เชฟรอนอ่วม! คลังเรียกเงินคืนกว่า 3พันล้าน หลังกฤษฎีกาตีความชัดต้องเสียภาษี
คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความแล้ว ระบุชัด การขนส่งน้ำมันจากชายฝั่งไปยังแท่นขุดเจาะน้ำมัน เป็นการประกอบกิจการค้าในราชอาณาจักร ต้องเสียภาษี เชฟรอนอ่วม ต้องจ่ายย้อนหลังกว่า 3,000 ล้านบาท ก.คลังเตรียมสั่งสรรพาสามิต-สรรพากรประเมินทันที หลังได้รับผลตีความเป็นทางการจากกรมศุลกากร
จากกรณี สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) รับลูกข้อมูล ตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอเกี่ยวกับ เบื้องหลังค่าโง่ภาษี 3,000 ล้านบาท ที่รัฐอาจจะต้องสูญเสียไป จากกรณีการยกเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิต จำนวน 3,000 ล้านบาท ให้กับจากบริษัทเชฟรอน (ประเทศไทย)จำกัด ภายหลังจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา ได้ตีความว่า น้ำมันสำเร็จรูปที่ส่งไปใช้ยังแท่นขุดเจาะของบริษัทเชฟรอนในพื้นที่ไหล่ทวีป ถือเป็นการส่งน้ำมันในราชอาณาจักร ต้องปฏิบัติพิธีการว่าด้วยการค้าชายฝั่ง ทำให้บริษัทเชฟรอน ต้องเสียภาษี แต่กรมศุลกากร กลับไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาทันที กลับส่งเรื่องไปที่กระทรวงการคลังให้พิจารณาแทน
ต่อมาในต้นเดือนตุลาคม 2559 สตง. ได้นำส่งหนังสือ ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า การส่งน้ำมันเชื้อเพลิงกรณี บริษัทเชฟรอน ไม่ถือเป็นการส่งออกไปราชอาณาจักร แต่ถือเป็นการค้าชายฝั่งซึ่งจะต้องเสียภาษีอากร ตามความเห็นที่ประชุม 3 ฝ่าย ระหว่าง กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน และกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งให้กรมสรรพากรและกรมสรรพสามิตเรียกเก็บภาษีอากร พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่มและเรียกเงินภาษีที่มีการคืนให้บริษัทเชฟรอนกลับคืนรวมทั้งให้สอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทั้งทางอาญาแพ่งและวินัยด้วย
อย่างไรก็ตาม นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้แต่งตั้ง นายประภาศ คงเอียด รองปลัดกระทรวงการคลัง ขึ้นมาพิจารณาเรื่องดังกล่าวอีกครั้งหนึ่งโดยมีการเรียกประชุมฝ่ายต่างๆและมีความเห็นว่า แม้ว่ากระทรวงการคลังจะได้รับแจ้งจาก สตง.ว่าให้เรียกเก็บภาษีจากบริษัทเชฟรอน แต่เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานที่มีความชัดแจ้งและเป็นธรรมต่อผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และเพื่อให้เกิดความชัดเจนแน่นอนในการบังคับใช้กฎหมาย จึงให้กรมศุลกากรทำหนังสือหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้สรุปข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย แนวคำพิพากษาศาลฎีกา และแนวทางตามหนังสือตอบข้อหารือของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
(อ่านประกอบ : ไม่สนสตง.ขู่ฝ่าฝืนม.157! คลัง ส่งกฤษฎีกาตีความซ้ำ ปมเก็บภาษีน้ำมันเชฟรอน)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษได้พิจารณาขอหารือของกรมศุลกากรเสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา(เรื่องเสร็จที่ 1886/2559)สรุปว่า การขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์น้ำมันจากชายฝั่งในราชอาณาจักรไปยังแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมซึ่งตั้งอยู่ในเขตไหล่ทวีปนอกอาณาเขต 12 ไมล์ทะเล จึงต้องถือตามกฎหมมยว่าด้วยปิโตรเลียมซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะกล่าวคือ ถือว่า การขนของไปใช้ในการสำรวจและการผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ดังกล่าวเป้นการขนของไปใช้ในการประกอบกิจการปิโตรเลียมในราชอาณาจักร หากมีภาระภาษีใดๆเกิดขึ้นจากการประกอบกิจการดังกล่าว ก็ต้องมีการจัดเก็บภาษีเช่นเดียวกับการประกอบกิจการในราชอาณาจักรด้วย
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า การขนส่งน้ำมันไปยังแท่นขุดเจาะน้ำมันเป็นการค้าชายฝั่งหรือในราชอาณาจักรต้องเสียภาษี เมื่อได้รับรายงานผลการตีความจากกรมศุลกากรอย่างเป็นทางการแล้ว จะสั่งการให้กรมสรรพาสามิตประเมินภาษีส่วนที่ไม่ได้เก็บจากบริษัทเชฟรอนมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท และกรมสรรพากรต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในส่วนที่ขาดไปเนื่องจากฐานราคาในการคิดภาษีมูลค่าเพิ่มต่ำเนื่องจากยังไม่ได้บวกภาษีสรรพาสามิต
แหล่งข่าวกล่าว่า สำหรับการดำเนินการทางอาญาและวินัยกับข้าราชการที่เกี่ยวข้องในการตีความกฎหมายยกเว้นภาษีให้กับเชฟรอนนั้น ต้องขึ้นกับคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่มีนายลวรณ แสงสนิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นประธานว่า ข้าราชการที่เกี่ยวข้องตีความกฎหมายดังกล่าวผิดโดยสุจริตหรือไม่
อ่านประกอบ :
เบื้องหลัง"ค่าโง่"ภาษี 3,000 ล้าน "บิ๊ก"กรมศุล-คลังอุ้ม"เชฟรอน"?
ค่าโง่ภาษีน้ำมันที่ต้องเรียกคืน
สตง.รับลูกค่าโง่ภาษีน้ำมัน บ.เชฟรอน!แจ้ง'บิ๊กตู่' สั่งรมว.คลังเรียกเงินคืน 3 พันล.
โชว์ชัดๆ หนังสือ สตง. ขอ'บิ๊กตู่'สั่งคลังเรียกคืนค่าโง่ภาษีบ.เชฟรอน3พันล.-เชือดจนท.!
สตง.ขู่ฝ่าฝืน ม.157! ปลัดคลังฯ ยื้อเก็บภาษีน้ำมันเชฟรอน ส่งกฤษฎีกาตีความซ้ำ
ไม่สนสตง.ขู่ฝ่าฝืนม.157! คลัง ส่งกฤษฎีกาตีความซ้ำ ปมเก็บภาษีน้ำมันเชฟรอน
เข้าข่ายความผิดต่อหน้าที่!สตง.โนติส'รมว.คลัง'ส่งตีความซ้ำปมภาษีน้ำมันเชฟรอน