‘กรุงไทย’ขู่‘เอคิวฯ’ถ้าไม่วางเงินประกันพันล.คดีแพ่ง ชง ป.ป.ช.-สตง.-ขู่บังคับคดี

เขียนวันที่

วันอาทิตย์ ที่ 22 มกราคม 2560 เวลา 11:24 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

Tags

บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) | คดีกรุงไทยปล่อยกู้

แบงค์กรุงไทย ขู่ ‘เครือเอคิวฯ’ ให้ปรับโครงสร้างหนี้-ประนีประนอม วางเงินประกันพันล้าน ปมถูกฟ้องแพ่ง 2 หมื่นล้าน สืบเนื่องคำพิพากษาศาลฎีกาฯ ให้ชดใช้คดีปล่อยกู้สินเชื่อโดยทุจริตหมื่นล้าน ถ้าไม่ทำส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.-สตง. ขู่บังคับคดีด้วย

PIC krungthaii 22 1 60 1

จากกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก ร.ท.สุชาย เชาว์วิลัย อดีตกรรมการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมบรรดาผู้บริหาร คณะกรรมการสินเชื่อ เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย และบริษัทในเครือกฤษดามหานคร (ปัจจุบันคือบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน)) กรณีปล่อยสินเชื่อธนาคารกรุงไทยโดยทุจริต มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท และศาลมีคำสั่งให้ชดใช้เงินดังกล่าวนั้น

ต่อมาช่วงเดือน ต.ค. 2559 นายภพ เพชรสุวรรณ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริษัท เอคิวฯ แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงกรณีนี้โดยมีการระบุตอนหนึ่งว่า นอกเหนือจากคำพิพากษาในคดีอาญา ที่ต้องชดใช้เงินดังกล่าวแล้ว ธนาคารกรุงไทย ได้ดำเนินการฟ้องร้องทางแพ่ง บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (บริษัทลูกของบริษัท เอคิวฯ) วงเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาทด้วย

(อ่านประกอบ : แค่ขายที่ดินปัญหาก็จบ! ‘เอคิว’เร่งติดต่อนักลงทุนซื้อ-ใช้หนี้คดีกรุงไทยหมื่นล.)

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า บริษัท เอคิวฯ แจ้ง ตลท. ชี้แจงสาเหตุของการไม่แสดงความเห็นของผู้สอบบัญชีสำหรับไตรมาส 2/2559 มีการะบุตอนหนึ่งถึงกรณีการชดใช้เงินตามคำพิพากษาศาลฎีกาฯ และการฟ้องทางแพ่งจากธนาคารกรุงไทย 2 หมื่นล้านบาทด้วย

บริษัท เอคิวฯ ระบุว่า การชดใช้เงินนั้นจะใช้ที่ดินจากบริษัท เคแอนด์วีเอสอาร์เอส การ์เด้นโฮม จำกัด (บริษัทลูกของบริษัท โกลเด้นฯ) เนื้อที่ประมาณ 4,323 ไร่ มีมูลค่าตามหลักประกันประมาณ 12,749 ล้านบาท แต่คาดว่าจะขายที่ดินประมาณ 8,924 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัท เอคิวฯ ทำสัญญาจัดการทรัพย์สินและแบ่งผลประโยชน์กับบริษัท โกลเด้นฯ เพื่อตกลงประนอมหนี้ และบริหารจัดการขายที่ดินที่เป็นหลักประกันแต่เพียงผู้เดียวแบบไม่ยกเลิกเพิกถอนในระยะเวลา 3 ปี และชำระหนี้บางส่วนของบริษัท เคแอนด์วีเอสอาร์เอสฯ โดยแบ่งกำไรหลังหักลบกลบหนี้ บริษัท โกลเด้นฯได้ 70% และบริษัท เอคิวฯได้ 30% และเมื่อชำระหนี้ธนาคารกรุงไทยเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะไม่เรียกร้องหนี้ที่มีระหว่างกันหรือใช้สิทธิไล่เบี้ยต่อกันอีกต่อไป อย่างไรก็ดีปัจจุบัน บริษัท เอคิวฯ และบริษัท โกลเด้นฯ ไม่ได้รับสัญญายืนยันจากบริษัท เคแอนด์วีเอสอาร์เอสฯ ว่า จะไม่ใช้สิทธิไล่เบี้ยจากการดำเนินการขายที่ดินดังกล่าวเพื่อชำระค่าเสียหาย เนื่องจากบริษัท เคแอนด์วีเอสอาร์เอสฯ อยู่ระหว่างถูกฟ้องคดีล้มละลาย

ขณะเดียวกันในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เอคิวฯ เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ประชุมรับทราบเรื่องที่บริษัท เอคิวฯ ยื่นหนังสือของแสดงความจำนงในการปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารกรุงไทย โดยยินยอมที่จะนำที่ดินที่ได้ก่อให้เกิดรายได้ในขณะนี้ไปวางเป็นหลักประกันเพิ่มเติมมูลค่า 1 พันล้านบาท และขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในระยะเวลา 1 ปี เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการขายที่ดินที่เป็นหลักประกันเพื่อไปชำระหนี้ให้กับธนาคารกรุงไทยได้ และหากมีการซื้อขายที่ดินดังกล่าว และได้เงินมาให้หักชำระเงินต้นก่อน ซึ่งปัจจุบันยังไม่ทราบผลการพิจารณาของธนาคารดังกล่าว

เนื่องจากมูลค่าของค่าเสียหายที่บริษัทต้องชดใช้จริง ขึ้นอยู่กับความสามารถในการขายที่ดินหลักประกันดังกล่าวให้ได้ตามราคาสุทธิที่บริษัท เอคิวฯ ประมาณการไว้ และบริษัท เคแอนด์วีเอสอาร์เอสฯ จะไม่ใช้สิทธิไล่เบี้ยต่อบริษัท เอคิวฯ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ชี้ให้เห็นความไม่แน่นอนอย่างเป็นสาระสำคัญ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดความสงสัยอย่างมีสาระสำคัญ

โดยเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2559 ที่ประชุมกรรมการบริษัท เอคิวฯ รับทราบว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2559 บริษัท เอคิวฯ ได้เข้าพบและรับทราบความจำนองของธนาคารกรุงไทย ที่มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในการปรับโครงสร้างหนี้ โดยต้องการให้บริษัท โกลเด้นฯ ทำสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีแพ่งที่ยอดเต็มจำนวน (ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท) และวางเงิน 1 พันล้านบาทไปก่อน แล้วจึงให้บริษัท เอคิวฯ ร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความในคดีแพ่งเพื่อจัดการขายที่ดินหลักประกัน

อย่างไรก็ดี หากบริษัท โกลเด้นฯ ไม่ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีแพ่งเต็มจำนวนภายในเดือน พ.ย. 2559 ธนาคารจะดำเนินการส่งเรื่องนี้ให้กับสำนักอัยการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และอาจบังคับคดีกับทรัพย์สินของบริษัท เคอิวฯ ด้วย ปัจจุบันบริษัท โกลเด้นฯ ยังไม่ได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความ และบริษัท เอคิวฯ ยังไม่ได้รับแจ้งถึงการส่งเรื่องกับหน่วยงานที่อ้างอิงดังกล่าวข้างต้น และยังไม่ได้รับแจ้งบังคับคดีกับทรัพย์สินของบริษัทแต่อย่างใด ทั้งนี้การดำเนินงานต่อเนื่องของบริษัท เอคิวฯ ขึ้นอยู่อย่างมากกับความสามารถของบริษัทในการชำระหนี้สินตามคำพิพากษาของศาลฎกาฯ แสดงให้เห็นว่า มีความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดข้อสงสัยอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องของบริษัท เอคิวฯ

(อ่านคำชี้แจงฉบับเต็ม : http://www.set.or.th/set/newsdetails.do?newsId=14845238234501&language=th&country=TH)

อ่านประกอบ :

ชำแหละสถานะ‘เอคิว’ ความพยายามผู้บริหารใช้หนี้คดีกรุงไทยหมื่นล.?

ตลท.ห้าม‘เอคิว’ลูกหนี้คดีกรุงไทยหมื่นล.ซื้อขายหลักทรัพย์-ยังขายที่ดินใช้หนี้ไม่ได้

ขาดทุนล่าสุด 2.2 พันล.! ล้วงเหตุผล ‘เอคิว’ลูกหนี้กรุงไทยหมื่นล.ทำไมยังไม่ชดใช้?

เปิดรายงานผู้สอบบัญชี! จับท่าทีผู้บริหาร‘เอคิว’ใช้หนี้คดีกรุงไทยหมื่นล.

พิพากษาจำคุก “ร.ท.สุชาย-วิโรจน์” 18 ปี ทุจริตปล่อยกู้กรุงไทย ชดใช้หมื่นล.

จำแนกจำเลย-โทษเรียงตัวคดีกรุงไทย ไขปริศนา? ไฉนไม่มีชื่อ“พานทองแท้”

ดีเอสไอนัดถกจ่อสรุปคนพันคดีฟอกเงินกรุงไทย-‘โอ๊ค-เลขาฯพจมาน’ แจงแล้ว

‘พานทองแท้’ให้ถ้อยคำคดีฟอกเงินกรุงไทยแล้ว-‘กาญจนาภา’ขอเลื่อน

‘แม่-สามีกาญจนาภา’รับได้เงิน‘เสี่ยวิชัย’จริง! ดีเอสไอเรียก‘โอ๊ค’แจง 4 มี.ค.

‘สมยศ’ขายหุ้น‘เอคิว’ 750 ล.ให้‘เสี่ยโนอาร์-ลูก’ก่อนชิงนายกฯสมาคมบอล