ผู้ว่าฯมาดริด สั่งแบนรถยนต์ส่วนตัวในเมือง ด้านกรุงเทพฯยังติดท็อป5เมืองรถติด

ผู้ว่าการเมืองมาดริด สั่งแบนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลบริเวณใจกลางเมือง ตามนโยบายลดมลพิษ และสร้างความปลอดภัยให้คนเดินเท้า

เมื่อเร็วๆ นี้ เว็ปไซต์ อินดิเพ้นเด้น รายงานว่า นางมานูเอลา คาเมนา ผู้ว่าการเมืองมาดริด ประเทศสเปน ได้ประกาศนโยบายพิเศษในการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล โดยสั่งห้ามให้มีการนำรถเข้ามาในบริเวณ จัตุรัสกลางเมือง the Gran Vía ซึ่งถือเป็นย่านช็อปปิ้งที่สำคัญของมาดริด โดยนโยบายดังกล่าวอนุญาตให้เฉพาะรถโดยสารสาธารณะ รถบัส แท็กซี่ รวมไปถึงจักรยาน

นางคาเมนา กล่าวด้วยว่า ความพยายามในในครั้งนี้นั้น เป็นนโยบายต่อเนื่องในการยกเลิกการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลในเมืองมาดริด ซึ่งคาดว่าจะสามารถจัดการได้100% ภายในปี 2025 

ขณะที่ช่วงหยุดยาวในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทางการมาดริดได้เริ่มจัดการตามนโยบายดังกล่าว โดยไม่อนุญาตให้รถยนต์ส่วนบุคคลเข้ามาวิ่งบริเวณ the Gran Vía เป็นเวลา 9 วัน

การดำเนินนโยบายดังกล่าว ทำให้พรรคฝ่ายขวาซึ่งเป็นคุ่แข่งคนสำคัญอย่างนาง แอสปาเรนซา อูเกวร่าได้ออกมาโจมตีว่า การสั่งแบนรถยนต์ส่งผลให้ธุรกิจค้าขายในพื้นที่ดังกล่าวแย่ลง

อย่างไรก็ตาม นางคาเมนา  ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลแย้งว่า ช่วงที่มีการสั่งห้ามรถยนต์ การค้าขายในบริเวณนั้นเพิ่มสูงขึ้นถึง 15% ทั้งนี้เป้าหมายใหญ่ของการดำเนินการนโยบายดังกล่าวนั้น เป็นเพราะว่ามลพิษทางอากาศภายในเมืองมาดริดตอนนี้อยู่ในระดับที่อันตราย นอกจากนี้นโยบายดังกล่าวยังเป็นไปตามกระแสของโลกที่ต้องการลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

นางคาเมนา กล่าวอีกว่า นอกจากเรื่องของมลพิษทางอากาศเเล้ว ความเคลื่อนไหวด้านนโยบายครั้งนี้เพราะต้องการให้ถนนเป็นมิตรกับคนเดินมากขึ้น ซึ่งเมืองใหญ่ๆ ในยุโรปอย่าง โคเปนเฮนเก้น ประเทศเดนมาร์ก ได้เริ่มสร้างทางด่วนสำหรับจักรยาน และในปี 2019 เมืองโอสโล ประเทศนอร์เวย์,เมืองฮัมบูรกส์ ประเทศเยอรมัน, ปารีส ประเทศฝรั่งเศส และเม็กซิโก ก็จะมีการสั่งห้ามรถยนต์ส่วนบุคคลด้วยเช่นกัน.

ทั้งนี้ในปี 2559 ที่ผ่านมา การจราจรในกรุงเทพมหานคร ยังคงติดอันดับ2 ของโลก รองจากเม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโก จากผลการสำรวจของศูนย์ข้อมูลจราจร เว็ปไซต์ tomtom.com  

ขณะที่เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2559 ที่ผ่านมา ทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้เสนอมาตรการในการแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ซึ่งหนึ่งในมาตรการระยะยาวคือ การกำหนดโซนนิ่งเก็บเงินรถเข้าเมือง ในถนนที่มีปริมาณการจราจรหนาแน่น หากจะเข้าต้องเสียเงินในอัตราสูง รวมไปถึงแนวคิดเรื่อง การกำหนดวันใช้รถด้วยเลขทะเบียนรถวันคู่หรือวันคี่ ที่จะช่วยให้รถหายไปจากท้องถนนถึง 50% อย่างไรก็ดีแนวคิดดังกล่าวยังคงถูกวิพากษ์อย่างกว้างขวาง.

ขอบคุณภาพประกอบจากhttp://www.gothereguide.com/