รมว.คลัง สั่งสอบเว้นภาษีเชฟรอน3พันล. ปม30ปีเก็บมาตลอดเพิ่งเปลี่ยนปี 54

รมว.คลัง สั่งตั้งกก.สืบสวนข้อเท็จจริงปมภาษีน้ำมันบ.เชฟรอนแล้ว ตั้งประเด็นหลักกระบวนการทำงาน 30 ปี เรียกเก็บมาตลอด เพิ่งเปลี่ยนแนวคำวินิจฉัยช่วงปี 54 เผยเพื่อยับยั้งความเสียหายราชการให้เรียกเก็บภาษีสรรพสามิตพร้อมแวตมากกว่า 3,000 ล้าน คืนมาก่อน ถ้ากฤษฎีกาวินิจฉัยว่ายกเว้นค่อยคืนให้เอกชน 

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงความคืบหน้ากรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทำหนังสือแจ้งให้กระทรวงการคลังดำเนินการทางวินัย และอาญากับผู้เกี่ยวข้องกรณีการตีความว่าการขนส่งน้ำมันออกไปยังแท่นขุดเจาะของบริษัทบริษัทเชฟรอน (ประเทศไทย)จำกัด ไม่ถือเป็นการส่งออกทำให้ไม่ต้องเสียภาษี ว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีคำสั่งให้สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงถึงกรณีนี้ทั้งหมดว่า ทำไมถึงมีการตีความว่า การส่งน้ำมันไปยังแท่นขุดเจาะ เป็นการส่งออกทำให้มีการยกเว้นภาษีสรรพสามิต มีใครที่เกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวบ้าง อย่างไร 

แหล่งข่าวกล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นทั้งหมด พบว่า กรณีการส่งน้ำมันไปยังแท่นขุดเจาะของบริษัทที่ได้รับสัมปทานในตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา มีการเก็บภาษีสรรพาสามิตตามปกติ จนกระทั่งปลายปี 2553 ทางบริษัทเชฟรอนฯ ได้ทำหนังสือหารือกรมศุลกากรว่า การส่งน้ำมันไปยังแท่นขุดเจาะเป็นการส่งออกหรือไม่ ซึ่งกรมศุลกากรได้ตอบข้อหารือเมื่อต้นปี 2554 ระบุว่าเป็นการส่งออก ทำให้ไม่มีการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดังกล่าว จนกระทั่งช่วงต้นปี 2559 เป็นเงินกว่า 3,000 ล้านบาท นอกจากนั้น ในการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) ปกติ จะคิดจากฐานราคาน้ำมันบวกภาษีสรรพสามติ ก็ต้องคิดในราคาน้ำมันที่ไม่มีภาษีสรรพสามิตทำให้การเก็บภาษีส่วนนี้ต่ำกว่าความเป็นจริงด้วย สำหรับเหตุผลที่ไม่มีการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat) เหมือนภาษีสรรพสามิต เนื่องจากในประมวลรัษฎากรระบุว่า บริเวณไหล่ทวีปอยู่ในเขตราชอาณาจักร ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นที่สำคัญว่า การตีดความกฎหมายหมายสองฉบับลักลั่นกัน

“เหตุผลสำคัญที่คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงต้องหาคำตอบมาให้ได้คือ ทำไมอยู่ดีๆ กรมศุลกากรในขณะนั้น จึงเปลี่ยนแนวคำวินิจฉัยว่า การเอาน้ำมันส่งไปที่แท่นขุดเจาะเป็นการส่งออก ทั้งที่ตลอด 30 ปี ได้เก็บภาษีมาตลอด"   

แหล่งข่าวด้วยว่า เพื่อระงับยับยั้งความเสียหายระหว่างการส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความข้อกฎหมายในขณะนี้ กระทรวงการคลัง ได้มีคำสั่งไปยังกรมสรรพสามิต ให้เรียกเก็บภาษีที่ยกเว้นตลอด 4 ปี จากบ.เชฟรอน เป็นเงินกว่า 3,000 ล้านบาท และให้กรมสรรพากร เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเติมจากที่ขาดหายไปจากการคำนวณฐานราคาน้ำมันที่ต่ำกว่า และไม่มีการบวกภาษีให้ครบถ้วนโดยเร็ว เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้เกิน 5 ปี นับจากช่วงต้นปี 2554 ที่ไม่ได้มีการเรียกเก็บจะทำให้ไม่สามารถเรียกเก็บภาษีส่วนที่ขาดไปได้ ซึ่งถ้าผลการตีความออกมาทางตรงกันข้าม ก็ยังสามารถคืนภาษีให้บริษัทได้

อ่านประกอบ : 

สตง.ขู่ฝ่าฝืน ม.157! ปลัดคลังฯ ยื้อเก็บภาษีน้ำมันเชฟรอน ส่งกฤษฎีกาตีความซ้ำ

เบื้องหลัง"ค่าโง่"ภาษี 3,000 ล้าน "บิ๊ก"กรมศุล-คลังอุ้ม"เชฟรอน"?

ค่าโง่ภาษีน้ำมันที่ต้องเรียกคืน 

สตง.รับลูกค่าโง่ภาษีน้ำมัน บ.เชฟรอน!แจ้ง'บิ๊กตู่' สั่งรมว.คลังเรียกเงินคืน 3 พันล. 

โชว์ชัดๆ หนังสือ สตง. ขอ'บิ๊กตู่'สั่งคลังเรียกคืนค่าโง่ภาษีบ.เชฟรอน3พันล.-เชือดจนท.! 

ไม่สนสตง.ขู่ฝ่าฝืนม.157! คลัง ส่งกฤษฎีกาตีความซ้ำ ปมเก็บภาษีน้ำมันเชฟรอน

เข้าข่ายความผิดต่อหน้าที่!สตง.โนติส'รมว.คลัง'ส่งตีความซ้ำปมภาษีน้ำมันเชฟรอน

หมายเหตุ : ภาพประกอบ  นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จากManager Online