งัด ม.44 ระงับสรรหา กก.กสทช. ให้คนที่เหลือทำงานต่อจนพ้นสภาพ
‘พล.ท.สรรเสริญ’ เผย ที่ประชุม คสช. มีมติใช้มาตรา 44 เพิ่ม 3 ฉบับ ระงับการคัดเลือก กก.กสทช. เพิ่มเติม ไม่สรรหาใหม่ ให้คนที่เหลือทำงานต่อจนพ้นสภาพ ถ้าเหลือไม่ถึง 6 คน ค่อยสรรหา ออกมาตรการส่งเสริมกิจการ กสทช. ในส่วนวิทยุ-โทรทัศน์ คสช. – กำหนดเขตเศรษฐกิจพิเศษเพิ่ม 2 จังหวัด
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ที่ประชุมมีมติให้มีการออกคำสั่งตามมาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 เพิ่มเติมรวม 3 ฉบับ ได้แก่ การแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 17/2558 โดยให้กำหนดพื้นที่การทำเขต เศรษฐกิจพิเศษ เพิ่มเติม 2 พื้นที่ คือจังหวัดนครพนมและจังหวัดกาญจนบุรี โดย เจ้าหน้าที่ด้านปกครองและด้านความมั่นคง รวมถึงในเจ้าหน้าที่ในกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ลงไปดูพื้นที่ โดยเลือกพื้นที่ อ.อาจสามารถ จังหวัดนครพนม และ ต.บ้านเก่า อ.เมือง จังหวัดกาญจนบุรี และเมื่อนำมาจัดทำพื้นที่เขต เศรษฐกิจพิเศษจะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ แต่อาจมีบ้างเล็กน้อยซึ่งมีมาตรการรองรับอยู่แล้ว
และให้ออกมาตรา 44 ระงับการคัดเลือกบุคคลเป็นกรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สืบเนื่องจากพ้นสภาพจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ โดยเห็นว่า คณะกรรมการยังสามารถปฏิบัติงานได้ จึงออกม.44 ให้ คณะกรรมการที่เหลืออยู่ปัจจุบัน 9 คน ทำงานต่อไป จนแต่ละคนพ้นสภาพ โดยไม่ต้องสรรหาคนใหม่ แต่หากพ้นสภาพเหลือไม่ถึง 6 คน หรือกฏหมายที่แก้ไขอยู่มีการประกาศใช้ จึงจะมีการสรรหาคนใหม่
รวมถึงให้ออกมาตรา 44 เกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมการประกอบกิจการ กสทช.เพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยในส่วนของวิทยุ คสช. มีความต้องการให้ข้อมูลข่าวสารไม่ถูกบิดเบือน จึงขอขยายระยะเวลาใช้แผนแม่บท ปี 2555 ออกไปอีก 5 ปี ส่วนโทรทัศน์ คสช. จำเป็นต้องส่งเสริม ผู้ประกอบการเนื่องจากมีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และส่งเสริมการให้ข้อมูลที่เป็น ประโยชน์ต่อประชาชน คือ ขยายระยะเวลา ชำระใบอนุญาตที่ค้างอยู่ 1 งวด ออกเป็น 2 งวด โดยเสียดอกเบี้ยร้อยละ 1.5 ต่อปี ส่วนเงินส่วนต่างที่เกิดจากการประมูลจากเดิมจ่ายไปแล้ว 3 งวดเหลืออีก 3 งวด ให้มีการขยายระยะเวลาการจ่ายได้ 6 งวดใน 6 ปี จากเดิม 3 งวดใน 3 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 1.5 ต่อ/ปี และ ให้กองทุนวิจัย กสทช.เพื่อ ประโยชน์ สาธารณะ สนับสนุนค่าใช้จ่ายการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียม เป็นระยะเวลา 3 ปี ปีละ 875 ล้านบาท ซึ่งประชาชนจะสามารถรับชมข่าวสารผ่านโทรทัศน์ได้ทุกช่องทาง
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 20 ธ.ค. 2559 ได้เผยแพร่ คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 75/2559 เรื่อง ระงับการคัดเลือกบุคคลและการสรรหาเพื่อเสนอชื่อเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ระบุข้อความว่า
โดยที่ขณะนี้ได้มีการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในส่วนขององค์ประกอบ คุณสมบัติ กระบวนการได้มา และการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. ให้แตกต่างไปจากบทบัญญัติเดิม ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ เมื่อปรากฏว่ามีกรรมการใน กสทช. ด้านกฎหมายพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากมีอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ จึงเห็นสมควรให้ระงับกระบวนการได้มาซึ่งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างลงไว้ก่อน เพราะการพ้นจากตำแหน่งดังกล่าวแม้จะเป็นเหตุให้ กสทช. มีจำนวนเหลืออยู่เพียง 9 คน ก็ไม่มีผลกระทบในทางกฎหมายต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. แต่อย่างใด เนื่องจากมาตรา 20 วรรคสาม ได้บัญญัติให้กรรมการที่เหลืออยู่ยังคงสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ โดยให้ถือว่า กสทช. ประกอบด้วย กรรมการเท่าที่เหลืออยู่ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการบริหารงานภาครัฐ และไม่ให้เกิดความสิ้นเปลือง และซ้ำซ้อนทางด้านงบประมาณ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ระงับการคัดเลือกและสรรหาบุคคล เพื่อเสนอชื่อเป็น กสทช. แทนตําแหน่งที่ว่างลง ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ไว้จนกว่าจะมีกรรมการเหลืออยู่ไม่ถึง 6 คน หรือจนกว่า ร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. .... ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติในวันก่อนวันที่คำสั่งนี้จะมีผลใช้บังคับ หรือจนกว่า จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น แล้วแต่กรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน และให้ กสทช. ประกอบด้วยกรรมการเท่าที่เหลืออยู่
ให้นำความในวรรคหนึ่ง มาใช้บังคับกับองค์ประกอบของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมด้วย โดยอนุโลม
ข้อ 2 ในกรณีเห็นสมควร นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี อาจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้
ข้อ 3 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
และคำสั่ง คสช. ที่ 76/2559 เรื่อง มาตรการส่งเสริมการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ระบุข้อความว่า
โดยที่ในปัจจุบันการประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการ ทางธุรกิจระดับชาติ มีการแข่งขันในรูปแบบที่หลากหลาย ประกอบกับ ผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ส่งผลต่อรายได้ของผู้ประกอบการที่สุจริต ทำให้ไม่อาจชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ได้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด ในขณะเดียวกัน การส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึง และรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่มีความหลากหลาย ถูกต้อง ครบถ้วน และปราศจากการบิดเบือน ยังมีความสำคัญทั้งในด้านการรักษาความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงของชาติ การส่งเสริมความสามัคคี และสมานฉันท์ของประชาชน จึงจำเป็นต้องมีการส่งเสริมให้โทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปผ่านดาวเทียม สามารถดำเนินการได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ ซึ่งมาตรการในการส่งเสริมนี้จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการทั้งภาครัฐและเอกชน และยังเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ให้เกิดประสิทธิภาพและสร้างความมั่นคงให้แก่ระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ จึงมีคำสั่งต่อไปนี้
ข้อ 1 ในคำสั่งนี้
“ประกาศ” หมายความว่า ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่ เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ พ.ศ. 2556
ข้อ 2 ให้ผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตามประกาศ ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ในส่วนที่เหลือตั้งแต่งวดที่ 4 เป็นต้นไป ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในข้อ 10 ของประกาศ
ข้อ 3 หากผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่รายใด ไม่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามข้อ 2 ได้ ให้ผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่รายนั้น แจ้งเป็นหนังสือไปยังสำนักงาน กสทช. ล่วงหน้า ก่อนวันครบกำหนดชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ตามที่กำหนดไว้ในประกาศ
ในกรณีที่สำนักงาน กสทช. พิจารณาแล้วเห็นเป็นการสมควร ก็ให้ผู้รับใบอนุญาตรายนั้นชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในส่วนที่เหลือทั้งหมดตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายคำสั่งนี้ รวมทั้ง ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่นตามประกาศด้วย
ข้อ 4 การชำระค่าธรรมเนียมตามคำสั่งนี้ ไม่เป็นการตัดสิทธิผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ที่จะขอชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในส่วนที่เหลือตามที่กำหนดไว้ในข้อ 10 ของประกาศ โดยให้ผู้รับใบอนุญาตนั้น แจ้งเป็นหนังสือไปยังสำนักงาน กสทช. ล่วงหน้า ก่อนวันครบกำหนดชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตามประกาศ
ข้อ 5 การชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตามข้อ 3 มิให้นำมาใช้บังคับกับผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ ที่ขอยกเลิกการประกอบกิจการ หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ และใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ เพื่อประกอบกิจการดังกล่าวก่อนวันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ
ข้อ 6 ให้ กสทช. และสำนักงาน กสทช. หรือคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ แล้วแต่กรณี จัดให้มีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปผ่านดาวเทียม ตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป เป็นระยะเวลา 3 ปี
การดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยให้คำนึงถึงการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน และครอบคลุมถึงบริการโทรทัศน์สาธารณะที่นำรายการมาออกอากาศผ่านดาวเทียม ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนชาวไทยในประเทศ และที่พำนักในต่างประเทศได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างทั่วถึง ต่อเนื่อง และหลากหลาย
ข้อ 7 ให้ กสทช. หรือสำนักงาน กสทช. ดำเนินการเรียกคืนคลื่นความถี่ เพื่อนำไปจัดสรรใหม่ หรือปรับปรุงการใช้คลื่นความถี่ตามแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ (พ.ศ. 2555) เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันครบกำหนดแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ดังกล่าว ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐที่ประกอบกิจการกระจายเสียงตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 และได้รับความเห็นชอบให้ถือครองคลื่นความถี่ ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ยังคงมีสิทธิในการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง และการถือครองคลื่นความถี่ดังกล่าวได้ตามขอบเขตและสิทธิเดิม
ข้อ 8 ในกรณีเห็นสมควร นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี อาจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้
ข้อ 9 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 20 ธันวาคม พุทธศักราช 2559
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
เอกสารประกอบ :
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/E/299/15.PDF
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/E/299/17.PDF
หมายเหตุ : ภาพประกอบ พล.ท.สรรเสริญ จาก ASTVmanager