ปรับ‘หม่อมเต่านา’500 บ.ปมจ้องหน้าอัยการ-อ้างเพราะไม่ให้เกียรติผู้พิพากษา
องค์คณะไต่สวน มีคำสั่งปรับ 500 บาท ‘หม่อมเต่านา-อดีตเลขาฯอนุ กมธ.ศาสนา’ ปมจ้องหน้าลักษณะคุกคามอัยการ ทนายเจ้าตัวอ้างทำไปเพราะมีพนักงานอัยการรายหนึ่งใช้คำพูดไม่เหมาะสม-ไม่ให้เกียรติ ปธ.ศาลฎีกา ในคดีจำนำข้าว
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่ง ในคดีที่พนักงานอัยการ ร้องต่อศาลฎีกาฯ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหา ม.ล.มิ่งมงคล โสณกุล และนายธรรศ วันพฤหัส อดีตเลขานุการคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา สภาผู้แทนราษฎร มีพฤติการณ์ข่มขู่คุกคามพนักงานอัยการ ระหว่างการนัดไต่สวนในคดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ซึ่งนายธรรศ ถูกศาลฎีกาฯออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากไม่มารายงานตัวตามคำสั่งศาล
ล่าสุด ม.ล.มิ่งมงคล พร้อมด้วยทนายความ และนายธรรศ ได้เดินทางมาตามนัดฟังคำสั่งของศาล โดยองค์คณะไต่สวน พิจารณาแล้วเห็นว่า พฤติการณ์ของ ม.ล.มิ่งมงคล และนายธรรศ เข้าไปยืนระยะประชิด และจ้องหน้าในลักษณะข่มขู่คุกคามพนักงานอัยการ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ในคดีไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นต้องทำในศาล ที่เป็นสถานที่อำนวยความยุติธรรม และเปิดให้ประชาชนผู้ต้องการทราบคดีเข้ามารับฟังได้ แต่ต้องปฏิบัติตามระเบียบให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย
องค์คณะไต่สวนพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ม.ล.มิ่งมงคล ทำให้พนักงานอัยการเกิดความไม่มั่นใจ และไม่ปลอดภัยในชีวิต ถึงขนาดต้องไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน และมีพฤติการณ์ยืนจ้องหน้า เดินตามในระยะประชิด มีเจตนารบกวนพนักงานอัยการ มีความผิดฐานไม่รักษาความสงบเรียบร้อยในศาล ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542 มาตรา 18 วรรคสอง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 และประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 31 (1) และมาตรา 33
ส่วนนายธรรศ แม้ไม่ยอมรับตามข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยอ้างว่า ไม่ได้เดินตามพนักงานอัยการในระยะประชิด และไม่ได้ถ่ายรูปพนักงานอัยการ แต่ที่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อเล่นโปรแกรมไลน์ (LINE) แต่เห็นว่า นายธรรศ มาด้วยกันกับ ม.ล.มิ่งมงคล และเดินทางกลับด้วยกัน ตามหลักฐานภาพถ่ายในศาล จึงเชื่อได้ว่า หากมีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้นคงเข้าไปช่วยเหลือ ดังนั้นนายธรรศ จึงเป็นตัวการร่วมกับ ม.ล.มิ่งมงคล มีความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 83
อย่างไรก็ดีพฤติการณ์ของ ม.ล.มิ่งมงคล และนายธรรศ มีลักษณะจ้องหน้าแต่ไม่พูด และไม่ได้แสดงออกทางร่างกายโดยตรง จึงเป็นการกระทำที่ไม่ร้ายแรง ลงโทษสถานเบา โดยให้ทั้ง 2 ราย เสียค่าปรับ รายละ 500 บาท
ส่วนกรณีที่พนักงานอัยการขอให้ศาลฎีกาฯ จัดระบบความปลอดภัยให้นั้น เห็นว่า ศาลฎีกาฯมีระบบความปลอดภัย และมีระเบียบอยู่แล้ว จึงยกคำขอ ส่วนคำขออื่นให้ยก
ทั้งนี้ภายหลังองค์คณะไต่สวน มีคำสั่งดังกล่าว ทนาย ม.ล.มิ่งมงคล ขอชี้แจงต่อหน้าองค์คณะไต่สวน และพนักงานอัยการ ถึงเหตุการณ์วันดังกล่าวว่า ไม่ได้มีเจตนาเข้าไปจ้องหน้า หรือเดินตามพนักงานอัยการ แต่ในวันดังกล่าวที่มีการไต่สวนคดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว มีพนักงานอัยการรายหนึ่ง ใช้วาจาไม่เหมาะสมกับประธานศาลฎีกา และเป็นหนึ่งในองค์คณะไต่สวน ซึ่งตัดสินในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ ในฐานะที่ ม.ล.มิ่งมงคล เป็นราชนิกูล เห็นว่า การพิจารณาคดีในชั้นศาลควรดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อย และให้เกียรติองค์คณะ จึงได้ดำเนินการดังกล่าว ทั้งนี้ขอให้ในการนัดไต่สวนครั้งต่อไป พนักงานอัยการ ต้องให้เกียรติองค์คณะไต่สวนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้พนักงานอัยการได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2559 ได้มีชายและหญิงรวม 2 คน แสดงพฤติการณ์ลักษณะทำนองกิริยาอาการเคียดแค้น แสดงความอาฆาตมาดร้ายจะเอาเรื่อง โดยเข้าลักษณะทำนองคุกคามข่มขู่ทำให้หวาดกลัว หรือกดดันคณะทำงานอัยการ นอกจากนี้ยังได้แจ้งความต่อ สน.ทุ่งสองห้อง เขตบางเขน กทม. เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้อีกทางหนึ่งด้วย
อ่านประกอบ :
‘หม่อมเต่านา-พวก’รับสารภาพปมจ้องหน้าอัยการ-ศาลฯนัดฟังคำสั่ง 19 ม.ค.
เลขาฯอนุกมธ.ศาสนา มีชื่อพันปมขู่อัยการคดีข้าวด้วย-‘เต่านา’ โพสต์ให้กำลังใจ 'ปู' ต่อ
เปิดคำร้องเบื้องหลัง! ‘หม่อมเต่านา’ ถูกกล่าวหาละเมิดอำนาจศาล-ขู่อัยการ
ศาลฎีกาฯออกหมายจับชายต้องสงสัยปมขู่อัยการคดีข้าว-แจ้งความด้วย