บ้านใหม่ของครอบครัวปอเนาะญิฮาด
บ้านชั้นเดียวหลังใหญ่บนเนื้อที่ 1 ไร่หลังนี้ คือบ้านหลังใหม่ของครอบครัวแวมะนอ หรือ ครอบครัวปอเนาะญิฮาด
วันนี้ของปีที่แล้ว (15 ธ.ค.58) ศาลแพ่งมีคำพิพากษาให้ที่ดิน 14 ไร่เศษใน ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนญิฮาดวิทยา หรือปอเนาะญิฮาด ตกเป็นของแผ่นดิน เพราะเชื่อว่าถูกใช้สนับสนุนการก่อการร้าย
คดียังไม่ถึงที่สุด แต่ครอบครัวปอเนาะญิฮาดซึ่งใช้ชีวิตอยู่บนที่ดินผืนเดียวกันนี้ตัดสินใจไม่ยื่นอุทธรณ์ และย้ายออกจากที่ดินท่ามกลางความมึนงงของเจ้าหน้าที่รัฐที่พยายามให้ความช่วยเหลือ
พวกเขาเก็บข้าวของไปอาศัยห้องเรียนตากีดาของมัสยิดบ้านท่าด่าน ต.ตะโละกาโปร์ เป็นที่หลับนอน กระทั่งเกิดกระแสของความสงสารและเห็นใจ จึงมีการระดมทุนช่วยเหลือเพื่อซื้อที่ดินแปลงใหม่สำหรับสร้างบ้านและโรงเรียน
บ้านใหม่ตั้งอยู่ใกล้กับมัสยิดท่าด่าน ใช้งบประมาณก่อสร้างไปเพียง 500,00 บาท เพราะค่าแรงทั้งหมดมาจากความช่วยเหลือของพี่น้องมุสลิมหลากหลายอาชีพ
“ตอนนี้บ้านเสร็จไปแล้วเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ มี 3 ห้องนอน สำหรับ 3 ครอบครัว สมาชิกในบ้านมีทั้งหมด 14 คน ผู้ใหญ่ 6 คน เด็ก 8 คน ส่วนที่เหลือกำลังเร่งให้เสร็จเร็วที่สุด เพราะช่วงนี้เป็นฤดูฝน ห้องเรียนตาดีกาของมัสยิดท่าด่านที่เราอาศัยมากว่า 9 เดือน เมื่อฝนตกหนักน้ำจะเข้า สงสารทุกคนในบ้าน ที่สำคัญคือเด็กนักเรียนไม่ได้ใช้ห้องเรียนมานาน ต้องเข้าไปเรียนในมัสยิด”
เป็นเสียงจาก บัลยาน แวมะนอ ทายาทปอเนาะญิฮาด ลูกชายของ ดูนเลาะ แวมะนอ อดีตครูใหญ่ ที่บอกเล่าความคืบหน้าและความจำเป็นในการเร่งสร้างบ้านให้เสร็จ พร้อมเผยว่าที่ดินจำนวน 1 ไร่นี้ได้ขอซื้อจากเพื่อนบ้านในราคา 100,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่หาซื้อไม่ได้ตามปกติ หากแต่เป็นน้ำใจของเพื่อนบ้านที่อยากให้พวกเขาได้มีบ้านเป็นของตนเอง จึงขายในราคาเหมือนให้เปล่า
“ที่ดินตรงนี้เป็นเจ้าของเดียวกับที่ดินที่กำลังสร้างอาคารปอเนาะ ตอนบอกว่าจะขอซื้อที่ดิน เขาบอกว่าให้ใช้ได้ เพราะอยากให้อยู่ใกล้มัสยิดและเป็นอิหม่ามด้วย เมื่อบอกว่าจะขอซื้อจริงๆ เขาก็บอกว่าให้เท่าไหร่ก็ได้ จึงให้เขาไป 1 แสน เป็นเงินที่เก็บมาจากช่วงที่มีคนมาเยี่ยมตอนเกิดเหตุการณ์ (แพ้คดีในศาลแพ่ง ศาลสั่งยึดที่ดินโรงเรียนญิฮาดวิทยาตกเป็นของแผ่นดิน) และเงินจากงานกินข้าวยำรวมกัน”
