เคล็ดลับเจาะตลาดสาวมหาวิทยาลัย วัย 18+
ในโลกปัจจุบันที่การแข่งขันด้านธุรกิจกำลังดุเดือด ผู้ประกอบการหลายคนต่างต้องหาวิธีการที่จะทำให้ธุรกิจของตัวเองนั้นอยู่รอดในยุคที่เศรษฐกิจไม่สู้ดีนัก แน่นอนว่าส่วนสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจอะไรอย่างคือ "ลูกค้า" หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ากลุ่มเป้าหมายที่จะมาเสียเงินเพื่อซื้อสินค้าของเรา
เมื่อไม่นานมานี้ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดผลวิจัยชี้ว่า กลุ่มนักศึกษาหญิงเป็นกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจของผู้ประกอบการ เพราะมีการตัดสินใจซื้อที่รวดเร็ว และยังไม่ฝากใจไว้กลับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง
ผลวิจัยนี้ชี้ว่า กลุ่มนักศึกษาหญิงมีกำลังซื้อ 150,000 ล้านบาทต่อปี มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 10,247 บาท/คน/เดือน เป็นกลุ่มที่ผู้ประกอบการทั้งหลายต้องหันมามอง (อ่านประกอบ:ม.มหิดล เปิดผลวิจัยเจาะตลาดสาวมหา'ลัย ซื้อเร็ว-ภักดีต่อแบรนด์ ใช้ถึงเกษียณ)
นายอนุพงศ์ คุตติกุล เจ้าของร้าน CARNIVAL BKK ที่หันมาจับตลาดกลุ่มนักศึกษาหญิงวัย 18+ บอกว่า ในช่วงแรกๆที่เปิดร้านส่วนมากจะขายรองเท้าที่เป็นผู้ชายส่วนใหญ่ประมาณ 90% ส่วนอีก 10 % จะเป็นรองเท้าผู้หญิง แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กระแสที่ผู้หญิงใส่รองเท้าผ้าใบมีค่อนข้างเยอะ จึงทำให้ร้านต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบในการขาย คือ ต้องเพิ่มรองเท้าผู้หญิงให้มากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่มีมากขึ้น
"ผลตอบรับที่ดีมาก เพราะยอดขายรองเท้าผู้หญิงสูงขึ้นถึง 40 % กลายเป็นว่ารองเท้าผู้ชายทำยอดได้เพียง 60%"
นอกจากนี้การที่จะทำธุรกิจอะไรให้ประสบความสำเร็จนั้น สิ่งหนึ่งที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ไปถึงเป้าหมายนั่นคือ "ความชอบ" ต่อสิ่งที่เราทำอยู่ เหมือนกับที่มาของจุดเริ่มต้นร้าน CARNIVAL BKK ที่ปัจจุบันเป็นร้านขายรองเท้าแฟชั่นระดับต้น ๆ ของวัยรุ่นไทย
"ผมชอบทำธุรกิจ และเป็นคนชอบรองเท้าสนีกเกอร์ และสะสมอยู่ เลยหุ้นกับเพื่อนที่เรียนอังกฤษ นำรองเท้าสนีกเกอร์ รุ่นลิมิเต็ด มาจำหน่าย ทีแรกคิดว่า เปิดเล่นๆ เป็นธุรกิจเล็กๆ แต่เราตั้งใจทำกันมาก เพราะสินค้าเป็นสิ่งที่ชอบอยู่แล้ว ปรากฏว่าไปได้ดีมาก"
เจ้าของร้านรองเท้าเจาะตลาดกลุ่มนักศึกษาหญิง ยังเผยถึงเทคนิคที่ทำให้ธุรกิจของตัวเองเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ อย่างการถ่ายรูป เขาบอกว่า การถ่ายรูปก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าเรามีมองมุมที่จะถ่ายทอดให้ลูกค้าเห็นว่าสินค้ามีดีอย่างไร ก็จะสามารถดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาซื้อถึงร้าน
เขายังบอกอีกว่า แต่ลำพังเพียงความชอบธุรกิจคงไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่นัก หากขาดการปรับตัวให้ทันกับโลกปัจจุบันที่หมุนเร็วมาก และหนึ่งในตัวช่วยให้ธุรกิจหมุนตามโลกยุคปัจจุบันทันคือ "โลกออนไลน์"
ส่วนผู้ร่วมก่อตั้ง สมใจ รุ่นที่ 3 นางสาวนพนารี พัวรัตนอรุณกร ได้พูดถึงการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงของร้านเครื่องเขียนในตำนานที่อยู่คู่กับเด็กไทยมานาน สู่ร้านสมใจ ออนไลน์
เธอก็ยืนยันเช่นกันว่า สื่อที่มีอิทธิพลกับกลุ่มสาวมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะ "รูปถ่าย" หรือการถ่ายรูป มีความสำคัญมากสำหรับการขายของผ่านออนไลน์ เพราะเปรียบเสมือน "รักแรกพบ" ที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้สนใจสินค้าของเราก่อนจะตัดสินใจซื้อของ
"สินค้าที่ความต้องการเปลี่ยนไปตามยุคสมัย เน้นเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของคนให้มากขึ้นกว่าสมัยก่อน ทั้งด้านการตกแต่งร้าน เว็บไซต์ ตอนนี้ทุกอย่างโตทางออนไลน์หมด ก็เลยคุยกันว่า ถ้าเราทำเว็บขายออนไลน์คงไม่ยาก ลงทุนก็ไม่ได้มาก อีกทั้งเราก็มีของอยู่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ทดลองขายผ่าน Facebook page"
ส่วนนายศุภเจตน์ ตระการศิริวานิช ผู้ร่วมก่อตั้ง Growth Cafe and Co ร้านอ่านหนังสือสำหรับนักศึกษาเมืองกรุง ที่เริ่มต้นทำธุรกิจจากพบปัญหาของตัวเองสมัยเป็นวัยรุ่น ซึ่งร้านอ่านหนังสือแห่งนี้ก็ตอบโจทย์ชีวิตนักศึกษาได้เป็นอย่างดี
"ตอนสมัยเรียนไม่ค่อยมีที่ให้อ่านหนังสือหรือติวหนังสือกับเพื่อนๆ เพราะถ้าไปติวร้านกาแฟก็อาจจะโดนบ่น จนทำให้รู้สึกอยากจะมีร้านที่สามารถให้คนเข้ามาอ่านหนังสือ คุยงาน ประชุม หรือทำธุระกิจต่างๆได้อย่างสะดวก"
ศุภเจตน์ บอกว่า หากเราจับจุดได้ว่า อะไรคือปัญหา และเราจะแก้มันได้อย่างไร สินค้าและบริการของเราที่แก้ปัญหานั้นจะต้องขายได้ดีแน่ๆ เพราะใครๆก็อยากแก้ปัญหาทั้งนั้น เพียงแค่เราจับจุดให้ได้ เราก็จะสามารถมีธุรกิจของตัวเองได้อย่างแน่นอน
"จะเห็นได้ว่าส่วนสำคัญของการอยู่รอดในโลกธุรกิจสมัยนี้ คือ การปรับตัวให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สินค้าตอบโจทย์ลูกค้า และเข้าให้ถึงกลุ่มลูกค้าให้ทั่วถึงด้วยโลกออนไลน์"
นี่คือเคล็ดไม่ลับสำหรับการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบันที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับธุรกิจของตัวเองได้