เปิดคำให้การ ผจก.แบงก์ มัด‘นายกราชบุรี’ โทร.นัดถอนเงินสด 20 ล.บัญชี‘นอมินี’
ละเอียดยิบ! คำให้การ ผจก.แบงก์ คดีทุจริตจัดซื้อที่ดินทิ้งขยะเทศบาลราชบุรี 30.5 ล. น้องชายนายกฯพา ‘นอมินี’เปิดบัญชี ‘ศมานันท์’โทร.ขอเบิกสด 20 ล. เงินไม่พอ ขอจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็คก็ไม่ยอม ศาลระบุชัดพฤติการณ์“ร้ายแรง” ไม่มีเหตุสมควรรอลงโทษจำเลยที่ 8
กรณีทุจริตจัดซื้อที่ดินทิ้งขยะของเทศบาลเมืองราชบุรี วงเงิน 30.5 ล้านบาท ตามที่ศาลจังหวัดราชบุบรี พิพากษาจำคุก นางศมานันท์ เหล่าวณิชวิศิษฎ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี กับพวกรวม 9 คน เป็นเวลาคนละ 4-6 ปี เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2556 (คดีหมายเลขแดงที่ 1402/2556) ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืน เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2557 (คดีหมายเลขแดงที่ 798/2557)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานแล้วว่า พฤติการณ์การทุจริตจัดซื้อที่ดินเพื่อทิ้งขยะของเทศบาลเมืองราชบุรี เป็นการร่วมมือระหว่างเอกชน เจ้าหน้าที่รัฐ และ นักการเมืองในท้องถิ้น ทำเป็นขบวนการ ตั้งแต่กระบวนการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ การอุปโลกน์ตัวละครเป็นผู้ขายที่ดินให้แก่เทศบาล การจัดทำเอกสารเท็จเพื่อจัดซื้อในราคาสูงกว่าปกติ การเปิดบัญชีเพื่อเบิกจ่ายเงิน โดยเกิดความเสียหายที่เกิดจากการทุจริตประมาณ 20 ล้านบาท (อ่านประกอบ :5 กลโกง คดีซื้อที่ดินทิ้งขยะราชบุรี 30.5 ล.! ‘นายตี๋’อุปโลกน์‘คนขาย’- ปั้นราคาเท็จ)
ครานี้มาดู เหตุการณ์ในวันเบิกจ่ายเงินค่าที่ดิน ซึ่งสำนักข่าวอิศราเรียบเรียงจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
@ ผจก.แบงก์แฉ ‘ศมานันท์’ โทร.ขอเบิกสด 20 ล.
เมื่อจำเลยที่ 1 (นางศมานันท์ เหล่าวณิชวิศิษฎ) อนุมัติให้ซื้อที่ดินตามที่จำเลยที่ 3 ถึงที่ 9 เสนอ (คณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ) และเทศบาลเมืองราชบุรีทำนิติกรรมรับโอนที่ดินในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2549 แล้ว เหตุการณ์หลังจากนั้นข้อเท็จจริงได้ความจากรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประกอบพยานโจทก์ที่นำสืบประกอบการไต่สวนคือนางอโณทัย สิทธิสาริบุตร พนักงานของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาราชบุรี
จำเลยที่ 2 (นายพิทยา อังกูรจารุชัย หรือนายตี๋) เป็นคนนำเช็ค ไปเข้าบัญชีเงินฝากของนางเล็ก รักพงษ์ไทย (ผู้ขายที่ดินและผู้รับมอบอำนาจจากผู้ขายอื่นอีก 6 แปลง รวมเป็น 7 แปลง) โดยนำมาฝากที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาราชบุรี เป็นเช็คที่เทศบาลเมืองราชบุรี สั่งจ่ายเงิน 28,500,00 บาท เพื่อชำระค่าซื้อที่ดินให้แก่นางเล็ก ดังนั้นในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2549 จึงมีเงิน 28,500,000 บาท เพื่อชำระซื้อที่ดินให้แก่นางเล็ก
