กป.อพช.ทำหนังสือถึงนายกฯ ทบทวนคำสั่งย้าย ผอ.พอช.
กป.อพช.ขอนายกฯ ทบทวนคำสั่งย้าย ผอ.พอช. ย้ำชัด รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับ พอช.ให้เป็นหน่วยงานแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้า ความไม่เป็นธรรมของสังคมไทย การสร้างความปรองดอง
วันที่ 15 ธันวาคม คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ทำหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่อง การใช้อำนาจรัฐต้องมีธรรมาภิบาล และเป็นธรรม ทบทวนการแทรกแซงการดำเนินงานของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)
พอช. เป็นองค์การมหาชน ที่จัดตั้งขึ้นให้เป็นหน่วยงานบริหารที่แตกต่างจากส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ โดยมีคณะกรรมการและผู้อำนวยการรับผิดชอบการดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร ประกอบกับ พ.ร.บ. องค์การมหาชน พ.ศ.2542 กำหนดให้รัฐมนตรี เป็นผู้รักษาการตามพระราชกฤษฎีกา จัดตั้งองค์การมหาชน มีอำนาจในการกำกับ ดูแล การดำเนินงานให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ นโยบายรัฐบาล มติคณะรัฐมนตรี และยับยั้งการกระทำ หรือสอบข้อเท็จจริงเฉพาะการดำเนินงานที่ขัดกับวัตถุประสงค์ นโยบายรัฐบาล หรือมติคณะรัฐมนตรี
กล่าวคือ กฎหมายกำหนดให้รัฐมนตรี ซึ่งเป็นฝ่ายการเมือง มีอำนาจกำกับดูแล การดำเนินงานในภาพรวมทั้งองค์กร ไม่มีอำนาจสั่งการเหมือนที่มีกับส่วนราชการ เพราะการจัดตั้ง พอช.ขึ้นเป็นองค์การมหาชน ทั้งที่มีหน่วยงานของรัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำงานด้านการพัฒนาชุมชนนั้น ให้เป็นไปเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของระบบราชการ และประสงค์ให้เป็นองค์กรที่สามารถทำงานพัฒนาชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยืดหยุ่นต่อสถานการณ์และปัญหาของชุมชนด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนและประชาสังคม
คณะกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน เป็นผู้มีอำนาจสรรหา แต่งตั้ง ถอดถอนผู้อำนวยการ กล่าวคือ ผู้อำนวยการทำงานขึ้นต่อคณะกรรมการ นอกจากนี้ การสรรหา และการประเมินผลงานของผู้อำนวยการพอช.มีกระบวนการที่องค์กรชุมชนมีส่วนร่วมอย่างมีความหมาย การที่นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งย้ายผู้อำนวยการ พอช.ไปปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่ของรัฐประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยละเลยกระบวนการตรวจสอบ จึงเป็นการย้ายโดยไม่มีเหตุผล ใช้อำนาจแทรกแซงคณะกรรมการพอช.ขัดพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ.2542 ไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลการบริหารงานภาครัฐ และต้องการจำกัดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการทำงานร่วมกับภาครัฐ ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่รัฐบาลต้องการแก้ปัญหาสังคม คนจน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคประชาสังคม
คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ห่วงใยว่า การที่นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็น ผู้นำของรัฐบาล และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ใช้อำนาจโดยไม่อยู่ในหลักการบบริหารบ้านเมืองที่ดีและเป็นธรรมเช่นนี้ จะนำไปสู่ความไม่ไว้วางใจของประชาชนในที่สุด เพราะพอช.เป็นหน่วยงานรัฐที่มี เครือข่ายประชาชนร่วมมือในการทำงานเป็นจำนวนมาก รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับ พอช.ให้เป็นหน่วยงานแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้า ความไม่เป็นธรรมของสังคมไทย การสร้างความปรองดอง รวมทั้ง การเดินหน้าไปส่การพัฒนาที่ยั่งยืน จึงขอเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีให้ทบทวนคำสั่งย้ายผู้อานวยการ พอช. โดยให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ ตามตำแหน่งเดิม ไม่ใช้อำนาจแทรกแซงการทำงานของ พอช. และมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กำกับดูแลให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และนโยบายของรัฐบาล อันเป็นการใช้อำนาจตามที่กฎหมายกำหนด จะเป็นการกระทำที่วางอยู่ บนหลักธรรมาภิบาลที่ดีสำหรับรัฐบาลและประเทศชาติ ในระยะยาว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดปัญหาเผยที่มามาตรา 44 เด้ง ผอ.พอช.เซ่นโครงการบ้านริมคลองล่าช้า