“วิทยา” เผย มี.ค.นี้ เลือกเลขาฯ สนง.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติคนใหม่
"รมว.สธ.เผยกำลังพิจารณาจ่ายสมทบ 30 บ.รักษาทุกโรค ด้านวาระเลขาฯ สปสช.หมด มี.ค.ตัวเต็ง 5 คน รมว.แรงงาน-นายกฯแพทยสภา-เลขาฯสภาฯการศึกษา-นพ.ประดิษฐ์ ผู้ทรงคุณวุฒิแพทย์แผนไทย-เอ็นจีโอ
วันที่ 6 ก.พ.55 นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด สปสช. ว่าประชุมได้พิจารณาในหลายประเด็น ทั้งทิศทางการจัดเก็บค่ารักษาเหมาจ่ายรายหัว 30 บาทโดยมอบให้คณะอนุกรรมการบริหารยุทธศาสตร์ ที่ นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.เป็นประธาน ไปดำเนินการศึกษาว่าหากจัดเก็บ 30 บาทแล้ว ทิศทางการดำเนินการควรเป็นอย่างไร โดยเฉพาะกรณีการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินในสถานพยาบาล
นายวิทยา กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาการแก้ไขมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในการจ่ายเงินค่าชดเชยความเสียหายแก่ผู้รับบริการทางการแพทย์ โดยมอบให้คณะอนุกรรมการการมีส่วนร่วมและการคุ้มครองสิทธิ์ ศ.ดร.สุนีย์ มัลลิกะมาลย์ ไปดูในสาระสำคัญของร่างแก้ไขกฎหมายที่ทางแพทยสภานำเสนอมา และจากนั้นส่งต่อให้ฝ่ายกฎหมายและบอร์ด สปสช.พิจารณาต่อไป ก่อนส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ซึ่งที่ผ่านมา สปสช.ต้องจ่ายค่าชดเชยในส่วนนี้ปีละกว่า 100 ล้านบาท
รมว.สธ.กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบการตั้งคณะกรรมการสรรหาเลขาธิการ สปสช. แทน นพ.วินัย สวัสดิวร ที่จะหมดวาระในเดือน มี.ค.นี้ ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน คือ 1.นายนิมิตร์ เทียนอุดม สัดส่วนผู้แทนองค์กรเอกชนด้านผู้ติดเชื้อเอชไอวี 2. นพ.อำนาจ กุสลานันท์ นายกแพทยสภา ผู้แทนฝ่ายแพทย์ 3.นายสมเกียรติ์ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ผู้แทนประกันสังคม 4.นพ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์แผนไทย และ 5.นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ เลขาธิการสภาการศึกษา
ด้าน นายนิมิตร์ เทียนอุดม กรรมการบอร์ด สปสช. สัดส่วนผู้แทนองค์กรเอกชน กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ดในวันนี้ยังได้พิจารณาการขยายสิทธิประโยชน์ในการรับการบำบัดยาเสพติดในโรงพยาบาลซึ่งเป็นไปในเชิงรุก โดยให้หน่วยบริการ สปสช.สามารถรับผู้ป่วยเข้าบำบัดรักษาได้ และสามารถเบิกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ซึ่งแต่เดิมการรักษาอย่างที่โรงพยาบาลธัญญาลักษณ์จะต้องใช้งบแยกส่วนต่างหาก โดยการบำบัดยาเสพติดนี้มีค่าใช้จ่ายสูง ตกเดือนละ 1.5 หมื่นบาท และต้องรักษาต่อเนื่อง 6 เดือน ทั้งนี้เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหายาเสพติดในเชิงรุก คาดว่าน่าจะเริ่มได้ในปีงบประมาณ 2555 นี้.