บ้านชั้นเดียวหลังนี้ เริ่มลงเสาก่อสร้างตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มีชาวบ้าน ศิษย์เก่า นักศึกษาจากสถาบันต่างๆ หมุนเวียนกันมาช่วยลงแรงก่อสร้างมาตลอดด้วยความเต็มใจ หากรวมเวลาสร้างบ้านจริงๆ ที่ทำทุกวันเพียงประมาณ 3 เดือนกว่า ซึ่งเป็นเวลาที่เร็วมาก ขณะที่วัสดุ เช่น ปูน ประตู กรอบหน้าต่าง ก็ได้รับบริจาคทั้งสิ้น สิ่งที่ต้องซื้อเองมีเพียงกระเบื้อง และเหล็กโครงสร้าง บางคนที่มาช่วยยังชวนเพื่อนที่เป็นช่างมาด้วย บ้านหลังนี้จึงมีนายช่างมาร่วมสร้างกว่าร้อยคน
“บ้านหลังนี้ใหญ่กว่าบ้านไม้เก่าของพวกเราที่ปอเนาะญิฮาด จึงถือว่าช่วยเยียวยาได้ในระดับหนึ่ง แต่เทียบความรู้สึกและความอบอุ่นกันไม่ได้เลย เมื่อผ่านไปทางบ้านเดิม ความรู้สึกเดิมก็กลับมา ตอนนี้หญ้าและวัชพืชขึ้นเต็มปอเนาะ เพราะไม่มีใครดูแล” บัลยาน เล่าถึงโรงเรียนญิฮาดวิทยา หรือ ปอเนาะญิฮาด ซึ่งอยู่ไม่ห่างกันนัก และมีบ้านของเขากับครอบครัวอยู่ในนั้น โดยตัวเขาเองก็อยู่มาตั้งแต่เกิด
ส่วนการใช้สถานที่ของโรงเรียนที่ศาลแพ่งสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดิน บัลยาน บอกว่า มีข้อเสนอจากทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีให้ชาวบ้านเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ แต่ชาวบ้านไม่กล้า เพราะกลัวโดนเพ่งเล็งจากเจ้าหน้าที่ และมีพื้นที่อื่นที่จะใช้ประโยชน์แล้ว
“ในทางคดีรัฐสามารถยึดได้ แต่ในทางความรู้สึก เราจะไปใช้ที่ดินที่เจ้าของไม่เต็มใจให้ได้อย่างไร รัฐกำลังเริ่มโครงการหลายอย่างในพื้นที่นี้ เช่น นำคนพุทธกลับเข้ามาอยู่ในชุมชน ซึ่งเมื่อก่อนมีเป็นสิบครอบครัว อยู่ใกล้กับปอเนาะ ตอนนี้เหลือเพียงครอบครัวเดียว ย้ายออกไปเกือบหมด เจ้าหน้าที่เข้าไปซ่อมบ้านให้เพื่อให้พวกเขากลับมาอยู่เหมือนเดิม เจ้าหน้าที่มาถามว่ามีความเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้ ก็บอกเขาว่าเป็นเรื่องดีที่เขาจะกลับมาอยู่ในบ้านของตัวเอง เราเป็นเพื่อนบ้านกันมานาน แต่เรื่องความปลอดภัยไม่มีใครรับรองได้ ผมเองก็รับรองไม่ได้ เรื่องนี้จึงเป็นประเด็นใหญ่กว่า”
บัลยานยังฝากถึงทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือ...
