ก.ศึกษาฯ เสนอ 4 แนวทางจัดซื้อเนื้อหาสาระลงแท็บเล็ตจากสำนักพิมพ์เอกชน
ก.ศึกษาฯ ให้สำนักพิมพ์เอกชนยื่นซองประกวดราคาจัดเนื้อหาหลักสูตรลงแท็บเล็ต ระบุขณะนี้มี 2.4 หมื่น รร. 5 แสนนักเรียน พร้อมรับแท็บเล็ต ป.1 และพร้อมแจก พ.ค.นี้
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ศธ.ได้เสนอ 4 แนวทางให้สำนักพิมพ์พิจารณาเรื่องการจัดซื้อเนื้อหาสาระการเรียนรู้เพื่อบรรจุในคอมพิวเตอร์แบบพกพา (แท็บเล็ต) คือ 1.ดำเนินการในรูปแบบทีโออาร์ยื่นซองประกวดราคา 2.ให้ดาวน์โหลดจากเซิร์ฟเวอร์ของสำนักพิมพ์ 3.ศธ.ทำเซิร์ฟเวอร์กลางและสำนักพิมพ์นำหลักสูตรมาใส่ไว้เพื่อให้โรงเรียนดาวน์โหลด และ4.สำนักพิมพ์จัดเก็บข้อมูลลงใน SD Card โดย มีสำนักพิมพ์เอกชน 14 แห่งที่ร่วมรับฟังและเสนอแนวทาง โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางที่ 2 และ 3 พร้อมกันนี้ได้เสนอให้ ศธ.มีการเตรียมการเรื่องระบบบริหารจัดการที่มีคุณภาพ
อย่างไรก็ตามเพื่อให้ได้ความเห็นที่ตรงกัน ศธ.จะส่งหนังสือไปยังสำนักพิมพ์ต่างๆ เพื่อขอให้เสนอแนวทางหรือแผนที่เหมาะสมกลับมาให้พิจารณาเพิ่มเติมภายในวันศุกร์นี้ ขณะที่ในด้านของความพร้อมของสถานศึกษาที่จะได้รับจัดสรรแท็บเล็ตในเดือน พ.ค. นี้ ศธ.ได้จัดแบ่งสถานศึกษาออกเป็น 3 กลุ่มตามความพร้อม ซึ่งได้รับรายงานข้อมูลเฉพาะของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เท่านั้นว่ามีโรงเรียนทั้งหมด 24,098 โรง นักเรียนป.1 จำนวน 507,148 คน
ทั้งนี้ ได้แบ่งออกเป็น กลุ่มที่ 1. กลุ่มที่มีการติดตั้งระบบไฟเบอร์ออฟติก (Fiber Optic) เรียบร้อยแล้ว 789 โรง แต่ ศธ.อาจจะต้องประสานกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อติดตั้งกล่องรับสัญญาณเพิ่มเติมสำหรับรองรับการใช้งานของนักเรียนที่ อยู่ในพื้นที่ระยะไกล 2.กลุ่มที่มีการใช้ระบบเอดีเอสแอล (ADSL) 6,457 โรง ซึ่งส่วนใหญ่ระบบนี้จะเป็นการเชื่อมต่อทางสายโทรศัพท์และนิยมใช้ในห้องคอมพิวเตอร์ ซึ่ง ศธ.ต้องประสานไอซีทีในการติดตั้งสายเพิ่มเติม
-3.กลุ่มที่มีการใช้ระบบสัญญาณจานเดียวเทียม หรือ แซทเทิลไลท์ 16,652 โรง ซึ่งกลุ่มสนี้ค่อนข้างมีปัญหาในการเชื่อมต่อสัญญาณ อย่างไรก็ตามต้องการข้อมูลของสถานศึกษาทุกสังกัด เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เพื่อจะนำมาจัดวางแผนเพื่อขยายเครือข่ายได้อย่างครอบคลุม .