พล.อ.ประยุทธ์ : “ผมไม่เคยคิดทุจริต ไม่เคยต้องการเงินซักสลึง”
“…ต้องลบล้างการทุจริต แต่การทุจริตไม่ใช่อะไรก็ทุจริต ยังไม่ได้เริ่มก็ทุจริตแล้ว มีหรือไม่ความคิดทุจริต ผิดหรือไม่ ผมไม่เคยคิดแบบนั้น ไม่เคยต้องการเงินซักสลึง…”
หมายเหตุ : สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าว ในฐานะประธานในพิธีกิจกรรมวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล (ประเทศไทย) ที่จัดโดยรัฐบาล สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาครัฐวิสาหกิจเอกชน และภาคประชาชน
----
|
องค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็นวันสำคัญเพื่อความร้ายแรงของการคอร์รัปชั่น ต้องการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกัน ต้องพูดกันต่อว่าต่อต้านอย่างไร สิ่งเหล่านี้มองไม่เห็นตัว วันนี้ต้องใช้หลายอย่างประกอบกันในการแก้ไข เนื่องจากปัญหาประเทศไทยสั่งสมมานานในเรื่องทุจริต ไม่ใช่แค่ในไทย แต่ในฐานะผู้นำประเทศ ต้องคำนึงศักดิ์ศรี ทั้งนี้ไม่ว่าที่ไหนส่วนดีก็มี ส่วนไม่ดีก็มี อยู่ที่ว่าแสดงออกอย่างไร ทำดีได้แค่ไหน อยู่ที่พวกเราทำ
“คอร์รัปชั่นคือศัตรูร้ายพัฒนาประเทศ ใช้จ่ายงบประมาณ บริหารล้มเหลว ผลประโยชน์ทางด้านทุจริต ผลที่ตามไม่ได้มีแค่รายได้ รายจ่ายที่สูญเสีย แต่สูญเสียด้านเศรษฐกิจสังคม การเมือง การศึกษา หลายอย่างที่เป็นกิจกรรมทั้งหมด ถ้ามีการคอร์รัปชั่น ทั้งหมดรายได้ รายจ่าย แผนงาน โครงการจะไม่เกิดความต่อเนื่อง และไม่กลับไปสู่ประชาชน เราคำนึงประชาชนเป็นศูนย์กลาง เหมือนกับวิสัยทัศน์ชาติที่ต้องการให้ไทยเป็นอย่างไร จะมีนโยบายอย่างไร แผนแม่บทอย่างไรในการทำงาน แผนประชาสัมพันธ์อย่างไร ถึงตอบโจทย์ว่า มียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีต่อไป มีเรื่องสำคัญในนั้น ต้องมีการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง ที่ทำมาดีอยู่แล้ว”
ทุกคนทราบดีว่าอะไรคือผลเสีย แต่ก็ยังแก้ไม่ได้มากนัก เพราะต้องมองข้อเท็จจริงว่า คนไทยมี 70 ล้านคน มีคนรวย คนชั้นกลาง คนจน เท่าไหร่ แต่ละส่วนเขาเจริญเติบโตด้วยรายได้ที่ต่างกัน ถ้ามาดูอีกฝั่งหนึ่ง การเจริญเติบโตบ้านเมือง เทคโนโลยี ที่แพง แล้ว 2 ข้างจะสมดุลกันได้อย่างไร จะสมดุลกันได้คือการพอเพียง ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ปัญหาคือทำอย่างไรถึงไม่ไปร่วมมือกับการทุจริต ทำอย่างไรให้ครอบครัวอยู่ได้ มีรายได้สูงขึ้น เพื่อใช้ของที่ดีขึ้น ถ้ายังคงอยู่แบบเดิม มีการพัฒนาประเทศแบบเดิม มีการช่วยเหลือแบบเดิม ไม่มีทางเป็นไปได้ วันนี้รัฐบาลทำทุกอย่างเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน คนอิสระทั่วไปก็ช่วย แต่คนเสียภาษีบอกไม่ควรให้ ถามว่า นี่คนไทยหรือเปล่า ไม่ช่วยเขาแล้วใครจะช่วย ใช่หรือไม่ นึกถึงสมัยก่อนไม่มีใครเคยนึกถึง ช่วยเกษตรกรก่อนเดือดร้อน ต่อไปช่วยอาชีพอิสระ วันหน้านำไปสู่การหาเงินป้อนผู้มีรายได้น้อย แล้วนำไปสู่การเสียภาษีได้ในอนาคต เป็นหลักเศรษฐศาสตร์ของโลก มีผลสัมฤทธิ์ที่ทำแล้ว แต่ยังไปไม่ถึงขนาดนั้น
“ลองเปิดเว็บไซต์ หรือยูทูป (Youtube) หาคนดีไม่ได้เลย คนสุจริตอยู่ไหนยังไม่รู้เลย คือผิดทุกคน รัฐบาลก็ผิด ผมก็ผิด นโยบายยังไม่ได้ใช้เลย แค่ประกาศนโยบายก็หาว่าทุจริตแล้ว แล้วคอยฟังว่าชื่อเหมือนๆ หรือคล้าย ๆ กัน ต่างกันตรงไหน วิธีการทำ รั่วไหลตรงไหน ถ้าจะสอบทุจริตไปหาตรงโน้น อย่าเอาสิ่งเก่ามาเปรียบกับการทำวันนี้ ฝากหน่วยตรวจสอบด้วย เพราะรัฐบาลไม่ได้เดินหน้าเพื่อคอร์รัปชั่นเอง ไม่มี ไม่ต้องการให้มีคอร์รัปชั่น ถ้ามีใครโกงรายงานมา สอบเอาให้ติดคุกให้ได้ อย่าให้ใครอ้างว่า อ้างผม อ้างรองนายกฯ ถ้ามีเอาชื่อออกมา อย่าลืมว่าโจรก็คือโจร”
เมื่อดำเนินอะไรไม่ได้ การออกกฏหมายอะไรต่าง ๆ ปฏิบัติไม่ได้ ก็ล้มเหลวทั้งหมด วันนี้นอกจากทำภายในหน่วยงานแล้ว ต้องเน้นการมีส่วนร่วมภาคสังคมมากขึ้น แต่จะดูแลตรงไหน ขั้นไหน ถ้ามีการต่อต้านตั้งแต่ตรงนี้ งั้นก็ไม่ต้องมีรัฐบาล ในเมื่อไว้วางใจรัฐบาล ก็ต้องคิดกำหนดนโยบาย ตอนนี้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แต่ใครจะทำไม่ทำ ผมไม่รู้ แต่ถ้าไม่เขียนไว้เลย มันก็จะเกิดอะไรที่เคยเกิดมาตลอด
“ถ้าจะแก้สิ่งไม่สมบูรณ์ทำให้ถูกต้อง ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้ว รัฐบาลนี้ไม่เคยทอดทิ้ง เช่น รถไฟฟ้าทำขาดไป 1 กิโลเมตรทำไม่เสร็จ ไม่รู้ ให้ทำตั้งแต่ 2 ปีแล้ว กฏหมายทุกฉบับ ทำไมถึงติดขัด ก็ไปหากันมาให้เจอ พอจะให้ผมทุบลงไป ยอมหรือไม่ ทำให้ 1 กิโลเมตรต่อได้ทันที เอาหรือเปล่า บางอย่างต้องใช้อำนาจผม แต่พอใช้บอกเอื้อประโยชน์ แล้วจะให้ใครทำ จะเปิดประมูลใหม่ก็อีกยาว ผมไปก็ยังไม่เสร็จเหมือนเดิม”
“ต้องลบล้างการทุจริต แต่การทุจริตไม่ใช่อะไรก็ทุจริต ยังไม่ได้เริ่มก็ทุจริตแล้ว มีหรือไม่ความคิดทุจริต ผิดหรือไม่ ผมไม่เคยคิดแบบนั้น ไม่เคยต้องการเงินซักสลึง”