“ขอขอบคุณทุกคน ทุกกำลังกายและกำลังใจที่ช่วยเหลือทุกด้านแก่ครอบครัวเราจนสามารถอยู่ได้ มีบ้านเป็นของตัวเอง สองปีกว่ามานี้ได้เพาะเลี้ยงลูกปลาทับทิมในกระชังไว้ขายเป็นรายได้หลัก ภรรยากับพี่สาวได้ออกไปขายอาหารและก๋วยเตี๋ยวตามตลาดนัดใกล้บ้านเพื่อหารายได้เข้าบ้านอีกทางหนึ่ง ครอบครัวเรามี 3 คนเป็นกำลังหลัก เพราะมีสมาชิกในบ้านจำนวนมาก”
กับข้อกังวลของบางฝ่ายเรื่องเงินบริจาคนั้น บัลยาน บอกว่า พร้อมให้ตรวจสอบได้เสมอ เนื่องจากเขาไม่มีสิทธิ์ใดๆ ในเงินก้อนนี้ ทุกอย่างอยู่ที่คณะกรรมการ
“ขอชี้แจงเรื่องการเร่งสร้างบ้านให้เสร็จก่อน เพราะมีความจำเป็น จากการไปอาศัยห้องเรียนตาดีกาที่มัสยิดมานาน ทำให้เด็กไม่ได้เรียนในห้องเรียน มีการปล่อยข่าวมาว่าเอาเงินของโรงเรียนมาสร้างบ้าน ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ไปแตะเงินตรงนั้นเลย ผมไม่มีสิทธิ์ไปเบิกเงิน ผู้นำชุมขนก็ได้ชี้แจงแล้วว่าเงินยังอยู่ ผมก็ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊คว่าใช้จ่ายไปอย่างไร ผมใช้ได้เฉพาะส่วนที่เขาให้มาเท่านั้น คือประมาณ 5 แสนบาทในการสร้างบ้าน”
“ส่วนอาคารปอเนาะก่อสร้างไปแล้วประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ กำลังขึ้นคานชั้น 2 แต่ช่วงนี้ฝนตกเกือบทุกวัน จึงรอให้ฝนหยุดแล้วทำต่อ นักศึกษาจาก ม.อ.หาดใหญ่ (มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่) ทีมสุดท้ายที่มาช่วยเพิ่งออกไปก่อนฝนจะตก ทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ว่าใช้จ่ายอะไรไปบ้าง”
สำหรับรูปแบบของปอเนาะใหม่ บัลยาน บอกว่า เป็นปอเนาะโมเดิร์น บูรณาการหลายส่วนเข้าด้วยกัน เป็นอาคารเอนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายกิจกรรม สอนอัลกุรอานผู้ใหญ่ สอนกีรออาตี สอนเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐาน และกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งเป็นการทำงานที่เปิดเผย ตรวจสอบได้
ครอบครัวแวมะนอ ทำบุญขึ้นบ้านใหม่เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. เพื่อว่าหากเกิดน้ำท่วมห้องเรียนที่อาศัยอยู่ จะได้เข้ามาอยู่ในบ้านใหม่
ชีวิตของครอบครัวแวมะนอจะเป็นเช่นไรต่อจากนี้ คงอยู่ในสายตาของเจ้าหน้าที่และอีกมากมาย...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 และ 2 บัลยานกับบ้านใหม่
3 และ 4 สถานที่ก่อสร้างปอเนาะ
อ่านประกอบ :
1 เยือน "ปอเนาะญิฮาด" เรื่องราวที่มากกว่าข่าวอายัดที่ดิน
2 "ลูกชายดูนเลาะ"รับไม่ได้ หลังศาลแพ่งสั่งริบที่ดิน"ปอเนาะญิฮาด"อ้างโยงก่อการร้าย
3 พลิกกฎหมายฟอกเงิน ค้นเหตุผลศาลสั่งริบที่ดิน "ปอเนาะญิฮาด"
4 "ชาวบ้าน-รัฐ"ยื่นมือช่วยครอบครัวแวมะนอ หลังปอเนาะญิฮาดถูกยึด
5 "ที่ดินของครอบครัว แต่รร.เป็นของชุมชน" จุดยืนก่อนอุทธรณ์คดีปอเนาะญิฮาด
6 ครอบครัวแวมะนอตัดสินใจไม่ยื่นอุทธรณ์ เก็บของย้ายออกจากปอเนาะญิฮาด!
7 ฟัง "อัยการ – ฝ่ายคัดค้าน – ลูกดูนเลาะ" แจงปมปอเนาะญิฮาด
8 แห่เซลฟี่ปอเนาะญิฮาด ชาวบ้านสมทบทุน 1.4 ล้านซื้อที่ดินใหม่
9 จ่อลงเสาปอเนาะญิฮาดแห่งใหม่ – ลูกชายดูนเลาะปัดร่วมวงรัฐตั้ง 2 ทีมแก้ปัญหา