5 สัญญาณชี้ Fintech กำลังมา ช้าแต่ชัวร์
ในปัจจุบัน Fintech กำลังเป็นกระแสอย่างมากในต่างประเทศและในประเทศไทยก็มีการกล่าวถึงในช่วงปีที่ผ่านมา
Fintech เป็นคำผสมระหว่าง Finance และ Technology คือ นวัตกรรมทางการเงิน โดยปัจจุบัน Fintech มีการให้บริการหลัก ๆ ที่ผู้คนรู้จักได้แก่ Internet Banking, Digital Wallet เป็นต้น นอกจากนี้ Fintech ยังครอบคลุมถึงบริการอื่น ๆ อีกเช่น trading, crowd funding, financial research เป็นต้น โดย 5 สัญญาณที่บ่งชี้ว่า Fintech ยังไม่พร้อมโตในประเทศไทยในช่วงนี้มีดังต่อไปนี้
1. การใช้ Smart Phone สูงขึ้นแต่ใช้สำหรับ Social Media เท่านั้น
ผลการวิจัยจาก Nielsen แสดงให้เห็นว่าคนไทยใช้ smartphone สำหรับการติดต่อสื่อสารและเอนเตอร์เทนเม้นท์เป็นหลัก โดย application ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่คนไทยได้แก่ Line และ Facebook ถึงแม้การวิจัยเผยว่า 5 ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้ใช้ smartphone ในประเทศไทยมีจำนวนมากขึ้นกว่า 37% มันยังไม่ใช่สัญญาณหลักที่ชี้ว่าประเทศไทยนั้นหันมาให้ความสนใจในบริการทางการเงินมากขึ้น
2. พฤติกรรมของผู้บริโภคยังคงนิยมใช้เงินสดในการใช้จ่าย
ในอดีตคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการซื้อสินค้าของคนไทยนั้นนิยมใช้เงินสดเป็นตัวกลางในการใช้จ่าย ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาคนไทยดูเหมือนจะเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาใช้บัตรเดบิตและบัตรเครดิตมากขึ้น ผลการวิจัยจาก demystifyasia พบว่ามีคนไทยเพียง 8% เท่านั้นที่ใช้เดบิตในการชำระค่าใช้จ่ายและมีคนไทยเพียง 4% เท่านั้นที่ใช้บัตรเครดิตในการชำระค่าสินค้า เมื่อเทียบกับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี คนญี่ปุ่นมีการใช้บัตรเดรดิตในการชำระค่าสินค้ากว่า 50% ของประชากรทั้งประเทศ สัญญาณนี้ชี้ให้เห็นว่าคนไทยนั้นยังไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายเป็นแบบไม่มีเงินตราเป็นสื่อกลางได้ (Cashless)
3. ความปลอดภัยของระบบการเงิน
หลายภาคส่วนต้องร่วมมือกันในการให้ความรู้เกี่ยวกับระบบการเงินและการรักษาความปลอดภัยของเทคโนโลยีในประเทศไทยว่ามันมีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด เนื่องจากนวัตกรรมทางการเงินประเภท E-Banking, E-Wallet ยังคงเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทย รวมถึงปัญหาต่างๆมากมายที่มีให้พบเห็นไม่เว้นแต่ละวัน ดังนั้นความไว้ใจในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเทคโนโลยียังได้รับความเชื่อใจที่น้อยกว่าการเข้าไปธนาคารและได้รับการบริการจากพนักงาน
4. ประเทศไทย 4.0 ของจริงหรือหลอกลวง
หลาย ๆ กระแสพูดถึงการผลักดันประเทศไทยให้เข้าเป็นประเทศไทยยุค 4.0 จากทางรัฐบาล นั่นเป็นเพียงการปลุกกระแสให้ระบบสื่อกสารและคมนาคมในประเทศไทยลุกเหิม ลงทุนแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อผลักดันให้การสื่อสารในประเทศไทยนั้นเทียบมาตราฐานสากลด้วยระบบ 4G ภายใต้ความถี่ 1800 และ 900 MHz ซึ่งการประมูลครั้งนี้เป็นการตั้งมาตราฐานของประเทศไทยในอีกสิบปีข้างหน้า ถึงแม้ว่ากระแสประเทศไทยยุค 4.0 จะเป็นที่จับตามองอย่างยิ่ง แต่ต้องมาดูว่าความเร็วในการบริหารงานและประสิทธิภาพของชิ้นงานจะออกมาในรูปแบบใด ที่สำคัญโครงสร้างการสื่อสารและคมนาคมที่สร้างขึ้นในครั้งนี้จะสนับสนุนและส่งเสริม Fintech ในประเทศไทยได้มากน้อยเพียงใด
5. ขาดผู้เชี่ยวชาญในตลาด Fintech
Fintech ได้รับการบ่มเพาะจากธุรกิจและนักพัฒนาในแถบ Silicon Valley ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีความเข้าใจในเทคโนโลยีนี้ อย่างไรก็ตามประเทศไทยพึ่งเริ่มต้นเข้าสู่ธุรกิจนี้จะต้องมีการดึงผู้เชี่ยวชาญจากนานาประเทศเข้ามาช่วยกันพัฒนาระบบ ผู้เขียนเชื่อว่าประเทศไทยซึ่งมีคนที่มีความสามารถมากมายจะช่วยให้ธุรกิจ Fintech สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยได้อย่างดี แต่ต้องมาดูกันอีกทีว่าการดึงผู้มีความสามารถเข้ามาในธุรกิจจะใช้เวลามากน้อยเพียงใด
นี่คงเป็น 5 สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าประเทศไทยยังไม่พร้อมกับ Fintech แต่อย่างไรก็ตามเราในฐานะผู้บริโภคจะต้องจับตาดูเนื่องจากในปี 2017 นี้มีหลาย ๆ บริษัทที่กำลังจะเข้ามาบุกตลาด Fintech อย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็น KBank, SCB, Line เป็นต้น ผู้เขียนเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อตลาด Fintech ได้รับการพัฒนาระบบให้มีความสมบูรณ์เพื่อรองรับการใช้งานจากผู้บริโภคแล้ว คนไทยโดยพื้นฐานเป็นคนง่าย ๆ และเรียนรู้เร็ว จะเปลี่ยนพฤติกรรมและหันมาสนใจบริการนี้กันมากขึ้น
กันต์พจน์ สุริวงศ์
บริษัท iPrice แหล่งช้อปปิ้งสินค้าออนไลน์แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้