ชั่วชีวิตใช้ไม่หมด! ‘ปู’ขอศาลคุ้มครองชั่วคราวปมอายัดทรัพย์คดีข้าว 3.5 หมื่นล.
ศาลปกครองกลางนัดไต่สวนครั้งแรก ‘ยิ่งลักษณ์’ ฟ้องกลับ ‘บิ๊กตู่-พวก’ ขอให้เพิกถอนคำสั่งชดใช้หนี้คดีจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน ขอคุ้มครองชั่วคราว ชี้ไม่เป็นธรรม-ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้เกิดความเดือดร้อนแสนสาหัส ถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว ใช้ชั่วชีวิตก็ไม่หมด ตั้ง กก.มาสอบเอง-สรุปเอง ไม่ผ่านกระบวนการศาล
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ศาลปกครองกลางนัดไต่สวน ในคดีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ฟ้องคดี กับ นายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 4 คน เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-4 ในคดีพิพาทเกี่ยวกับหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ขอรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีถูกคณะกรรมการรับผิดทางแพ่ง กระทรวงการคลัง เรียกค่าเสียหายกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท ที่เกิดขึ้นจากความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว
กรณีนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ฟ้องว่า นายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 4 คน มีคำสั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีอ้างว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ได้ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการตามอำนาจหน้าที่ เป็นเหตุให้กระทรวงการคลังได้รับความเสียหาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ เห็นว่า ไม่เป็นธรรม เป็นเหตุให้ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย
ล่าสุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวภายหลังเข้าไต่สวนสรุปได้ว่า ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว อย่าเพิ่งให้มีการอายัดทรัพย์สิน เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และถ้ามีการอายัดจะสร้างความเดือดร้อนอย่างมาก ประกอบกับชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมด้วย
“ถ้ามีการอายัดทรัพย์สิน จะเกิดความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส เป็นหนี้ก้อนโต ใช้ชั่วชีวิตก็ไม่หมด ถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่รู้จะบรรยายความเดือดร้อนยังไง บรรยายไม่ถูกจริง ๆ” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
ส่วนทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คำสั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมดังกล่าว เห็นว่าเป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย และที่ผ่านมาไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนใดต้องรับผิดชอบตามกฏหมายมาก่อน รวมถึงคำสั่งนี้แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบเอง สรุปผลเอง โดยไม่ผ่านกระบวนการในชั้นศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการรับผิดทางแพ่งมีมติเห็นว่า ประเด็นความเสียหายควรคิดคำนวณตั้งแต่โครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2555/2556 และปี 2556/2557 ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาภายหลังจากที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ทำหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เกี่ยวกับความเสียหายจากการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว ประกอบกับในช่วงเวลาดังกล่าวมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เกี่ยวกับนโยบายรับจำนำข้าวด้วย
(อ่านประกอบ : โชว์ชัดค่าเสียหายจำนำข้าว 1.7 แสนล. 'ปู'จ่ายแค่ 20%-วิจารณ์ขรมคำนวณผิด?, ชาติเสียหาย5แสนล.! สตง.ชง บิ๊กตู่ ค้าน คลัง คิดค่าเสียหายจำนำข้าว 'ปู' แค่ 20 %,โชว์หนังสือ'ปู'ยื่นโนติสปลัดคลัง ถอนคำสั่งชดใช้คดีข้าว3.5หมื่นล.ภายใน7วัน, ‘ปู’ร้องปลัดคลังเพิกถอนค่าเสียหายจำนำข้าว อ้าง‘บิ๊กตู่’สั่งสอบไม่สนความยุติธรรม)
จึงถือได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ควรได้รับรู้รับทราบความเสียหายนับตั้งแต่เวลาดังกล่าวเป็นต้นมา ซึ่งความเสียหายดังกล่าวคิดเป็นเงินจำนวน 178,586,365,141.17 บาท พฤติการณ์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือเป็นการจงใจกระทำละเมิด จึงให้รับผิดในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดในอัตราร้อยละ 20 ของความเสียหายดังกล่าว คิดเป็นจำนวน 35,717,273,028.23 บาท ในส่วนของความเสียหายที่เหลือให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดเพื่อหาผู้รับผิดต่อไป
สำหรับความเสียหายที่เหลืออีก 80% ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ไต่สวนข้อเท็จจริงอยู่ และเรียกเก็บข้อมูลผู้เกี่ยวข้องในโครงการดังกล่าวตั้งแต่ข้าราชการระดับสูง ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ จากทุกจังหวัดแล้ว
อ่านประกอบ :
เลยเส้นตายเหลือ 45 จว.ยังไม่ให้! มท. บี้ผู้ว่าฯ ส่งชื่อคนพันจำนำข้าวด่วน
เอกสารไม่ครบ! มท.สั่งผู้ว่าฯทุก จว. ส่งชื่อคนพันคดีข้าวใหม่-15 ธ.ค.ต้องเสร็จ