และได้ความจาก นางอรพิน ธนิกกุล ซึ่งเป็นผู้จัดการสาขา และนางกัญจน์ณิศา สุขคันธรักษ์ ซึ่งทำงานอยู่ที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาศรีสุริยวงศ์ว่า ในวันเดียวกันนั้นเวลา 9 นาฬิกา จำเลยที่ 1 โทรศัพท์มาหานางอรพินว่า เทศบาลเมืองราชบุรีจะซื้อที่ดินเพื่อใช้เป็นที่กำจัดขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลจึงขอเบิกเงินสด 20,000,000 บาท จากธนาคารเพื่อนำไปชำระค่าที่ดินให้แก่เจ้าของที่ดิน แต่นางอรพินบอกจำเลยที่ 1 ว่า ขณะนั้นธนาคารมีเงินไม่พอจึงขอจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็คให้เจ้าของที่ดินแต่ละรายแทนเงินสด แต่จำเลยที่ 1 ไม่ยอม นางอรพินจึงให้จำเลยที่ 1 รอประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วค่อยมารับเงินที่ธนาคาร
ต่อมา เวลาประมาณ 12 นาฬิกา จำเลยที่ 1 กับพวกมาที่ธนาคารและได้นำใบถอนเงินของธนาคารขอถอนเงินจากบัญชี 736-0-04319-0 ของนางเล็ก โดยใบถอนเงินดังกล่าวมีลายมือชื่อนางเล็กซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีลงชื่อเป็นผู้ถอนเงิน 20,000,000 บาท และลงชื่อเป็นผู้รับเงินเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับคำเบิกความของนางเล็กว่า จำเลยที่ 2 นำใบถอนเงินของธนาคารมาให้นางเล็กลงลายมือชื่อแต่ไม่ได้ระบุจำนวนเงินที่ถอนไว้
@ รุ่งขึ้นถอนอีก 8.5 ล. บัญชี ‘นอมินี’
ทางไต่สวนจึงได้ความว่า จำเลยที่ 1 เป็นคนถอนเงินจากธนาคารแล้วนำเงินไปชำระให้แก่เจ้าของที่ดินแต่ละคนที่บริเวณหน้าถ้ำเขาบิน และจากรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ บันทึกคำให้การของนางสุชาพร ชินะชัชวารัตน์ พนักงานธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาศรีสุริยวงศ์ ได้ความว่า วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2549 มีการถอนเงินอีก 8,500,000 บาท จากบัญชีของนางเล็ก
แต่จากรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการป้องการและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ บันทึกคำให้การของนางเล็กเอกสาร นางเล็กให้การว่า วันที่ 22 และ 23 กุมภาพันธ์ 2549 นางเล็กไม่ได้เดินทางไปเบิกถอนเงิน
@ พยานหลักฐานมัด นายกฯอยู่เบื้องหลัง-น้องชาย ‘มือไม้’
เมื่อประมวลเหตุการณ์และพยานหลักฐานที่เป็นพยานบุคคลและพยานเอกสารต่างๆ และที่ได้จากการไต่สวนแล้ว พยานหลักฐานต่างๆ มีน้ำหนักรับฟังได้อย่างหนักแน่นว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการจัดซื้อที่ดินรวม 7 แปลง ในราคาไร่ละ 150,000 บาท ที่สูงเกินราคาขายจริง โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นเลขานุการนายกเทศมนตรีและเป็นน้องชายจำเลยที่ 1 เป็นผู้ติดต่อดำเนินการให้นายหน้าติดต่อขอซื้อที่ดินและรวบรวมที่ดิน โดยการยกขึ้นหรือจัดให้นางเล็กเป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของที่ดินอีก 6 แปลง ทั้งที่นางเล็ก ไม่เคยรู้จักกับเจ้าของที่ดินรายอื่นๆ มาก่อน และจำเลยที่ 2 ยังได้พานางเล็กไปเปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาศรีสุริยวงศ์ เพื่อรอและรองรับการเรียกเก็บเงินตามเช็คที่เทศบาลเมืองราชบุรีออกให้นางเล็กเพื่อชำระค่าซื้อที่ดินดังกล่าว
