เด็กไทยอันดับ1 ตายจากมอเตอร์ไซด์ เหตุขับเร็ว ไม่สวมหมวกกันน็อค
เด็กไทยตายจากมอเตอร์ไซด์อันดับ1 วอนครอบครัว โรงเรียนกวนขันลูกหลาน จะหวังพึ่งตำรวจอย่างเดียวไม่ได้
14ม.ค. 2560 รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผอ.ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและการป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก คณะแพทย์ศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศรา เกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในเด็ก
รศ.นพ.อดิศักดิ์ เปิดเผยว่า อุบัติเหตุทางถนนเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของคนไทย สาเหตุหลักมาจากรถมอเตอร์ไซค์ กว่า 76% โดยปี 2558เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากถึง 943 คน ในจำนวนดังกล่าวมีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 575 คน คิดเป็น 61% ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่ไม่สวมหมวกนิรภัย ขับเร็ว ไม่มีประสบการณ์
ทั้งนี้ แม้ว่าพ.ร.บ.จราจรทางบก จะห้ามไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์และอายุ 15-18 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้ แต่จากการสำรวจเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จาก 9 จังหวัด จำนวน 2,822คน เฉลี่ยอายุ 12 ปี พบว่า 58% ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นแล้ว สอนโดยพ่อ แม่ ผู้ปกครอง
“พ่อแม่ซื้อรถให้ บริษัทก็ขาย โรงเรียนก็สร้างที่จอดรถให้ เด็กม.1-2 ขับไม่มีใครว่าอะไร ถึงแม้เราจะมีกฎหมายใช้เพื่อเป็นบรรทัดฐานสังคม แต่ถ้าคนไม่เชื่อ ก็ไม่มีความหมายอะไร วันนี้เราต้องเชื่อก่อนว่าการกำหนดดังกล่าวจะช่วยเรื่องพฤติกรรมความปลอดภัยซึ่งคือตัวเราโดยตรง” รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าวและว่า ทุกฝ่ายต้องเข้ามาช่วยกัน ทั้งครอบครัว โรงเรียน ไม่ใช่ทั้งหมดให้ตำรวจจับอย่างเดียว ตำรวจต้องทำงานแต่ทุกคนในสังคมต้องมีความตระหนักถึงความปลอดภัยของตัวเองด้วย
รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าวด้วยว่า แม้อัตราการเกิดอุบัติเหตุยังสูง แต่การสวมหมวกนิรภัย จะช่วยลดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นได้มากกว่า ทั้งนี้แนวโน้มการสวมหมวกไปในทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในเขตพื้นที่เมืองอย่างกรุงเทพฯ หากลองสังเกตตามสี่แยกไฟแดงจะพบว่า ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่จะสวมหมวกแม้ว่าจะไม่มีการจับก็ตาม นั่นแสดงให้เห็นว่าการสวมใส่หมวกเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่ส่วนที่น่าห่วงมากกว่าคือ คนซ้อนท้ายที่มักจะไม่สวมหมวก อันนี้ก็คงต้องสร้างความตระหนักรู้เพิ่ม รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้น เพราะอย่าลืมว่า คนซ้อนไม่ใส่หมวกก็โดนปรับตามกฎหมายรวมไปถึงผู้ขับขี่ด้วย ถึงแม้จะสวมก็ต้องโดนปรับหากพบว่าคนที่ซ้อนท้ายไม่ได้สวม.
ขอบคุณภาพประกอบจาก