เป็น ปย.ต่อราชการ! กรมชลฯแจงปมเอกชนประมูลต่ำกว่าราคากลางร้อยล.
รองอธิบดีกรมชลฯร่อนหนังสือแจง ‘อิศรา’ ปมคุ้ยเจอ 4 โครงการตั้งราคากลางสูงกว่าประมูลจริงร้อยล้าน ยันเอกชนที่ประมูลราคาต่ำกว่าราคากลาง ราชการได้ประโยชน์ ทำตามหลักเกณฑ์ ครม.-กรมบัญชีกลางเคร่งครัด สำนักงบฯไฟเขียวแล้ว ทุกอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อช่วงวันที่ 1 ม.ค.-30 พ.ย. 2559 กรมชลประทานจัดทำโครงการก่อสร้างโดยการประกวดราคาแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) มีอย่างน้อย 4 โครงการ ที่มีการตั้งราคากลางไว้สูงกว่าราคาที่เอกชนผู้ชนะการประมูลเสนอจริง ประมาณร้อยล้านบาทขึ้นไปนั้น
(อ่านประกอบ : เปิด 4 โครงการกรมชลฯตั้งราคากลางสูงกว่าราคาเอกชนประมูลหลายร้อยล.?)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า กรมชลประทานทำหนังสือชี้แจงกรณีดังกล่าว ลงนามโดยนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า การจัดทำราคากลางของงานก่อสร้างของกรมชลประทานนั้น คณะกรรมการกำหนดราคากลางได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์การคิดคำนวณราคากลางงานก่อสร้างของทางราชการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2555 และหลักเกณฑ์ที่กรมบัญชีกลางกำหนดอย่างเคร่งครัด จึงเป็นราคาที่ถูกต้องตามกรอบ ระเบียบของทางราชการแล้ว
ทั้งนี้การจัดซื้อจัดจ้างของกรมชลประทานที่มีวงเงินเกิน 2 ล้านบาท ได้ดำเนินการด้วยวิธีการ e-Bidding ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 3 ก.พ. 2558 และตามหลักเกณฑ์ที่กรมบัญชีกลางกำหนด ซึ่งเป็นวิธีการที่ส่วนราชการต้องดำเนินการผ่านระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ โดยการประกวดราคาทุกโครงการ ผู้เสนอราคาต้องเสนอราคาทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ควบคุม กำกับ ดูแล โดยกรมบัญชีกลาง การจัดซื้อจัดจ้างของกรมชลประทานจึงเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้
ส่วนการประกวดราคาทั้ง 4 โครงการตามที่ระบุในรายงานของสำนักข่าวอิศรานั้น ได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบราคาค่าก่อสร้างจากสำนักงบประมาณแล้ว กรมชลประทานจึงได้ประกาศชื่อผู้ชนะการเสนอราคาในเวลาต่อมา ในส่วนของการที่ผู้ชนะการเสนอราคาประมูลได้ในวงเงินที่ต่ำกว่าราคากลางนับร้อยล้านบาทนั้น ถือว่าเป็นประโยชน์กับส่วนราชการเป็นอย่างมาก เพราะสามารถประหยัดงบประมาณ ทำให้นำงบประมาณส่วนที่เหลือไปใช้จ่ายด้านอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป
ส่วนกรณีการยกเลิกโครงการเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ 2 แห่ง วงเงินประมาณ 23.6 ล้านบาทนั้น คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ยกเลิกโครงการ และกรมชลประทานได้ดำเนินการส่งคืนเงินไปยังสำนักงบประมาณแล้ว จึงไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการแต่อย่างใด (ดูเอกสารประกอบ)
(อ่านประกอบ : เบื้องหลังกรมชลฯเลิก 2 โครงการ 23 ล.-สะท้อนผลงานจัดการน้ำยุค‘บิ๊กตู่’?, )