กทม.คาดเซ็นสัญญาโครงพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำแรกกลางปีหน้า

สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ยันโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทำเพื่อประชาชนทุกคนเข้าถึงพื้นที่สาธารณะ เผยกำลังอยู่ในขั้นตรวจสอบข้อมูลเตรียมสัญญาจ้าง เริ่มย้ายผู้ถูกเวนคืนเข้าที่อาศัยใหม่แล้ว  งบก้อน แรก 5 พันล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 14 พฤศจิกายน คณะกรรมการปกครองและรักษาความสงบเรียบร้อย กรุงเทพมหานคร ประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ห้องประชุม สำนักงานเขตพระนคร

พล.ต.ต. ประสพโชค พร้อมมูล ประธานกรรมการฯ และสมาขิกสภากรุงเทพมหานคร กล่าวถึงโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นโครงการของรัฐบาลเพื่อพัฒนาและจัดระเบียบฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาให้ดีขึ้น และพยายามจะให้มีผลกระทบกับชุมชนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาให้น้อยที่สุด โดยชุมชนที่ได้รับผลกระทบฝั่งพระนครมี 3 เขต คือ เขตบางซื่อ เขตพระนคร เขตบางพลัด ระยะทางฝั่งละ 7 กิโลเมตร  โดยสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์(สนย.) ได้รับแบบการก่อสร้างจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.)แล้ว ตอนนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพื่อเตรียมเสนอกับกระทรวงมหาดไทยเพื่ออนุมัติสัญญาจ้าง

"สัญญาจ้างจะเริ่มที่ฝั่งธนบุรีก่อน 2 สัญญา สัญญาละ 3 กิโลเมตร สาเหตุที่ทำ 2 สัญญานี้ก่อนพราะชุมชนบริเวณดังกล่าวไม่มีปัญหาเกี่ยวกับโครงการนี้   สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนพื้นที่ ทางรัฐบาลได้จัดสรรพื้นที่ไว้ให้เป็นที่พักอยู่อาศัยแล้ว เช่น บ้านเอื้ออาทร แฟลตขส.ทบ. หรือไปอยู่ในที่ดินใหม่ และบางส่วนอยู่ในที่ดินเดิมก็จะมีงบในการปรับปรุงพัฒนาสิ่งก่อสร้างให้ดีขึ้น"

พล.ต.ต. ประสพโชค กล่าวอีกว่า การที่รัฐบาลริเริ่มโครงการนี้เพื่อต้องการให้เป็นที่พักผ่อนของประชาชน ให้สามารถเข้าถึงแม่น้ำเจ้าพระยาได้สะดวกขึ้น ปัจจุบันคนที่จะเข้าแม่น้ำเจ้าพระยาลำบาก เพราะจะถูกปิดกั้นด้วยอาคารและตึกสูง หากว่าโครงการนี้สำเร็จขึ้นแล้วไม่เพียงแต่ประชาชนในกรุงเทพมหานครเท่านั้นแต่ประชาชนทั้งประเทศก็สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์และสัมผัสแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างเท่าเทียมกัน

ด้านนายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการออกแบบ สำนักงานโยธา กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการเวนคืนนั้น โครงการแรกฝั่งธนบุรีมีเพียงชุมชนเดียวที่รุกล้ำพื้นที่สาธารณะ มีจำนวน 10 ครัวเรือน ชุมชนนี้ได้เจรจาหาทางออกเรียบร้อยแล้ว ส่วนของฝั่งพระนครที่ย้ายไปอยู่แฟลตขส.ทบ. คือ ชุมชนปากคลองบางเขนใหม่ 8 ครัวเรือน ชุมชนวัดสร้อยทอง 5 ครัวเรือน ชุมชนเขียวไข่กา 21 ครัวเรือน ชุมชนศาลเจ้าแม่ทับทิม 5 ครัวเรือน ชุมชนราชผาทับทิม 1 ครัวเรือน รวมทั้งหมด 64 ครัวเรือน อีก 50 ครัวเรือนจะไปอยู่บ้านเอื้ออาทรการเคหะที่นครชัยศรี อีก 36 ครัวเรือนจะตั้งเป็นสหกรณ์เพื่อซื้อที่ดินใหม่ แถวบางใหญ่ อีก 45 ครัวเรือน ขอย้ายออกจากพื้นที่และรับเงินค่าช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งเงินช่วยเหลืออยู่ในระหว่างที่กระทรวงมหาดไทยจะนำเข้าครม.เพื่ออนุมัติเงินช่วยเหลือ ทุกหลังคาเรือนที่ย้ายไปอยู่ที่อื่นจะได้รับเงินช่วยเหลือทุกหลังคา 

นายไทวุฒิ กล่าวด้วยว่า เดือนธันวาคมจะเสนอกระทรวงมหาดไทยเพื่อนำเข้าครม. หลังจากที่ครม.เห็นชอบประมาณ 4-5 เดือน ถึงจะมีการสรรหาผู้ว่าจ้าง เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่จะต้องนำเข้าครม.อีกครั้งหนึ่ง คาดว่า ประมาณเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ.2560 มีโอกาสได้เซ็นสัญญา โครงการแรกมี 2 สัญญา ค่าจ้างในแต่ละสัญญาจะอยู่ที่โครงการละ 2 พันกว่าล้านบาท รวมทั้งสองสัญญา 5 พันล้านบาท

อ่านประกอบ : ล่องเรือฟัง! โครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พัฒนาหรือทำลาย?

                 โครงการเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา 'สุ่มเสี่ยง' ผิดกฎหมายหลายฉบับ ?

                 โฆษกโครงการริมฝั่งเจ้าพระยา ยัน TOR ไม่ระบุสร้างถนนคอนกรีต-มีตอม่อตลอดลำน้ำ