'วัชรพล'ลงแส้! ผอ.จังหวัด-สำนักเร่งคดีค้าง ป.ป.ช.ทำไม่ได้ตามเป้าโดนเด้ง
ปธ.ป.ป.ช. มอบนโยบาย ผอ.สำนัก-ป.ป.ช.จังหวัด วางแผนป้อง-ปรามทุจริตปี’60 ลั่นหากทำคดีไม่เสร็จภายใน 2 ปี อาจถูกย้ายไปทำตำแหน่งอื่น ไต่สวนอย่างเดียว อดบริหาร
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2559 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นัดประชุมผู้บริหารระดับสูง ผอ.สำนักต่าง ๆ ของส่วนกลาง และ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อมอบนโยบายในการปฏิบัติหน้าที่ และเร่งรัดการทำงานในส่วนของการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และการวางแผนการทำงานในปี 2560
แหล่งข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า ในวันดังกล่าว พล.ต.อ.วัชรพล ได้ประเมินผลการทำงานของสำนักงาน ป.ป.ช. เกี่ยวกับคดีต่าง ๆ ที่ผ่านมาในปี 2559 โดยพบว่า มีคดีที่เข้าสู่การพิจารณาลงมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ประมาณ 300 กว่าคดี จากทั้งหมดที่มีการสรุป 500 คดี และมีคดีในชั้นไต่สวนเหลืออยู่ประมาณ 2 พันกว่าคดี ซึ่งในส่วนของปี 2560 นั้น ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องการให้มีการสรุปคดีเพิ่มขึ้นเป็น 900 คดี เพื่อนำเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติอย่างน้อยที่สุดประมาณ 500 คดี เพื่อให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ฉบับที่ 4 ซึ่งลงนามกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไว้แล้ว
แหล่งข่าว ระบุอีกว่า ทั้งนี้ พล.ต.อ.วัชรพล ได้พูดในที่ประชุมอย่างชัดเจนว่า ต้องการให้การทำคดีของสำนักงาน ป.ป.ช. ไม่ว่าจะเป็นส่วนกลาง หรือส่วนของ ป.ป.ช. ประจำจังหวัดต่าง ๆ ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว โดยตามแผนใหม่ใน พ.ร.บ.ป.ป.ช. ฉบับที่ 4 ที่ส่งให้กับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) พิจารณานั้น หากรับคดีมาแล้วต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ปี ดังนั้นคดีที่รับในช่วงปี 2559 จะต้องเสร็จภายในปี 2560 ส่วนคดีค้างเก่านั้นจะต้องรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี ทั้งนี้ภายใน 6 เดือน จะมีการประเมินแต่ละสำนัก และ ป.ป.ช. ประจำจังหวัด หากสำนักไหน หรือ ป.ป.ช. จังหวัดใด ดำเนินการไม่สำเร็จตามเป้าหมาย หรือนโยบายที่มอบหมายไว้ อาจจะมีการพิจารณาโยกย้าย ผู้อำนวยการ หรือผู้บริหารของสำนักนั้น ๆ ให้ไปดำรงตำแหน่งอื่นที่เกี่ยวกับการไต่สวนอย่างเดียว แต่ไม่ให้บริหารงานแล้ว เพื่อเป็นการกระตุ้นให้แต่ละสำนักดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว และตรงกับเป้าหมายในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่ พล.ต.อ.วัชรพล วางไว้นับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช.
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก ฐานเศรษฐกิจ