เปิดตัวบ.ถูกอีสท์วอเตอร์ยึดหลักประกัน370ล.-ผู้บริหารเตรียมสู้คดีคลองทับมา
"..ปัญหาความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการนี้ เกิดขึ้นจากการที่ อีสท์วอเตอร์ มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหารบริษัทใหม่ ช่วงปี 2558 และมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายไม่สานต่อการเข้าไปเจรจากับทางองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง เรื่องการขอใช้พื้นที่สาธารณะบางส่วนที่อยู่ในพื้นที่ดำเนินงานการโครงการ จึงทำให้งานเกิดความล่าช้าไม่สามารถทำต่อได้.."
เป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนที่กำลังถูกจับตามอง!
สำหรับปัญหาการดำเนินงานก่อสร้างก่อสร้างสระเก็บน้ำดิบคลองทับมา จ.ระยอง วงเงินกว่าพันล้านบาท ของ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ เมื่อล่าสุด นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อีสท์วอเตอร์ ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ขณะนี้อีสท์วอเตอร์ได้สั่งยึดหลักประกันสัญญาจากเอกชนที่เข้ามารับจ้างดำเนินการงานก่อสร้างสระเก็บน้ำดิบคลองทับมา จ.ระยอง หลังจากครบกำหนดส่งมอบงานในช่วงเดือนกรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา แต่เอกชนทำงานไม่เสร็จตามสัญญาจ้าง
"เมื่อเอกชนไม่ทันตามสัญญาจ้าง เราจำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนในการยึดหลักประกันสัญญาจ้างงาน วงเงิน 370 ล้านบาท ที่วางไว้ ส่วนจะมีการดำเนินการเรื่องการฟ้องร้องตามขั้นตอนกฎหมายต่อหรือไม่ คงจะต้องมีการปรึกษาหารือกับฝ่ายกฎหมายอีกครั้ง"
คำถามที่น่าสนใจ คือ เอกชนที่เข้ามารับผิดชอบงานโครงการนี้ คือใคร? และมีเหตุผลอะไรที่ส่งมอบงานไม่ทันตามกำหนดสัญญาจนทำให้ต้องถูกยึดหลักประกันวงเงิน 370 ล้านบาท
(อ่านประกอบ : ยึดหลักประกัน370ล.!อีสท์วอเตอร์เชือดบ.ผิดสัญญาสร้างสระเก็บน้ำคลองทับมา)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า เอกชนที่เข้ามารับจ้างงานก่อสร้างโครงการนี้ คือ บริษัท บ้านค่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีต จำกัด และ บริษัท ซิสโกเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด โดยดำเนินงานในรูปของ'กลุ่มกิจการร่วมค้า'
แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ โดยบริษัทแรกดำเนินการในเรื่องการจัดหาที่ดิน ส่วนบริษัทที่สองรับผิดชอบงานในส่วนการก่อสร้าง
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท บ้านค่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีต จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2532 ทุนปัจจุบัน 400 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 64/4 หมู่ที่ 2 ตำบลบางบุตร อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง
ปรากฎชื่อ น.ส. วรรณา บุรีวงษ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจและผู้ถือหุ้นใหญ่
ส่วน บริษัท ซิสโกเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2520 ทุนปัจจุบัน 300 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 248 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
ปรากฎชื่อ นาย อำนาจ เจิมประไพ, นาง วันเพ็ญ เจิมประไพ, นาย ธนพล เจิมประไพ, นาง สุรีย์พร เจิมประไพ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจนาย ธนพล เจิมประไพ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด
ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายวันที่ 10 พ.ย.2559 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง บริษัท บ้านค่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีต จำกัด เพื่อขอสัมภาษณ์ผู้บริหารฯ ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาการส่งมอบงานก่อสร้างก่อสร้างสระเก็บน้ำดิบคลองทับมา จ.ระยอง จนทำให้ถูกยึดหลักประกันวงเงิน 370 ล้านบาท ตามที่ปรากฎเป็นข่าว
