‘สุพจน์’รอลุ้น! ป.ป.ช.เตรียมชี้ขาดคดีเรียกรับสินบน สืบเนื่องจากรวยผิดปกติแล้ว
อดีตปลัดคมนาคม ‘สุพจน์’ รอลุ้น! อนุฯ ป.ป.ช. สรุปคดีเรียกรับสินบน สืบเนื่องจากกรณีรวยผิดปกติเรียบร้อยแล้ว ระบุตรวจเจอแค่เฉพาะเงินสดที่บ้าน ยึดคำพิพากษาศาลแพ่งเป็นหลัก ชงที่ประชุมชุดใหญ่ชี้ขาด เร็ว ๆ นี้
จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน และแจ้งข้อกล่าวหานายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคม ในคดีอาญา กรณีกระทำผิด หรือทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินจากผู้อื่นเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือผู้อื่น ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 149 ซึ่งกรณีนี้สืบเนื่องจากกรณีร่ำรวยผิดปกติ
(อ่านประกอบ :'สุพจน์'งานเข้า! ป.ป.ช.แจ้งข้อหาส่อทุจริต-เรียกรับเงินชนวนรวยผิดปกติแล้ว)
ล่าสุด แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า ปัจจุบันคณะอนุกรรมการไต่สวนได้สรุปผลการไต่สวนแล้ว โดยจากการไต่สวนสามารถสรุปจำนวนเงินทั้งหมดของนายสุพจน์ที่อาจเข้าข่ายเรียกรับสินบน ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 149 แล้ว โดยผลสรุปของคณะอนุกรรมการไต่สวนคือ จากการตรวจสอบทำได้แค่เฉพาะเงินสดที่เก็บไว้ในบ้านเท่านั้น ขณะที่เงินหรือทรัพย์สินส่วนอื่น ๆ ไม่ปรากฏข้อมูลว่าเกี่ยวข้อง ดังนั้นมูลค่าทรัพย์สินที่เรียกรับสินบนจึงเท่ากันกับที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เคยชี้มูลความผิดฐานร่ำรวยผิดปกติไว้ และศาลแพ่งเคยพิพากษายึดทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดินก่อนหน้านี้คือจำนวนประมาณ 46 ล้านบาท ปัจจุบันเตรียมนำเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาในเร็ว ๆ นี้
สำหรับประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการ หรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือประหารชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิดนายสุพจน์ไปแล้วเมื่อปี 2555 กรณีมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ เนื่องจากเมื่อปี 2554 มีโจรบุกปล้นบ้านนายสุพจน์ โดยหอบเงินสดไปกว่า 200 ล้านบาท อย่างไรก็ดีโจรให้ปากคำกับตำรวจว่า ภายในบ้านนายสุพจน์มีเงินสดอีกกว่า 700-1,000 ล้านบาท แต่นายสุพจน์ระบุว่า โจรได้แค่เงินค่าสินสอดงานแต่งงานลูกสาวเพียง 5 ล้านบาทเท่านั้น
หลังพบความผิดปกติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ตรวจค้นบ้านนายสุพจน์ พร้อมกับอายัดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ กระทั่งปี 2555 จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า นายสุพจน์ ร่ำรวยผิดปกติ และถูกยึดทรัพย์สินทั้งสิ้น 64,738,587 บาท และส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินการฟ้องศาลแพ่งเพื่อยึดทรัพย์สินคืนแก่แผ่นดิน
ต่อมาเดือน ม.ค. 2557 ศาลแพ่งจะมีคำพิพากษาให้ยึดทรัพย์สินรวม 19 รายการ มูลค่า 46,141,038 บาทของนายสุพจน์ ตกเป็นของแผ่นดิน ส่วนทรัพย์สินที่เหลือนายสุพจน์สามารถพิสูจน์ได้
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.แจ้งข้อหา“ธาริต”รวยผิดปกติ พ.ย.-“สุพจน์”จ่อโดนอาญาเรียกรับเงิน