัพ มีการประชุมเหล่าทัพ เรียกตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของเหล่าทัพ ตำรวจไปเรียนเตรียมทหาร และไปรับความคิดแบบทหารมา ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับงานรักษากฎหมาย งานกระบวนการยุติธรรม
"ตำรวจในประเทศไทยมีอำนาจมาก 1 ใน 10 ของโลก คือมีทั้งปืน มีทั้งสำนวนสอบสวน จะดึงเข้าดึงออกตอนไหนก็ได้ ทำได้หมด ปรากฏเป็นข่าวขึ้นเรื่อยๆ ไม่เป็นข่าวก็อีกมาก ตำรวจพัฒนาไปสู่ความเป็นศักดินามากขึ้น นั่นคือยศ ซึ่งไม่ได้ดีขึ้นแต่เกิดปรากฏการณ์แย่งกินแย่งอยู่
นอกจากนั้นการรวมศูนย์อำนาจ การสอบสวนประเทศไทยอยู่ที่ตำรวจทั้งสิ้น หน่วยอื่นไม่มีอำนาจสอบสวนเลย ยกเว้นเล็กๆน้อยๆ ที่เอาออกไป ตำรวจจะสาวถึงใครก็ขึ้นอยู่กับเขา นี่คือปัญหาอำนาจสอบสวนยังรวมศูนย์ ขณะที่ทุกพระราชบัญญัติต้องบังคับใช้กฎหมาย ต้องอาศัยตำรวจหมดเลย งานสอบสวนอยู่ในอำนาจพนักงานสอบสวน ซึ่งมากจากการซื้อขายตำแหน่ง จริงบ้างเท็จบ้าง จริง 90%"
ปัญหาเหล่านี้ พ.ต.อ. วิรุตม์ บอกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่เคยยอมรับว่า มีการซื้อขายตำแหน่งเพื่อเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนเพื่อคุมพนักงานสอบสวน ถามหน่อยว่า ถ้างานสอบสวนไม่ได้อยู่กับตำรวจเขาจะไปเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนหรือไม่
"ตำรวจ มาจากคำว่า ตรวจ ข้าราชการกรมป่าไม้ ประมง กรมเจ้าท่า กระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ ก็เป็นตำรวจทั้งสิ้น คือมีหน้าที่ตรวจตรารักษากฎหมาย และระหว่างตำรวจพลเรือนที่ไม่มียศกับมีตำรวจที่มียศหากมอง ในแง่มุมของจิตใจนั้น ตำรวจพลเรือนเข้มแข็งกว่า ศาลเข้มแข็งกว่าเพราะมีอิสระ ไม่มียศ ไม่มีใครครอบงำ เราคิดว่า ความเข้มแข็งทางกายภาพ คือการมีระเบียบวินัยนั้น ผมว่า ไม่จริง ผมว่าพนักงานบริษัทมีระเบียบวินัยมากกว่าตำรวจ ทหาร แค่เวลาเข้างาน ออกงาน ต่างกับตำรวจ ไม่อยู่โรงพัก 20-30 วันยังอยู่ได้ บางพื้นที่ไม่ได้ทำอะไร ดังนั้นการปฏิรูปตำรวจ ต้องก้าวพ้นปัญหาความขาดแคลน นายสิบเงินเดือนเริ่มต้น 11,000 บาท สำหรับต่างจังหวัดถือว่า มาก ฐานะดีเทียบกับคนในพื้นที่ แต่บ้านเราเรารับคนเหนือไปรับราชการ จังหวัดอื่น พื้นที่อื่นทำให้เขาสิ้นเปลือง ฉะนั้น การปฏิรูปเชิงโครงสร้าง อย่าไปหวังกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขาไม่ปฏิรูป เป็นปฎิลวงหมดเลย"
อดีตผู้กำกับสถานีหลายสถานี ยังเปิดเผยให้รู้อีกว่า ตำรวจปัจจุบันไม่รับคำร้องทุกข์จากชาวบ้าน ถือว่า รุนแรงมาก เพราะสถิติจะขึ้น “สอบปากคำ ทำเหมือนจริง เอาไปทิ้งภายหลัง ” ให้ประชาชนที่มาแจ้งความนั้นอุ่นใจ ขมีขมัน ทำเต็มที่แล้ว นี่คือการไม่รักษากฎหมาย ไม่ปฏิบัติหน้าที่ ขนาดปฏิวัติมา 2 ปี บ่อนการพนันยังมีทั่วไป บ่อนการพนันตำรวจรับเงินทั้งสิ้นไม่มีที่ไหนไม่รับ ไม่รับเขาไม่เล่น ไม่เปิด แม้แต่งานศพ ฉะนั้นนายกฯ ต้องเข้าใจ ปัญหาตำรวจเกิดจากพฤติกรรม และองค์กรที่เอื้อให้เขาทุจริต รวมถึงการขาดการตรวจสอบอย่างสิ้นเชิง
กรณีครูจอมทรัพย์ไม่มีหลักฐานรถสองคันชนกัน แล้วกล่าวหาได้อย่างไร พ.ต.อ. วิรุตม์ ตั้งข้อสังเกต และเห็นว่า ปัญหาตำรวจ ในวันนี้ คือ อำนาจสอบวนหรือการสอบสวนอยู่ในมือ คนกว่า 2 แสนคน ถืออาวุธ การรับคนเข้ามารับราชการตำรวจก็ไม่ได้เข้มข้น แค่ไม่มีประวัติถูกจับก็พอแล้ว ส่วนจิตใจจะเป็นผู้ร้ายไม่ได้ตรวจสอบ
"คนที่มีจิตใจร้ายมักจะมาเป็นตำรวจ เพราะได้พกปืน ผมไม่ได้ตื่นเต้นกับการโกงเพื่อจะมาเป็นนายสิบเลย เพราะนายพลก็ยังโกง”
ช่วงท้าย พ.ต.อ. วิรุตม์ มองถึงการปฏิรูปตำรวจ ขณะนี้มีแนวทางที่ต้องเดินอยู่ตามมติ สปช. ในการโอนหน่วยตำรวจ 9 หน่วย ออกไปจากตำรวจแห่งชาติ คือ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจคุ้มครองผู้บริโภค ตำรวจทางหลวง ตำรวจจราจร ตำรวจน้ำ ตำรวจรถไฟ ตำรวจป่าไม้ เหล่านี้ หากโอนหน่วยตำรวจส่วนนี้ออกไป งานตำรวจจะได้รับการพัฒนาขึ้นทันที จากข้าราชการผู้มียศ ก็จะไปเป็นตำรวจผู้ไม่มียศ ตำรวจปัจจุบันอยู่ในระบบยศแบบเดียวกับทหาร และยศ ก็ไม่สอดคล้องกับการทำงานในฐานะกระบวนการยุติธรรม
ส่วนเรื่องของการสอบสวนบางเรื่องก็ทำได้ง่าย บางเรื่องต้องผ่านเป็นรูปแบบกฎหมาย ดังนั้นการจะปฏิรูปตำรวจ อันดับแรก จะต้องก้าวให้พ้นจากกับดักหรือคำเท็จ ในเรื่องของ"ความขาดแคลน คนน้อย เงินเดือนต่ำ และอำนาจที่จำกัด" ก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ตำรวจไทยเดินสวนกระแสโลก อดีตผกก. แนะปฏิรูป ต้องรื้อที่โครงสร้าง
ที่มาภาพ:https://www.facebook.com/act.anticorruptionThailand/?fref=ts