ได้รับการชี้แจงจากผู้บริหารบริษัทฯ รายหนึ่ง ว่า ปัญหาความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการนี้ เกิดขึ้นจากการที่ อีสท์วอเตอร์ มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหารบริษัทใหม่ ช่วงปี 2558 และมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายไม่สานต่อการเข้าไปเจรจากับทางองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง เรื่องการขอใช้พื้นที่สาธารณะบางส่วนที่อยู่ในพื้นที่ดำเนินงานการโครงการ จึงทำให้งานเกิดความล่าช้าไม่สามารถทำต่อได้
"ช่วงก่อนที่มีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารใหม่ ทางอีสท์วอเตอร์มีการเจรจาทำบันทึกข้อตกลงเรื่องการใช้พื้นที่สาธารณะกับอบจ.แล้ว และดำเนินการขั้นตอนประชาพิจารณ์เรียบร้อยแล้ว แต่พอมีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารใหม่ นโยบายก็เปลี่ยนไม่ดำเนินการเรื่องนี้ต่อ และมาแจ้งเราแบบนี้ เราก็ทำอะไรไม่ทัน เพราะทุกอย่างต้องไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ และทำให้งานมีความล่าช้า ซึ่งประเด็นนี้ ทางฝ่ายเอกชนจะหยิบยกไปใช้เป็นแนวทางในการต่อสู้คดีในชั้นศาลด้วย"
เมื่อถามว่า ปัจจุบันการก่อสร้างโครงการมีความคืบหน้าอย่างไร ผู้บริหารรายนี้ ตอบว่า "เราก่อสร้างไปได้แล้วประมาณ 70% ส่วนที่เหลือติดปัญหาเรื่องการขอใช้พื้นที่สาธารณะ"
เมื่อถามว่า ปัจจุบันทางอีสท์วอเตอร์ จ่ายเงินค่าจ้างมาแล้วเท่าไร ผู้บริหารรายนี้ ตอบว่า มูลค่าโครงการอยู่ที่ 2,200 ล้านบาท ทางอีสท์วอเตอร์ จ่ายเงินมาแล้วประมาณ 1,200-1,300 ล้านบาท เหลือเงินอยู่ประมาณ 900 กว่าล้านบาท
ผู้บริหารบริษัทรายนี้ ยังย้ำด้วยว่า งานก่อสร้างสระเก็บน้ำดิบคลองทับมา จ.ระยอง เป็นโครงการที่มีความสำคัญมาก สำหรับคนในจ.ระยอง เพราะสามารถช่วยเก็บกักน้ำ และป้องกันปัญหาน้ำท่วมได้ ทุกฝ่ายก็อยากให้งานเสร็จโดยเร็ว และเมื่อหลังจากสร้างเสร็จแล้ว โครงการนี้ ก็ตกเป็นกรรมสิทธิ์ ของผู้ว่าจ้างก็คือ อีสท์วอเตอร์ ซึ่งถ้าหากอีสท์วอเตอร์ช่วยเข้ามาประสานงานเรื่องการขอใช้พื้นที่ให้ ก็จะช่วยทำให้งานเดินหน้าต่อ ไม่มีปัญหาอุปสรรคอะไรเกิดขึ้น
ขณะที่ แหล่งข่าวจากอีสท์วอเตอร์ ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า "การดำเนินงานโครงการนี้กำหนดไว้ชัดเจนว่า เอกชนจะต้องเป็นฝ่ายจัดหาที่ดินมาใช้ในการดำเนินงานก่อสร้างโครงการ และก่อสร้างงานเพื่อส่งมอบให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา ประเด็นนี้ ต้องถามว่า ทำไมเอกชนถึงไปเลือกพื้นที่โครงการที่มีพื้นที่บางส่วนอยู่ในพื้นที่สาธารณะ และเมื่อมีปัญหาเกิดมาร้องขอให้อีสท์วอเตอร์ ในฐานะผู้ว่าจ้างเข้าไปช่วยเหลือ นอกจากนี้ วงเงินหลักประกันสัญญาจำนวน 370 ล้านบาทที่ยึดไว้ ก็ถือว่ามีจำนวนน้อย หากเปรียบเทียบกับวงเงินที่อีสท์วอเตอร์จ่ายให้กับเอกชนไปแล้วกว่าพันล้านบาท ฝ่ายใดจะเสียหายมากกว่ากัน เข้าใจว่าข้อมูลเหล่านี้ ฝ่ายบริหารชุดใหม่ของอีสท์วอเตอร์กำลังพิจารณารายละเอียดกันอยู่"
ทั้งหมดนี่ คือข้อมูลล่าสุด ของปัญหาเรื่องนี้และเป็นประเด็นที่ต้องติดตามตรวจสอบกันต่อไป
อ่านประกอบ :
บอร์ดชุดเก่าทำไว้! ปธ.อีสท์วอเตอร์สั่งสอบปมจ้างขุดสระพันล.เอื้อเอกชน
คนอีสท์วอเตอร์ โวยผู้บริหารเอื้อเอกชนขุดสระเก็บน้ำพันล. รุกที่สาธารณะ
คลี่ปมร้อน-ไขข้อมูลลับ! 'อีสท์วอเตอร์'จ้างขุดสระเก็บน้ำพันล. รุกที่สาธารณะ?
'อีสท์วอเตอร์' แจงทำตามขั้นตอนกม.!ปมจ้างเอกชนขุดสระเก็บน้ำพันล้าน
ผู้ว่าฯระยอง ปัดถูกล็อบบี้ช่วยอีสท์วอเตอร์เคลียร์ปมขุดสระพันล.รุกที่สาธารณะ
ผู้ว่าฯระยองยัน ‘อีสท์วอเตอร์’ไม่มีเจตนารุกที่สาธารณะปมขุดสระพันล.
ยึดหลักประกัน370ล.!อีสท์วอเตอร์เชือดบ.ผิดสัญญาสร้างสระเก็บน้ำคลองทับมา