ซื้อไก่ไข่แพงเกินจริง เสียหาย11ล.!สตง.แจ้งผู้ว่าฯสั่งนายกอบจ.สุรินทร์ชดใช้
สตง.สรุปผลสอบโครงการฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ อบจ.สุรินทร์ ปี 57-59 วงเงิน 143 ล้าน พบส่อไม่บรรลุวัตถุประสงค์ แถมมีปัญหาจัดซื้อไก่พันธุ์ไข่สูงกว่าราคาท้องตลาด ทำให้ราชการเสียหายเป็นเงินกว่า 11 ล้าน แจ้งผู้ว่าฯ ดำเนินการทางละเมิด นายกฯอบจ. -ผู้เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้สรุปผลการตรวจสอบโครงการฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)สุรินทร์ ปีงบประมาณ 2557 – 2559 วงเงิน 143,048,845 บาท ที่ดําเนินการฝึกอบรมเกษตรกรตามเป้าหมายจํานวน 130,100 ราย ทุกอําเภอรวมทั้งหมด 17 อําเภอ พบปัญหาการดำเนินงานส่อว่าจะไม่บรรลุวัตถุประสงค์และไม่เกิดความยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีการปัญหาการจัดซื้อไก่พันธุ์ไข่ที่สูงกว่าราคาท้องตลาดทำให้ราชการเสียหายเป็นเงินกว่า 11 ล้านบาท
ทั้งนี้ สตง.ระบุว่า จากการตรวจพบว่า การกําหนดราคากลางของไก่พันธุ์ไข่ ปีงบประมาณ 2558-2559 ของอบจ.สุรินทร์ เปรียบเทียบกับข้อมูลการสืบค้นราคาทางอินเตอร์เน็ตจากข้อมูลผู้ผลิตรายใหญ่และจากหน่วยงานราชการอื่น พบว่า ราคากลางของ อบจ.สุรินทร์มีราคาสูงกว่าราคาที่สืบค้นทางอินเตอร์เน็ต เนื่องจากการกําหนดราคากลางของอบจ.สุรินทร์ใช้วิธีสืบราคาเพียงจากกลุ่มผู้ขายในจังหวัดสุรินทร์ และพื้นที่ใกล้เคียง แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าได้มีการสืบราคาจากท้องตลาดของผู้ผลิตรายใหญ่ และการจัดซื้อแต่ละครั้งมีปริมาณมากจํานวน 63,000-100,950 ตัว ซึ่งการใช้ราคาจากผู้ผลิตรายใหญ่หรือจากหน่วยงานราชการอื่นที่เคยจัดซื้อนํามาประกอบเพื่อเป็นราคาอ้างอิงด้วยความเหมาะสม จะเป็นประโยชน์ต่อทางราชการและเป็นไปโดยประหยัด
อีกทั้งยังพบว่าราคาที่ใช้ในการจัดหาพัสดุดังกล่าวในปีงบประมาณ 2558 เป็นราคาตามงบประมาณที่ตั้งไว้มิใช่ราคาตลาดอย่างแท้จริงและจากการเปรียบเทียบราคาการจัดซื้อไก่พันธุ์ไข่ระหว่าง อบจ.สุรินทร์กับ หน่วยงานราชการอื่นที่สามารถสืบค้นได้จากอินเตอร์เน็ตในช่วงปี 2558 – 2559พบว่าอบจ.สุรินทร์จัดซื้อแพงกว่าหน่วยงานราชการมีมูลค่าความเสียหายอย่างน้อย คิดเป็นเงินจํานวน11,138,286.00 บาท
เบื้องต้น สตง.ได้ทำหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ถึงความเสียหายที่เกิดจากการจัดซื้อไก่พันธุ์ไข่ที่มีราคาสูงกว่าท้องตลาดและสูงกว่าหน่วยงานราชการอื่นที่จัดซื้อในห้วงเวลาเดียวกัน(ช่วงปี 2558-2559) ซึ่งทําให้ราชการเสียหายอย่างน้อยเป็นเงินทั้งสิ้น 11,138,286 บาทแล้ว ให้ดําเนินการทางละเมิดและดําเนินการตามควรแก่กรณีกับนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์และผู้ที่เกี่ยวข้อง ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ คือ นายกิติเมศวร์ รุ่งธนิเกียรติ (ชื่อเดิมนายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ)
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก http://news.sanook.com/1944730/