คำให้การลึก! คดีซื้อขายเก้าอี้ รพช. คนเดียวจ่ายยิบให้ ‘บิ๊ก’ 8 ครั้ง 28 ล้าน
เปิดเอกสารคำให้การ ‘คดีซื้อขายเก้าอี้ ร.พ.ช.’ อดีต ขรก. ผู้ร้องแฉละเอียดยิบจ่ายให้ ‘บิ๊ก’ คนเดียว 8 ครั้ง 28 ล้าน ผ่านนักธุรกิจเจ้าของร้านขายเครื่องจักร มีเช็คยืนยัน แต่ ป.ป.ช. ชี้มูลเฉพาะ 3 ล.
คดีนายทวี ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์เร่งรัดพัฒนาชนบทสกลนคร รักษาการผู้อำนวยการกองเจ้าหน้าที่ (ระดับ 9) สำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท (รพช.) เรียกรับเงินจำนวน 3 ล้านบาทจากนายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เร่งรัดพัฒนาชนบทขอนแก่น เพื่อช่วยเหลือมิให้นายประสิทธิ์ถูกโยกย้ายมารักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกอง ระดับ 8 ในส่วนกลาง เหตุเกิดวันที่ 18 มี.ค. 2540 ศาลอาญามีคำพิพากษามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 จำคุก 6 ปี ตามรายงานข่าวก่อนหน้านี้ (อ่านประกอบ : ศาลสั่งจำคุก 6 ปี ซี 9 รพช.รับเงินสด 3 ล.ค่าซื้อเก้าอี้ ผอ.ศูนย์ขอนแก่น ไม่ให้ถูกย้าย)
จุดเริ่มต้นคดี ในชั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ร้องคือ นายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์ ร้องเรียนกล่าวหา นายทวี ทวีวงศ์ ว่า กระทำความผิดฐานทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เรียกรับเงินจากนายประสิทธิ์ และข้าราชการอื่นในสังกัด สำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท ที่ประสงค์จะได้รับการแต่งตั้ง และโยกย้ายตำแหน่ง เพื่อช่วยเหลือให้ได้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว โดยมี นายประวิทย์ อริยกานนท์ เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2545 มี นายณัฏฐ์ ศรีวิหค กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการฯ และปรับเปลี่ยนคณะอนุกรรมการฯ อีกหลายครั้ง กระทั่ง ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงและคดีอาญาผู้ถูกกล่าวหา เพียงกรณีเดียว คือ เรียกรับเงินจากผู้ร้องเพื่อช่วยผู้ร้องไม่ต้องย้ายออกจากขอนแก่น จำนวน 3 ล้านบาท (18 มี.ค. 2540)
ส่วนกรณีกล่าวหา นายทวีเรียกและรับเงิน เพื่อช่วยให้เลื่อนตำแหน่งจากตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเร่งรัดพัฒนาชนบทขอนแก่น ระดับ 8 เป็นระดับ 9 เรียกและรับเงินจากข้าราชการอื่นเพื่อการโยกย้ายและเลื่อนตำแหน่ง โดยมี นายประวิทย์ อริยกานนท์ เป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือนายทวี นั้น ข้อกล่าวหานี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ ‘ไม่มีมูล’ ให้ข้อกล่าวหาตกไป
ที่น่าสนใจก็คือ ชั้นไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. เรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ อาทิ นายอารีย์ วงศ์อารยะ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเฉลิม พรหมเลิศ อดีตเลขาธิการ สำนักงาน ร.พ.ช. นายชัยสิทธิ์ โหตระกิตย์ รองเลขาฯ ร.พ.ช. นายทวี ทวีวงศ์ ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ นายประวิทย์ อริยกานนท์ (ผู้ถูกกล่าวหา) นายประสิทธิ์ ผู้ร้อง ข้าราชการระดับ 8 บางคนที่ถูกอ้างว่า จ่ายเงินซื้อตำแหน่ง เป็นต้น
