ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร ยุคนเมือง-ชนบท ลงมือปลูกต้นไม้ทุกวัน
“ถ้าเชื่อพระเจ้าอยู่หัวเลิกฝันว่าอยากจะรวยได้แล้ว เราต้องรวยน้ำใจรวยอากาศบริสุทธิ์รวยอาหารรวยทุกอย่าง ซึ่งไม่ได้แปลว่าจะต้องไปเร่งหาเงิน ในเมืองหลวงในชนบทควรที่จะลงมือปลูกต้นไม้ทุกวัน วันหนึ่งจะได้กี่ต้นไม่มีปัญหาไม่ต้องไปชี้ที่คนอื่นเริ่มที่ตัวเองและทุกคนจะเลียนแบบกัน อยากให้ทุกคนช่วยกันปลูกต้นไม้เพื่อประโยชน์แก่ตัวของท่านเอง”
เ่มื่อเร็วๆ นี้ ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานสถาบันเศรษฐกิจพอเพียงและประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กล่าวในเวทีเสวนา "เดินตามรอยเท้าพ่อ สานต่อป่าในเมือง" ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ร่วมกับ คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณทิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และภาคีเครือข่าย
ดร.วิวัฒน์ กล่าวว่า ต้นไม้เป็นหัวใจสำคัญในการที่จะปฎิรูปคน เชื่อว่าต้นไม้เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะพัฒนาความเป็นมนุษย์ของคน พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ก็ไม่ได้สอนอะไรมากมาย ท่านทรงเขียนหนังสือก็ไม่กี่เล่ม พูดไม่มาก ปีหนึ่งจะพูดแค่ครั้งเดียวคือวันที่ 4 ธันวาคมเท่านั้น
"ท่านทรงเป็นกษัตริย์ที่พูดน้อยแต่ทำเยอะ ปีนี้พอพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สวรรคตทั่วโลกลุกขึ้นมาเชียร์กันและก็บอกกันว่า โลกใบนี้จะรอดได้ปรัชญาพระเจ้าแผ่นดินของไทย แม้แต่สงครามก็จะไม่เกิดถ้ามนุษย์ทำตามพระเจ้าแผ่นดิน มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ควรจะนำปรัชญาพระเจ้าอยู่หัวไปเปรียบเทียบกับปรัชญาที่มีอยู่บนโลก คือ ปรัชญาเศรษฐกิจการค้าเสรี หวังรวยดูจีดีพีเป็นหลักหวังจะก้าวข้ามประเทศรายได้ปานกลาง
การไปสู่ประเทศร่ำรวย ถามว่า รวยแล้วดีอย่างไร พระองค์ท่านบอกไม่ดี เราไม่อยากก้าวหน้าอย่างมาก มีใครฟังพระองค์ท่านกันบ้างไหม ฝ่ายรัฐบาลก็ไม่ฟังไม่อยากเป็นประเทศก้าวหน้าอย่างมาก เพราะยิ่งก้าวหน้าอย่างมากต้นไม้จะไม่เหลือ น้ำจะไม่เหลือและดินก็จะเอาแต่จะปลูกข้าวโพดกันภูเขาก็จะไม่เหลือ เดี๋ยวอีกไม่นานก็จะประกาศเขตภัยพิบัติหมอกควัน เพราะผู้ว่าฯก็ไม่สามารถหยุดการเผาป่าเผาภูเขาไม่ได้ เผาทีประมาณ 10 กว่าล้านไร่ “
ประธานสถาบันเศรษฐกิจพอเพียงและประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ เล่าว่า มีคนบ้าๆอยู่คนหนึ่ง ปลูกต้นไม้ไป 6 ไร่ มานั่งคุยกับผมหลายทีแล้ว ผมก็ยุให้ขายสมบัติให้ปลูกป่าให้ได้พันไร่ แต่อย่าปลูกในเมืองหาที่ใกล้ๆเมืองเดี๋ยวลมพัดออกซิเจนก็มาถึงกรุงเทพฯเหมือนกัน ห่างซักร้อยกิโลเมตร คนนั้นคือคุณต่อ ธนญชัย ศรศรีวิชัย เป็นผู้กำกับหนังโฆษณาระดับโลก