และในวันที่จดทะเบียนซื้อขายที่ดิน จำเลยที่ 2 นำเช็คสั่งจ่ายเงิน 28,500,000 บาท ที่เทศบาลเมืองราชบุรีชำระค่าที่ดินไปเข้าบัญชีของนางเล็กโดยไปฝากเรียกเก็บที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาราชบุรี และในวันเดียวกัน จำเลยที่ 1 ที่ไปถอนเงินจากธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน) สาขาศรีสุริยวงศ์ โดยใช้ใบถอนเงินที่นางเล็กลงลายมือชื่อถอนเงินไว้ล่วงหน้า แล้วจำเลยที่ 1 นำเงินที่ถอนจากธนาคารไปชำระค่าที่ดินให้แก่เจ้าของที่ดินแต่ละรายในราคาไร่ละ 40,000 บาท และไร่ละ 45,000 บาท แล้วจำเลยที่ 1 กับพวก นำเงินส่วนเกินที่เหลือจากการชำระค่าที่ดินแก่เจ้าของที่ดินไปเป็นประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ จึงเป็นเหตุให้เทศบาลเมืองราชบุรีได้รับความเสียหาย ต้องใช้เงินของเทศบาลซื้อที่ดินทั้ง 7 แปลง ในราคาที่สูงเกินกว่าราคาขายที่แท้จริง โดยได้รับความร่วมมือจากจำเลยที่ 3 ถึงที่ 9 ที่จงใจละเลยไม่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2535 ข้อ 50 (6) และดำเนินการจัดซื้อที่ดินในลักษณะเอื้อให้มีการซื้อที่ดิน ที่มีราคาสูงเกินราคาขายจริง และจำเลยที่ 1 อนุมัติให้ซื้อที่ดินตามที่จำเลยที่ 3 ถึงที่ 9 เสนอ
จากการไต่สวนข้อเท็จจริงพยานหลักฐานฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยทั้งเก้าร่วมกันทุจริตในการจัดซื้อที่ดินเพื่อใช้เป็นที่กำจัดขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลในราคาที่สูงกว่าราคาขายจริง โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำตามขั้นตอนที่แต่ละคนได้รับมอบหมาย เป็นเหตุให้เทศบาลเมืองราชบุรีได้รับความเสียหาย จำเลยที่ 1 และที่ 3 ถึงที่ 7 เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ในการซื้อทรัพย์ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเกิดความเสียหายแก่เทศบาลจึงเป็นความผิดตามมาตรา 151
ส่วนจำเลยที่ 2 ไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ในการจัดซื้อ ส่วนจำเลยที่ 8 และที่ 9 ไม่ใช่เจ้าพนักงานจึงขาดคุณสมบัติเฉพาะตัวอันเป็นองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 151 การกระทำของจำเลยที่ 2 ที่ 8 และที่ 9 จึงเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 และที่ 3 ถึงที่ 7 จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อทรัพย์ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเกิดความเสียหายแก่เทศบาลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบด้วยมาตรา 89 การกระทำของจำเลยทั้งเก้าจึงเป็นการกระทำความผิดตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษ ศาลอุทธรณ์ภาค 7 เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยทั้งเก้าฟังไม่ขึ้น
