ความยุติธรรมเที่ยงตรง ซื่อสัตย์สุจริต ส่งให้สังคมไทยสงบสุข
น้อมนำพระบรมราโชวาทมาใช้ในการดำเนินชีวิต
ตอนที่ 2 ความยุติธรรมเที่ยงตรง ซื่อสัตย์สุจริต ส่งให้สังคมไทยสงบสุข
จากพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดช ที่ไม่เคยล้าสมัยตามกาลเวลา ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2528 ที่ว่า “ความเจริญจะเกิดขึ้นได้ ย่อมต้องอาศัยเหตุปัจจัยประกอบกันหลายอย่าง นอกจากวิทยาการที่ดีแล้ว จะต้องอาศัยความยุติธรรมเที่ยงตรงและความสะอาดสุจริต ซึ่งต้องเป็นไปพร้อมทั้งในความคิดและการกระทำ”
พระบรมราโชวาทดังกล่าวนี้นับว่าทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง ดังจะเห็นได้จากความเจริญทางด้านวัตถุของประเทศที่มีความเจริญรุดหน้าไปด้วยอาคารตึกรามใหญ่โต แต่กลับเต็มไปด้วยสภาพปัญหาทางจิตใจและการขาดคุณธรรมจริยธรรมของคนในสังคมเป็นอย่างมาก โดยไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูก อะไรคือสิ่งที่ผิด คนใดเป็นคนดี คนใดเป็นคนเลว สภาพสังคมกลับสับสนวุ่นวายไปหมด มีแต่คำพูดที่ว่า เงินเท่านั้นที่จะบันดาลได้ทุกสิ่งทั้งอำนาจ และความสุขสบายต่างๆ คนในสังคมเต็มไปด้วยความขัดแย้ง เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้งมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม ยึดถือแต่ความคิดและอุดมการณ์ของตนเองและพรรคพวกโดยมิได้เห็นแก่ประโยชน์สุขโดยส่วนรวมของสังคมและประเทศชาติ ดังนั้นระบบทางการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ของประเทศไทย ปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่ามีความไม่มั่นคงสั่นคลอนอยู่ตลอดเวลา จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้กล่าวถึง ความยุติธรรมเที่ยงตรง ซื่อสัตย์สุจริต มาใช้ทั้งความคิด และการกระทำเพื่อให้ประเทศไทยมีทางรอดและกลับมีความสงบสุขมั่นคงเหมือนเช่นอดีตที่ผ่านมา
การปลูกฝังผ่านพระบรมราโชวาทล้วนมีการสอดแทรกเรื่องการปลูกฝังความซื่อสัตย์สุจริตทั้งสิ้น จึงถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างหาที่สุดมิได้
ดังนั้น ในการขับเคลื่อนสร้างค่านิยมสุจริต จึงได้มีการกำหนดให้มีการประยุกต์หลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเครื่องมือต้านทุจริตโดยกำหนดไว้ในกลยุทธ์ที่ 3 ของยุทธศาสตร์ที่ 1 สร้างสังคม ที่ไม่ทนต่อการทุจริต ในยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระยะที่ 3 (พ.ศ.2560 - 2564) และ เนื่องในโอกาสวันสถาปนาสำนักงาน ป.ป.ช. ครบรอบ 17 ปี ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2559 สำนักงาน ป.ป.ช. จึงได้จัดงานภายใต้แนวคิด “ซื่อสัตย์ สุจริต ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท” โดยมีพิธีทำบุญตักบาตร พิธีพราหมณ์สักการบูชาพระภูมิ - เจ้าที่ พิธีมอบรางวัลแก่บุคลากรสำนักงาน ป.ป.ช. คือ รางวัลเพชรน้ำเอก และรางวัลสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดที่มีผลงานด้านการประชาสัมพันธ์และบริการประชาชนดีเด่นและ จัดแสดงนิทรรศการซื่อสัตย์ สุจริต ตามรอยเบื้อง พระยุคลบาท เพื่อนำหลักธรรมะ พระราชจริยาวัตร และพระราชดำรัสที่เป็นแบบอย่างดังกล่าว น้อมนำไปปฏิบัติตามรอยพระยุคลบาทสืบไป อันเป็นพื้นฐานในการลดปัญหาการทุจริตอย่างยั่งยืนหากทุกคนในสังคมดำรงตนด้วย ความซื่อสัตย์ สุจริต อยู่อย่างพอเพียง
สำนักงาน ป.ป.ช. ในฐานะที่เป็นองค์กรหลักในการทำหน้าที่ป้องกันและปราบปราม การทุจริตและส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม โดยเฉพาะการเชิดชูคนดีให้ปรากฏต่อสังคม จึงขอเชิญชวน ให้ประชาชนร่วมเป็นพลังเครือข่ายช่วยกันป้องกันการทุจริต เริ่มต้นจากครอบครัว ผู้ปกครองต้องปลูกฝัง ให้ลูกหลานมีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ต่อต้านการทุจริต ช่วยกันสอดส่องดูแลโดยพึงระลึกเสมอว่า “ประเทศไทยใสสะอาด ไทยทั้งชาติต้านทุจริต” (Zero Tolerance & Clean Thailand) หากพบเห็นการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ ให้โทรแจ้งสายด่วน ป.ป.ช. 1205 หรือร้องเรียนผ่านเว็บไซต์ สำนักงาน ป.ป.ช. WWW.NACC.GO.TH หรือสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัด
ขอบคุณภาพประกอบจาก : หอจดหมายเหตุ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (www.archive.kku.ac.th)