ไม่ทราบเอกชนยื่นซองรายเดียว! ผอ.อส.แจงปัดเอี่ยวขั้นตอนจัดซื้อชุดตัดผม 1.8ล.
ผอ.อส. ปัดไม่ทราบเรื่องเอกชนรายเดียวยื่นซองเสนอราคาเครื่องตัดผม 1.8 ล้าน แค่สำรวจความต้องการในพื้นที่เท่านั้น กองคลังรับหน้าที่ผิดชอบขั้นตอนจัดซื้อ ปัจจุบันยังไม่เห็นสินค้า อยู่ระหว่างส่งมอบ
ความคืบหน้าล่าสุดกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2559 กรมการปกครอง ได้ประกาศรายชื่อผู้ชนะการประกวดราคาซื้อเครื่องมือตัดผมสำหรับสมาชิก อส. จำนวน 1,486 ชุด (1 ชุดมีสินค้าจำนวน 12 รายการ) โดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ระบุว่า บริษัท แกรนด์ พารากอน จำกัด โดยเสนอราคาต่ำสุด เป็นเงินทั้งสิ้น 1,891,678 บาท จากราคากลางงบประมาณที่ตั้งไว้ จำนวน 2,229,000 บาท โดยเบื้องต้น ได้มีการลงนามในสัญญาสั่งซื้อสินค้าแล้ว เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2559 ที่ผ่านมา
ขณะที่ในขั้นตอนการประกวดราคา มีเอกชน จำนวน 6 ราย เข้ามาซื้อซอง แต่เมื่อถึงเวลากับมีบริษัท แกรนด์ พารากอน จำกัด ยื่นซองเสนอราคาเพียงรายเดียวและได้รับการคัดเลือก
(อ่านประกอบ : ควัก1.8ล.ซื้อเครื่องมือตัดผมแจกอส.1,486ชุด-ราคากลางปัตตาเลี่ยน 750 บ./อัน, เบื้องหลัง!ปค.จัดซื้อเครื่องมือตัดผมแจก อส. 1,486 ชุด-ผู้ชนะยื่นซองรายเดียว 'ไร้คู่แข่ง')
เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2559 นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ กองอาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง ในฐานะหน่วยงานที่ผิดชอบการจัดซื้อเครื่องมือตัดผม จำนวน 1,486 ชุด ดังกล่าว ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า ในการจัดซื้อเครื่องมือตัดผมดังกล่าว กองอาสารักษาดินแดน มีหน้าที่รับผิดชอบแค่สำรวจความต้องการการใช้เครื่องมือของเจ้าหน้าที่เท่านั้น ส่วนขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างเป็นหน้าที่ของกองคลัง ตนจึงไม่ทราบรายละเอียดการจัดซื้อจัดจ้างว่าเป็นอย่างไร
" เท่าที่ทราบการจัดซื้อครั้งนี้ ใช้วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ที่เรียกว่า e -bidding ส่วนราคากลางครุภัณฑ์ต่างๆ ก็น่าจะเป็นตามราคากลางที่ราชการกำหนดไว้ ซึ่งตอนนี้ทางเรายังไม่ได้รับส่งมอบของมาให้ เข้าใจว่ายังอยู่ในขั้นตอนการส่งมอบสินค้า"
เมื่อถามว่า แต่การประกวดราคาโครงการนี้ มีเอกชนรายเดียวเข้ามายื่นซองเสนอราคา และได้รับการคัดเลือก นายวรยุทธ ระบุว่า "การดำเนินงานตรงนี้ ต้องขอโทษด้วยที่ให้ความเห็นไม่ได้จริงๆ เพราะไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องเลย แต่ผมยืนยันได้ว่าในฐานะหน่วยงานที่ต้องรับสินค้าเหล่านี้ไปใช้งาน จะให้ความสำคัญกับเรื่องของคุณภาพสินค้า ที่ต้องเหมาะสมกับราคา สามารถนำไปใช้งานได้จริงๆ ไม่ใช่ของที่มีปัญหา"
นายวรยุทธ ยังกล่าวด้วยว่า การจัดซื้อเครื่องตัดผมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้เวลาเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติงานด้านจิตวิทยา ให้การช่วยเหลือ หรือ บริการประชาชนในพื้นที่ต่างๆ โดยชุดเครื่องมือตัดผมที่จัดซื้อมาจะกระจายไปอยู่ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอ ซึ่งมีจำนวน 878 อำเภอ และกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัด กองบัญชาการส่วนกลาง ศูนย์อพยพช่วยเหลือผู้ลี้ภัย และพื้นที่ชายแดน เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อไปยัง ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงนี้เช่นกัน แต่อธิบดีแจ้งให้ติดต่อสัมภาษณ์ นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ กองอาสารักษาดินแดน ให้เป็นผู้ชี้แจงข้อมูลนี้โดยตรง