ลุงเรือง กับ ป้าเล็ก...จะอยู่อย่างไรเมื่อไร้ครูสุณิสา
แม้การจากพรากย่อมเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องพบเจอในชีวิต แต่การจากไปอย่างรวดเร็ว ฉับพลัน ไม่ทันให้คนข้างหลังได้ทันตั้งตัว ย่อมทำให้การยอมรับสภาพได้เป็นเรื่องยาก และอาจต้องใช้เวลานานแสนนาน
ดังเช่นพ่อกับแม่ของ ครูสุณิสา บุญเย็น ครู กศน.อำเภอมายอ จ.ปัตตานี ที่ถูกคร่าชีวิตด้วยกระสุนปืนของผู้หวังร้ายเมื่อวันที่ 28 ต.ค.59 ทั้งคู่อยู่ในวัยไม้ใกล้ฝั่ง และใกล้ชิดกับลูกสาวมาก แต่เมื่อจู่ๆ ทุกๆ เย็นไม่มีลูกสาวกลับมาบ้านอีกแล้ว จึงยังไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าใดจึงจะทำใจได้
เหตุร้ายในวันนั้นเกิดขึ้นเมื่อครูสุณิสาจอดรถเก๋งหน้าสำนักงาน กศน.มายอ เพื่อรอ ชฎพร ศรีเส้ง ลูกจ้าง กศน.เดินมาขึ้นรถเพื่อไปทำกิจกรรมย้อมผ้าดำ จังหวะที่ชฎพรกำลังเปิดประตูรถอีกด้านและก้าวเท้าขึ้นรถ มีคนร้าย 2 ขี่รถจักรยานยนต์มาประกบรถเก๋งที่จอดอยู่ริมถนน แล้วคนที่นั่งซ้อนท้ายก็ชักอาวุธปืนสาดกระสุนใส่ ก่อนจอดรถให้สนิทแล้วรัวยิงซ้ำอีกชุด กระสุนถูกครูสุณิสาเสียชีวิต ส่วนชฎพรได้รับบาดเจ็บ
บ้านเกิดของครูสุณิสา อยู่ที่บ้านมะรวด ต.ดอน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ถือเป็นคนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแท้จริง อัธยาศัยของเธอเป็นที่รักของชาวบ้านมะรวดและคนทั่วไปที่ได้รู้จักและทำงานร่วมกัน เธอเป็นคนตั้งใจทำงาน เต็มที่กับงาน ช่วยเหลือทุกงานเท่าที่มีกำลังทำได้ ดูแลครอบครัวและพ่อแม่ตลอดมา เมื่อวันที่เธอจากไปโดยมิได้ร่ำลาใคร จึงเป็นสิ่งที่ครอบครัวและชุมชนทำใจไม่ได้
ลุงเรือง บุญเย็น วัย 79 ปี และ ป้าเล็ก บุญเย็น วัย 74 ปี พ่อและแม่ของครูสุณิสา บอกว่า ไม่รู้จะทำใจได้อย่างไร เพราะอยู่ด้วยกันทุกวัน ลูกสาวคนนี้ดูแลพ่อแม่อย่างดีมาตลอด เมื่อไม่มีลูกแล้ว ต่อไปก็ต้องอยู่กันสองคนตายาย
“เขาขับรถไปกลับทุกวัน ปะนาเระถึงมายอ เพราะไม่ไกลกันเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปทำงาน จนสัก 5-6 ปีมานี้เองที่ขับรถไป รถก็เพิ่งผ่อนหมด สร้างบ้านใหม่เสร็จแล้ว กำลังจะทำบุญขึ้นบ้านใหม่วันที่ 10 พ.ย.นี้ แต่ลูกก็มาจากไปเสียก่อน”
ทั้งลุงเรือง และป้าเล็ก มีลูกด้วยกัน 3 คน ครูสุณิสาเป็นลูกสาวคนโต มีครอบครัวและมีลูกชายวัย 19 ปี สามีคนแรกเสียชีวิต มีสามีคนที่สองแต่ไม่มีลูกด้วยกัน ครูสุณิสาอยู่กับพ่อแม่ ดูแลครอบครัวมาตลอด ส่วนน้องอีกสองคนอยู่ในเมืองปัตตานี
“เราอยู่บ้านเดียวกัน เขาดูแลพ่อแม่ดีมาก จัดการเรื่องข้าวปลาอาหารก่อนไปทำงาน กลับมาเขาก็ทำให้กิน ไม่ค่อยไปไหน ไปเวลามีงานกิจกรรมกับชุมชน พอรู้ข่าวน้ำตาไหล ใจหาย ทำใจยากมาก เขาเหมือนแขนขาและทุกอย่างของพ่อกับแม่” ลุงเรืองบอกความรู้สึกพลางน้ำตาคลอ
ป้าเล็กเองก็พูดด้วยสุ้มเสียงและความรู้สึกที่ไม่ต่างกัน
“เห็นกันอยู่ทุกวัน อยู่ด้วยกันทุกวัน พอไม่มีเขา เวลาอยู่บ้านนึกถึงตลอด เห็นว่าเขาอยู่ตรงนั้น ตรงนี้ ทำอะไรอยู่ นึกภาพออกทุกอย่าง นอนไม่หลับ ไม่ลืม ลืมไม่ลงกับลูกคนนี้ เขาดูแลพ่อแม่ดี ต่อไปนี้ก็ต้องดูแลกันเองสองคนตายาย ทำกับข้าวกันเอง ไปไหนมาไหนกันเอง ต้องอยู่ให้ได้ เพราะไม่มีเขาอีกแล้ว”
ลุงเรือง บอกว่า ขอทำใจสักพัก ส่วนเรื่องของการตามจับคนร้ายให้เป็นเรื่องของผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ จากหลักฐานที่มีคาดว่าคงจะสามารถนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษได้ เรื่องความช่วยเหลือหลังลูกสาวเสียชีวิต ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ลุงเรืองฝากขอบคุณทุกคน ทุกหน่วยงาน และขอให้ร่วมกันส่งดวงวิญญาณของลูกสาวไปสู่สัมปรายภพ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ลุงเรือง กับ ป้าเล็ก
2 ภาคประชาสังคมรุดเยี่ยม
3 งานสวดพระอภิธรรมศพ ครูสุณิสา