"แกชวนผมไปดูป่า 6 ไร่ ผมว่าที่นั่นน่าเป็นที่เรียน ต่อไม่มีความรู้เรื่องการปลูกต้นไม้เลย แต่สามารถปลูกต้นไม้เป็นร้อย ๆ ชนิด รู้จักทุกต้น เดินไปก็ทักต้นไม้ นี้คือความรักเรียกว่า ปลูกต้นไม้จนงอกขึ้นมาในหัวใจ"
ส่วนพื้นที่อันตรายสุด ดร.วิวัฒน์ ชี้ชัดว่า คือพื้นที่การทำมาหากินของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ขายทั้ง ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ข้าวโพด รับซื้อ และเอาไปทำอาหารสัตว์ พวกนี้เป็นแหล่งความร่ำรวยของพวกเขา เราก็ต้องหยุดการทำลายล้างของพวกเขา
ดร.วิวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า เมืองหลวงมีที่นิดเดียวที่จะปลูกต้นไม้ แม้แต่หอพักก็ควรจะแขวนกระถางต้นไม้ การปลูกต้นไม้ได้ประโยชน์ 4 อย่าง อย่างที่พระองค์ท่านเคยตรัสไว้ ทำเป็นพื้นที่สวนแนวตั้งในเนื้อที่ 32 ตารางวา คือมีบ้านด้วยออกแบบให้สามารถปลูกต้นไม้ได้รอบบ้าน ผนังกำแพงก็ปลูกเข้าไป ได้ผลที่ได้คือ
1.ของกินสามารถเอาไปแจกได้ไม่น้อยกว่า 3-5 บ้าน
2.ของใช้ที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า
3.สามารถนำไม้ที่ปลูกอย่างเช่น ต้นไผ่ก็นำมาสร้างบ้านได้เป็นที่อยู่อาศัยได้
ประโยชน์สำคัญคืออย่างที่ 4. คือต้องการสภาพแวดล้อมที่ดีออกที่บริสุทธิ์ คาร์บอนไดออกไซด์ต้องถูกเก็บให้มากที่สุด
"มีงานวิจัยอยู่แล้วแทบไม่ต้องศึกษาใหม่เลยว่า ต้นไม้เก็บคาร์บอนไดออกไซด์ได้เกือบครึ่ง โลกจะสะอาดขึ้นทันทีออกซิเจนก็กลับมาเพิ่มขึ้น อากาศดีขึ้น ความรู้เหล่านี้ต้องถูกสื่อสารออกไปให้มากที่สุดและที่ได้ประโยชน์มากที่สุด คนปลูกต้นไม้รับประโยชน์ก่อนใครเพื่อน"
พร้อมกันนี้ ดร.วิวัฒน์ ยกตัวอย่างบ้านตนเองมีพื้นที่ 50 ไร่ เย็นกว่าข้างนอก 10 องศา พวกไร่ข้าวโพดพอเจ้าของไม่อยู่ ผมก็แอบปลูกป่าปลูกไป 40-50 ไร่ ตอนนี้ได้ป่าคืนมาเกือบ 100 ไร่ และไม่ได้ทำที่เดียว
"ผมยุเขาไปทั่วไปบนดอยก็ไปยุกระเหรี่ยงชวนปลูกป่าในบ้านในเมืองกระเหรี่ยง ถ้าเกิดโลกร้อนขึ้นอีก 1 องศา ทะเลจะลุกคืบเข้ามา 5-10 เมตร ถ้าโลกร้อนเพิ่มอีก 2 องศา สิ่งมีชีวิตบนโลกจะสูญพันธุ์อีกมหาศาล ผมว่าตัวเลขนี้เรามีทั้งนั้น สังคมอาจจะยังไม่สนใจมากกว่าอยากก้าวข้ามประเทศรายได้ปานกลางเป็นประเทศร่ำรวย
คุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ บอกว่าภายใน 30 ปี เราจะเป็นประเทศที่รวยไม่ต่ำว่าอันดับ 10 ของโลก แต่พระองค์ท่านเตือนไว้ว่า ไม่เกิน 30 ปีจะไม่มีคนอยู่รอดตกลงจะเชื่อใคร ถ้าเชื่อพระเจ้าอยู่หัวเลิกฝันว่าอยากจะรวยได้แล้วเราต้องรวยน้ำใจ รวยอากาศบริสุทธิ์ รวยอาหาร รวยทุกอย่าง ซึ่งไม่ได้แปลว่าจะต้องไปเร่งหาเงิน ในเมืองหลวงในชนบทควรที่จะลงมือปลูกต้นไม้ทุกวัน วันหนึ่งจะได้กี่ต้นไม่มีปัญหา ไม่ต้องไปชี้ที่คนอื่นเริ่มที่ตัวเองและทุกคนจะเลียนแบบกัน อยากให้ทุกคนช่วยกันปลูกต้นไม้เพื่อประโยชน์แก่ตัวของท่านเอง”