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยที่ 8 ว่า มีเหตุสมควรลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษให้หรือไม่ เห็นว่า พฤติการณ์การกระทำผิดของจำเลยในคดีเป็นเรื่องทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมากต่อทางราชการ โทษจำคุกที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 8 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดมีกำหนด 4 ปี นั้น เหมาะสมแล้ว พฤติการณ์แห่งคดีในคดีนี้เป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะรอการลงโทษให้จำเลยที่ 8 อุทธรณ์ของจำเลยที่ 8 ฟังไม่ขึ้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
คดีนี้มีจำเลย 9 คน คือ นางศมานันท์ เหล่าวณิชวิศิษฎ (ที่ 1) นายพิทยา อังกูรจารุชัย (ที่ 2) นางโชติกา ติ๋วโวหาร (ที่ 3) นายเลิศชาย กาเหว่าลาย (ที่ 4) นายสงกรานต์ อินทร์จันทร์ (ที่ 5) นางริวรรณ โพธิ์ประสิทธิ์ (ที่ 6) นายวีระ ชูมณี (ที่ 7) นายสง่า จาบกับ (ที่ 8) และ นายเอกชัย เจียรอดิศักดิ์ (ที่ 9)
นายพิทยา อังกูรจารุชัย มีชื่อเล่นว่า ‘ตี๋’ เป็นน้องชายนางศมานันท์ และตำแหน่งเป็นเลขานุการนายกเทศมนตรี
จำเลยที่ 3-ที่ 7 เป็นคณะกรรมการจัดซื้อ รับราชการตำแหน่งต่าง ๆ กันอยู่ที่สำนักงานเทศบาลเมืองราชบุรี นายสง่า จาบกัน (ที่ 8) ประธานชุมชนทิพย์นิเวศน์ (เอกชน) และ นายเอกชัย เจียรอดิศักดิ์ (ที่ 9) ประธานชุมชนราษฎรยินดี (เอกชน)
กล่าวสำหรับ นางศมานันท์ นอกจากถูกพิพากษจำคุก 6 ปีในคดีนี้แล้ว ต่อมา เมื่อ 28 เม.ย. 2559 ศาลฎีกาฯ พิพากษา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีครั้งที่ 2 วันที่ 27 ต.ค. 2553 ความผิดและต้องรับโทษ
1.ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 26 ก.ย. 2557
2.พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองราชบุรีที่ดำรงอยู่ปัจจุบันในวันที่ 28 เม.ย. 2559
3.จำคุก 2 เดือน และปรับ 10,000 บาท ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษมีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม 27/2559)
อ่านประกอบ :
5 กลโกง คดีซื้อที่ดินทิ้งขยะราชบุรี 30.5 ล.! ‘นายตี๋’อุปโลกน์‘คนขาย’- ปั้นราคาเท็จ
เปิดคำพิพากษาคดีทุจริตซื้อที่ดินทิ้งขยะ!‘นายกราชบุรี’เบิกเงินสด 20 ล.ด้วยตัวเอง
ไขปมทุจริตจัดซื้อที่ดินทิ้งขยะเมืองราชบุรีแพงเกินจริง ฟัน 'ส่วนต่าง' 20 ล้าน
เจาะคดี ‘ศมานันท์’นายกราชบุรี‘ซุกทรัพย์สิน-ทุจริตซื้อที่ดิน’ ปิดฉากที่ศาลฎีกา?
เปิดขุมธุรกิจ ‘ศมานันท์’ นายกราชบุรี เจ้าของรับเหมา ฟันงานรัฐ 28 สัญญา 144 ล.
ซุกเงินฝาก 60 บัญชี ที่ดิน 56 แปลง! นายกเมืองราชบุรียื่น ป.ป.ช.มีทรัพย์สิน 340 ล.
ศาลฎีกาฯ ฟัน 7 นักการเมืองท้องถิ่น‘ไม่ยื่นบัญชีฯ-ซุกหนี้’3 แสน-4 คนพ้นตำแหน่งทันที
มาช้าหรือมั่ว? ม.44 พักงาน‘นายกราชบุรี’ หลังศาลฎีกาฯฟันซุกบัญชีฯ 2 เดือนก่อน
เผยหนังสือ สตง.ชง ศอตช.ใช้ ม.44 พักงานนายกฯราชบุรีปมซื้อที่ดิน-จ้าง บ.กำจัดขยะ
เจาะราชบุรี 'เทศบาลเมือง'ยุค'เจ๊หงส์' ผูกจ้างรายเดียวเก็บขยะ 7 ปีซ้อน 70 ล้าน
เทศบาล‘ราชบุรี’ใช้เงินจัดอีเวนท์ ‘ไชน่าทาวน์’ 6 ปี 42.2 ล.-บ.เดียวฟัน 20.1 ล.
เผยชื่อ 23 นักการเมือง ลุ้นศาลฎีกาฯ คดีซุกทรัพย์สิน-‘เจ๊หงส์’นายกราชบุรีด้วย