รายนายประสิทธิ์ นั้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ได้ให้การต่อ คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. อย่างน้อย 3 ครั้ง โดยครั้งเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2555 ระบุว่า ได้จ่ายเงินให้ ‘ข้าราชการระดับสูงคนหนึ่ง’ (ขอปิดบังชื่อ) เพื่อช่วยเหลือให้เลื่อนตำแหน่งจากระดับ 8 เป็นระดับ 9 จำนวน 5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2539 จากวงเงินที่ถูกเรียก 10 ล้านบาท
ส่วนเงินที่นำไปจ่าย ‘ข้าราชการระดับสูงคนหนึ่ง’ เพื่อช่วยเหลือนายประสิทธิ์ ได้ดำรงตำแหน่งประจำอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการ รพช.ขอนแก่น ไม่ต้องย้ายไปประจำท้องที่อื่น จำนวน 7 ครั้ง ระหว่างเดือน มี.ค. 2538 - เม.ย. 2540 รวม 23 ล้านบาท จำแนกเป็น
ครั้งที่ 1 วันที่ 23 มี.ค. 2538 จำนวน 2 ล้านบาท จ่ายเงินสด โดยมอบให้ นายประดิษฐ์ วิไลลักษณ์ น้องชายไปมอบให้ที่ กรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท
ครั้งที่ 2 วันที่ 25 ก.ย. 2538 จำนวน 2 ล้านบาท มอบให้นายประดิษฐ์ วิไลลักษณ์ โอนเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนประชาสโมสร จ.ขอนแก่น เลขที่ 037-2-048xxx ของนักธุรกิจขายเครื่องจักรคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนของข้าราชการระดับสูงรายดังกล่าว
ครั้งที่ 3 วันที่ 17 พ.ย. 2538 จำนวน 1 ล้านบาท มอบให้ นายพิสิฐ หรือ คำน้อย โอนจากธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนหน้าเมือง จ.ขอนแก่น เข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทยสาขาถนนมหาไชย เลขที่ 037-2-048xxx ของนักธุรกิจซึ่งเป็นเพื่อนของข้าราชการระดับสูงรายดังกล่าว
ครั้งที่ 4 วันที่ 25 มี.ค. 2539 จำนวน 7 ล้านบาท นายประสิทธิ์มอบนายไพรินทร์ (ขอปิดสนามสกุล) นำเช็คไปเบิกเงินที่ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนมลิวัลย์ จ.ขอนแก่น แล้วซื้อแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายนักธุรกิจคนดังกล่าวที่ธนาคารกรุงไทย สาขาเยาวราช แล้วนักธุรกิจคนดังกล่าวนำไปเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขามหาไชย เลขที่ 037-2-048xxx
ครั้งที่ 5 วันที่ 7 พ.ค. 2539 จำนวน 5 ล้านบาท นายประสิทธิ์มอบนายไพรินทร์ (ขอปิดสนามสกุล) นำเช็คจำนวน 2 ฉบับ จำนวน 2,100,000 บาท และจำนวน 2,900,000 บาท ตามลำดับ ไปโอนที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนหน้าเมือง จ.ขอนแก่น เข้าบัญชีนักธุรกิจ ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนมหาไชย เลขที่ 037-2-048xxx
ครั้งที่ 6 วันที่ 1 ต.ค. 2539 จำนวน 3 ล้านบาท มอบให้ลูกน้องไปโอนที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนประชาสโมสร จ.ขอนแก่น เข้าบัญชีนักธุรกิจ ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนมหาไชย เลขที่ 037-2-048xxx
ครั้งที่ 7 เมื่อประมาณเดือนเมษายน 2540 จำนวน 3 ล้านบาท
(รวม 8 ครั้ง 28 ล้านบาท)
เงินที่นำไปจ่ายให้ 'ข้าราชการระดับสูง' คนดังกล่าว มาจากเงินเก็บส่วนตัวที่ได้มาก่อนรับราชการ และจากการใช้ความรู้ทางวิชาชีพวิศกรโยธา และวิศวกรโยธาพลังน้ำ ไปทำงานที่ประเทศลาวให้กับองค์การ United States Agency for International Development (USAID) ของสหรัฐฯ และเงินจากการขายที่ดินใน จ.ขอนแก่น ที่ซื้อไว้ระหว่างรับราชการ ระหว่างปี 2513-2523 และ 2533-2540
นอกจาก นายประสิทธิ์ ยังมีบุคคลอื่นอ้างว่า จ่ายเงินซื้อตำแหน่งผ่านนักธุรกิจและถูกสอบปากคำอีกหลายคน
อ่านประกอบ :
เปิดพฤติการณ์คดีสินบน 3 ล. ซี 9 รพช. เบิกเงินสดจากแบงก์ไปจ่ายถึงห้องทำงาน
ศาลสั่งจำคุก 6 ปี ซี 9 รพช.รับเงินสด 3 ล.ค่าซื้อเก้าอี้ ผอ.ศูนย์ขอนแก่น ไม่ให้ถูกย้าย