ผู้ว่าฯสตง.แจงปมทริปดูงานยุโรปว่อนเน็ต!ไร้แอบแฝงเรื่องเที่ยว-ช่วง100วันยังไม่ไป
'ผู้ว่าฯ สตง.' แจงปมกำหนดการศึกษาดูงาน 'ฝรั่งเศส -ออสเตรีย' ส่งแชร์ต่อว่อนโลกออนไลน์ รับมีโปรแกรมจัดฝึกอบรมจริง จำเป็นอย่างยิ่งต้องไป เพื่อให้ระบบการตรวจสอบไทยได้รับการยอมรับเป็นมาตรฐานโลก แต่ยังไม่ใช่ช่วง 50 -100 วัน นี้แน่นอน ลั่นไร้แอบแฝงท่องเที่ยว ขีดเส้นทุกกิจกรรมเน้นการศึกษาหาความรู้เท่านั้น
จากกรณีมีผู้นำเอกสารการฝึกอบรมดูงานในต่างประเทศ หลักสูตร "นักบริหารการตรวจเงินแผ่นดินระดับสูง" รุ่นที่ 6 ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่มีกำหนดการเดินทางไป สาธารณรัฐฝรั่งเศส และออสเตรีย ระหว่างวันที่ 15-25 พ.ย.2559 รวมระยะเวลา 11 วัน ซึ่งมีการระบุถึงการทัศนศึกษาสถานที่สำคัญ ในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. 2559 ซึ่งเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ มาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีการสอดแทรกโปรแกรมการท่องเที่ยวเข้าไปด้วย เป็นการใช้จ่ายงบประมาณที่ไม่คุ้มค่า ทั้งที่ สตง.เป็นหน่วยงานตรวจสอบเรื่องการใช้จ่ายเงินประมาณแผ่นดิน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ในช่วงเช้าวันที่ 3 พ.ย.2559 ได้ติดต่อไปยัง นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนี้
นายพิศิษฐ์ ยอมรับว่า หลักสูตร "นักบริหารการตรวจเงินแผ่นดินระดับสูง" รุ่นที่ 6 ของ สตง. มีกำหนดการเดินทางไปศึกษาดูงานที่ ฝรั่งเศส และออสเตรียจริง เป็นการฝึกอบรมต่อเนื่อง หลังจากการจัดฝึกอบรมในต่างประเทศดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว ส่วนที่เป็น2 ประเทศนี้ เพราะเป็นที่ตั้งของหน่วยงานฝึกอบรมการตรวจสอบระดับโลก ถ้าไม่ผ่านการฝึกอบรมจะไม่ได้รับการรับรองการทำงานในระดับที่เป็นมาตรฐานสากลโลก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงระยะเวลา 50 -100 วันนี้ สตง.จะยังไม่เดินทางไปอบรมในต่างประเทศตามที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน แม้ว่าจะจำเป็นอย่างยิ่ง ต้องปรับแผนพัฒนาบุคคลากรใหม่ไปก่อน แต่มิได้หมายความสตง.จะหยุดการรับการฝึกอบรมไป หากผ่านพ้นสถานการณ์ขณะนี้ไปแล้ว จะมีการพิจารณาเรื่องการเดินทางใหม่อีกครั้ง
นายพิศิษฐ์ ยังต่อว่า IACA เป็นสถาบันที่ฝึกสอน-อบรมทางด้านการตรวจสอบค้นหากรณีทุจริต ซึ่งจำเป็นและสอดคล้องกับสถานการณ์การตรวจสอบในปัจจุบันที่ สตง.ต้องทำงานตรวจสอบเชิงรุกและเจาะลึก ซึ่งสถาบันแห่งนี้ เป็นสถาบันที่หน่วยงานตรวจสอบทั่วโลกไปรับการศึกษาอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการตรวจสอบให้มีศักยภาพสูงขึ้น เมื่อผ่านการอบรม จะมีวุฒิบัตรรับรองผู้ผ่านการศึกษาอบรมให้ด้วย
ส่วน OECD เป็นแหล่งที่ควรแก่การเรียนรู้ถึงเรื่องการกำกับธรรมาภิบาลในทางการบริหารจัดการเพื่อ เพิ่มพูนวิสัยทัศน์ในทางตรวจสอบ ป้องกันและบรรเทาความเสียหาย เป็นการยกระดับการพัฒนาในทางตรวจสอบเชิงบริหารจัดการ
"การที่หน่วยงานตรวจสอบไม่ได้ผ่านการฝึกอบรมพัฒนาจากสถาบันการตรวจสอบ ในทางสากลอาจถูกอนุมานได้ในระดับหนึ่งว่า ศักยภาพการป้องกันและปราบปรามการทุจริต อยู่ในเกณฑ์ต่ำ ทำให้ดัชนีตัวชี้วัดความโปร่งใสอยู่ในเกณฑ์มีความเสี่ยงต่อการทุจริตสูง แต่แน่นอน สตง. คงไม่กล่าวอ้างว่า ผลรับจากการไปศึกษาอบรมตามแผนพัฒนานี้ จะให้ความคุ้มค่ามากอย่างไร เพียงแต่คาดหวังว่าการไปพัฒนาเพิ่มพูนความรู้การตรวจสอบเชิงรุกและเจาะลึกแก่บุคลากรระดับสูง จะช่วยยกระดับการพัฒนาการตรวจสอบเชิงป้องกัน ป้องปรามและปราบปรามการทุจริตทางการเงินแผ่นดินได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และ ลดความเสี่ยงต่อความเสียหาย หรือติดตามทวงคืนความเสียหายได้เพิ่มขึ้นบ้างตามสมควร และเป็นประโยชน์ อีกยาวนาน"
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า ในกำหนดการมีการสอดแทรกโปรแกรมท่องเที่ยวอยู่ด้วย ผู้ว่าฯ สตง. ยืนยันว่า แผนพัฒนาบุคลากร สตง. ไม่ใช่แผนแอบแฝงเรื่องการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน ไม่ว่าผู้ว่าการ สตง. จะชื่อ พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส หรือเป็นใครก็ตาม สตง. ยังคงยืนหยัดความถูกต้องชอบธรรมตลอดไป และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ในองค์พระราชดำรัสที่พระราชทานไว้ว่า เงินแผ่นดินนั้นคือ เงินของประชาชนทั้งชาติ
"กำหนดการที่ถูกนำไปส่งแชร์ต่อกันในโลกออนไลน์ขณะนี้ ยังไม่ได้เป็นกำหนดการที่ได้รับความเห็นชอบเป็นทางการเลย ต้องปรับเปลี่ยนแก้ไขเพิ่มเติมอีกหลายครั้ง กำหนดการอะไรที่ไประบุว่าทัศนศึกษาดูสถานที่ อาคารบ้านเรือนที่นั้นที่นี้ แม้ว่าช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ จะเป็นวันหยุดของฝรั่งเขา ไม่มีการเรียนการสอน ผมก็จะสั่งตัดไม่ให้มีกิจกรรมอะไรแบบนี้อย่างแน่นอน ทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นจะต้องเป็นการศึกษาดูงานตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตรเท่านั้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่า มีใครหวังดีกับสตง. รีบนำข้อมูลไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์แบบนี้ ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่แบบที่ไปตีความวิพากษ์วิจารณ์กัน โดยไม่มาสอบถามความจริงให้รู้กันก่อน" ผู้ว่าฯ สตง.ระบุ