เปิดหลักการ-เหตุผลแก้ รธน.ชั่วคราว-มติวิป สนช.ให้สภาใช้ดุลพินิจโหวต
เปิดหลักการ-เหตุผลแก้ไข รธน.ชั่วคราวปี’57 เปิดทางให้นายกฯขอรับพระราชทานร่าง รธน.ฉบับใหม่ มาแก้ไขตามข้อสังเกต หากพระมหากษัตริย์ไม่ประทับอยู่ในราชอาณาจักร จะทรงตั้งผู้สำเร็จราชการแทนฯหรือไม่ก็ได้ – สนช. นัดประชุม 13 ม.ค. ถกทีเดียว 3 วาระรวด ‘วิษณุ’ ตอบคำถาม มติวิป สนช. ให้สภาใช้ดุลพินิจโหวต
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เว็บไซต์สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) บรรจุวาระการประชุมในวันที่ 13 ม.ค. 2560 เรื่องด่วน พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ...) พ.ศ. …. ตามที่คณะรัฐมนตรี และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้เสนอ ตามมาตรา 46 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 แล้ว โดยแนบหลักการและเหตุผลมาด้วย
สำหรับหลักการและเหตุผลประกอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ดังกล่าว ระบุว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้นำร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. …. (ร่างรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ) ขึ้นทูลเกล้าฯถวาย เพื่อทรงพิจารณา ต่อมาคณะรัฐมนตรี และ คสช. ได้พิจารณาร่วมกันว่า สมควรแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 เพื่อให้สามารถขอรับพระราชทานร่างรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติที่ได้ทูลเกล้าฯถวายไปแล้วนั้น มาแก้ไขเพิ่มเติม เฉพาะประเด็นตามที่สำนักราชเลขาธิการแจ้งมาเท่านั้น แล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายใหม่ภายในเวลาที่กำหนด จึงจำเป็นต้องตราร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้
เหตุผลและความจำเป็นในการเสนอร่าง เพื่อให้สามารถขอรับพระราชทานร่างรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ ที่ได้ทูลเกล้าฯถวายไปแล้วนั้น มาแก้ไขเพิ่มเติมเฉพาะประเด็นตามที่สำนักราชเลขาธิการแจ้งมาเท่านั้น แล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายใหม่ภายในเวลาที่กำหนด (ดูเอกสารประกอบ)
โดยสาระสำคัญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ครั้งนี้ อยู่ในมาตรา 3 และ 4
โดยมาตรา 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็นวรรคสามของมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557
“ในเมื่อพระมหากษัตริย์จะไม่ประทับอยู่ในราชอาณาจักร หรือจะทรงบริหารพระราชภาระไม่ได้ด้วยเหตุใดก็ตาม จะทรงแต่งตั้งผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์หรือไม่ก็ได้และให้ประธานรัฐสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้ง”
ส่วนมาตรา 4 ให้ยกเลิกความในวรรคสิบเอ็ดของมาตรา 39/1 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 เดิม และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“เมื่อนายกรัฐมนตรีนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายตามวรรคเก้าประกอบกับวรรคสิบแล้ว หากมีกรณีที่พระมหากษัตริย์พระราชทานข้อสังเกตว่าสมควรแก้ไขเพิ่มเติมข้อความใดภายในเก้าสิบวัน ให้นายกรัฐมนตรีขอรับพระราชทานร่างรัฐธรรมนูญนั้นคืนมา เพื่อดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมเฉพาะประเด็นตามข้อสังเกตนั้น และแก้ไขเพิ่มเติมคำปรารภของร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกัน แล้วให้นายกรัฐมนตรีนำร่างรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายใหม่ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับพระราชทานคืนมาตามที่ขอ เมื่อนายกรัฐมนตรีนำร่างรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายและทรงลงพระปรมาภิไธยแล้วให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและใช้บังคับได้ โดยให้นายกรัฐมนตรีลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ในกรณีที่พระมหากษัตริย์ไม่ทรงเห็นชอบด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญหรือร่างรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติมและพระราชทานคืนมาหรือเมื่อพ้นเก้าสิบวันที่นายกรัฐมนตรีนำร่างรัฐธรรมนูญหรือร่างรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้วแต่กรณี ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วมิได้พระราชทานคืนมาให้ร่างรัฐธรรมนูญหรือร่างรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติมนั้นเป็นอันตกไป"
อนึ่ง เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2560 มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสามัญ สนช. หรือ วิป สนช. โดยที่ประชุมมีมติเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว มอบหมายให้ กมธ.สามัญพิจารณาศึกษาเสนอแนะ และรวบรวมความเห็นประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ เป็นผู้พิจารณาศึกษาและเสนอความเห็น (ถ้ามี) และเห็นควรเรียนเชิญคณะรัฐมนตรี ผู้แทน คสช. เข้าร่วมประชุมสภาในวาระดังกล่าว เห็นควรให้อยู่ในดุลพินิจ สนช. ในการพิจารณาเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ และเห็นควรพิจารณาโดย กมธ.เต็มสภา
ขณะที่ช่วงเย็นวันดังกล่าว นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิก สนช. แถลงผลการประชุวิป สนช. ว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีหนังสือถึงประธาน สนช. (นายพรเพชร วิชิตชลชัย) ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 โดยประธาน สนช. ได้นำเข้าปรึกษาในวิป สนช. เห็นว่า ขั้นตอนของ สนช.ในการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติม จำเป็นต้องใช้ความรวดเร็ว จึงบรรจุวาระการประชุม สนช. ในวันที่ 13 ม.ค. 2560 โดยกำหนดให้พิจารณา 3 วาระ และการพิจาณาให้แล้วเสร็จ 15 วันนับตั้งแต่วันนี้ ซึ่งในการพิจารณาจะมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตอบคำถาม
อ่านประกอบ :
ตั้ง กก.พิเศษแก้ร่าง รธน.ใหม่ ใช้คนจากกฤษฎีกา-'วิษณุ'ยันไม่แตะการเมือง
พระราชกระแสรับสั่งให้แก้ รธน. ใหม่หมวดพระมหากษัตริย์-เข้าวาระ สนช. 13 ม.ค.
เปิดร่างรธน.2557 ให้นำร่างฉบับ 'มีชัย' แก้ไขเรื่องพระราชอำนาจ-ตั้งผู้สำเร็จราชการ