เปิดตัว บ.'เบส อรพิมพ์'นักพูดดัง จดทะเบียนเลิกช่วงปี 58 ยังไม่เสร็จการชำระบัญชี
เปิดข้อมูลธุรกิจ 'เบส อรพิมพ์' นักพูดสาว พบเป็นกรรมการ-ผู้ถือหุ้นใหญ่บ. เบส มี เบส มายด์ ทุน 1 ล้าน แจ้งทำธุรกิจเป็นตัวแทนรับจัดงานทั่วไป แต่ไม่พบเคยคู่สัญญาหน่วยงานราชการ จดทะเบียนเลิกแล้วช่วงปี 58 ยังไม่ได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี
นางสาวอรพิมพ์ รักษาผล หรือ เบส อรพิมพ์ นักพูดสาว ที่กำลังตกเป็นข่าวดังอยู่ในขณะนี้ ปรากฎชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แต่ปัจจุบันจดทะเบียนเลิกบริษัทไปแล้ว และยังไม่เสร็จสิ้นการชำระบัญชี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า นางสาวอรพิมพ์ รักษาผล ปรากฎชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เบส มี เบส มายด์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2553 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 76/29 หมู่ที่ 4 ตำบลบางกร่าง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
แจ้งประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนรับจัดงานตามที่ประสงค์ทั้งหมด ให้บุคคล คณะบุคลคล นิติบุคคล ส่วนราชการ
มีกรรมการ 2 รายคือ น.ส.อรพิมพ์ รักษาผล, นายศุภณัฐ ขวัญสุวรณ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 20 พฤศจิกายน 2555 น.ส.อรพิมพ์ รักษาผล ถือหุ้นใหญ่สุด 6,666 หุ้น มูลค่า 166,650 บาท นาย ศุภณัฐ ขวัญสุวรรณ ถืออยู่ 3,333 หุ้น มูลค่า 83,325 บาท นางสาว พิชชาภัทร์ ขจรพัฒน์วรกุล ถืออยู่ 1 หุ้น มูลค่า 25 บาท
เบื้องต้น บริษัทฯ ได้แจ้งจดทะเบียนเลิกบริษัท ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2558 และขณะนี้ยังไม่ได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบฐานข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานรัฐ ยังไม่พบว่า บริษัท เบส มี เบส มายด์ จำกัด เคยเข้าเป็นคู่สัญญารับว่าจ้างงานจากหน่วยงานราชการแต่อย่างใด
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ในช่วงกลางเดือน พ.ย. 2559 เบสท์-อรพิมพ์ เคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ไม่ได้ทำงานประจำ และเพิ่งทราบว่ามีชื่อติดเครดิตบูโร จากการที่ไปร่วมกับเพื่อนซื้ออาคารและถอนตัวออกมา คนที่รับช่วงอาจมีปัญหาในการผ่อนจึงทำให้ติดเครดิตบูโรและมีชื่อตนไปเกี่ยวข้องด้วย และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เจ้าหน้าที่กงสุลสหรัฐฯ ไม่อนุมัติวีซ่าเพื่อเดินทางไปพูดในสหรัฐฯ (อ้างอิงข่าวส่วนนี้จากhttp://deeps.tnews.co.th/)
ก่อนที่นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลการใช้จ่ายเงินของหน่วยงานในกองทัพ เพื่อยืนยันข้อมูลว่า มีการว่าจ้าง นางสาวอรพิมพ์ เข้าร่วมกิจกรรม และจ่ายค่าจ้างในอัตราครั้งละ 30,000 บาท จริงหรือไม่
เบื้องต้นภายหลังการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวสามารถสรุปข้อเท็จจริงได้ว่า มีหน่วยงานด้านการประชาสัมพันธ์ของกองทัพที่จัดกิจกรรม 4 ภูมิภาค ได้เชิญ นางสาวอรพิมพ์ มาร่วมกิจกรรมเรื่องการพูดจริง แต่ไม่ได้มีการจ่ายค่าตัวให้กับนางสาวอรพิมพ์ในอัตราครั้งละ 30,000 บาท แต่อย่างใด
"การเชิญนางสาวอรพิมพ์ มาร่วมกิจกรรมของหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของกองทัพดังกล่าว เจ้าหน้าที่รายงานว่า ไม่ได้มีการจ่ายเงินค่าตอบแทนให้ เป็นการเชิญมาร่วมในลักษณะจิตอาสา เพื่อพูด ซึ่งเนื้อหาสำคัญอยู่ที่การเทิดพระเกียรติรัชกาลที่ 9 ให้ผู้เข่าร่วมกิจกรรมได้รับฟัง ซึ่งนางสาวอรพิมพ์ ก็เดินทางไปร่วมด้วยจริง เพราะมีความตั้งใจอยากไปร่วมกิจกรรมนี้ด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมที่ปรากฎ เป็นค่าเดินทาง ค่าจัดเตรียมสถานที่ ค่าเครื่องดื่มอาหารว่าง แต่ไม่มีการจ่ายค่าตัวให้กับนางสาวอรพิมพ์แต่อย่างใด "
นายพิศิษฐ์ ยังระบุด้วยว่า สำหรับหน่วยงานที่มีการจัดงานและเชิญนางสาวอรพิมพ์ ไปพูดและปรากฎหลักฐานยืนยันว่ามีการจัดค่าตอบแทนให้กับวิทยากร เท่าที่ตรวจสอบพบในขณะนี้ คือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ส่วนค่าตัวที่จ่ายให้ก็อยู่ในเกณฑ์การว่าจ้างบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเรื่องการพูด ซึ่งระเบียบการจ่ายค่าตอบแทนวิทยากร เปิดช่องให้ทำได้ ขณะที่ตัวเลข 30,000 บาท ก็ถือว่าไม่สูงหากเปรียบเทียบกับอัตราว่าจ้างนักพูดชื่อดังซึ่งบางรายคิดค่าตัวเป็นหลักแสนบาท
( อ่านประกอบ : สตง.การันตีกองทัพไม่เคยจ่ายค่าตัว'เบส' 3 หมื่น-แค่ช่วยเป็นวิทยากร'จิตอาสา')
หมายเหตุ ภาพประกอบจาก tnews deeps